มติ กรธ.ชุด “มีชัย” หลุด หลังเจอตามขุดเมื่อตอนประชุมปี 61 ชี้ เจตนา รธน.60 มัดปม “ประยุทธ์” ครบ 8 ปี ส.ค.นี้ จับตาศาล รธน.รับเผือกร้อนชี้ขาด
วันนี้ (14 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกรณีที่ก่อนหน้านี้ ได้มีการเปิดบันทึกประชุม กรธ. ที่อ้างความเห็น “อ.มีชัย-สุพจน์” ว่าด้วยการดำรงตำแหน่ง นายกฯ ของ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ว่า 8 ปีนั้น ยังไม่ใช่มติสุดท้าย จึงเกิดประเด็นข้อถกเถียงต่อวาระการดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 วรรคท้าย กำหนดข้อจำกัดของผู้ที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ ว่า ต้องไม่เกิน 8 ปี
แต่ล่าสุด ได้มีเอกสารเผยแพร่มติที่ประชุมในการประชุม กรธ. ครั้งที่ 500 วันที่ 7 กันยายน 2561 ที่มี นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธาน กรธ. และ นายสุพจน์ ไข่มุกด์ รองประธาน กรธ. คนที่หนึ่ง ร่วมประชุมอยู่ด้วย ที่สรุปความได้ว่า “การนับวาระดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ให้นับรวมวาระที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ก่อนที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ใช้บังคับด้วย” โดยมีสาระสำคัญที่เกี่ยวเนื่องตอนหนึ่ง ว่า “การกำหนดหลักการใหม่ เกี่ยวกับการนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกฯ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการนับระยะเวลา คือ 8 ปี แม้บุคคลดังกล่าวจะไม่ได้ดำรงตำแหน่งนายกฯ ติดต่อกันก็ตาม แต่หากรวมระยะเวลาทั้งหมดที่ดำรงตำแห่งนายกฯ ของบุคคล แล้วเกิน 8 ปี ต้องห้าม ไม่ให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ การกำหนดระยะเวลา 8 ปีไว้ เพื่อไม่ให้เกิดการผูกขาดทางอำนาจทางการเมืองยาวนานเกินไป อันจะเป็นต้นเหตุวิกฤตทางการเมืองได้”
ซึ่งเอกสารชุดนี้ค้านกับคำสัมภาษณ์ของ นายสุพจน์ ไข่มุกด์ ที่เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ว่า เอกสารเป็นบันทึกการประชุมไม่ใช่มติ โดยเอกสารดังกล่าวเผยแพร่ได้ทั่วไปในห้องสมุด สถาบันการศึกษาไม่ใช่บันทึกลับ ทั้งนี้ การอ้างความเห็นตนและนายมีชัย นั้นไม่ถูกต้อง และต้องการประเด็นบางประการ เพราะข้อเท็จจริงการประชุมมีการหารือ ร่วมกัน 30 คน
ทั้งนี้ ในเมื่อมีมติของคณะ กรธ.ออกมาแย้งชัดเจน ซึ่งชี้ให้เห็นถึงเจตนารมย์ของผู้ร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญไว้แล้ว ก็คงต้องติดตามดูต่อไปว่าข้อสรุปของ “นายกฯ บิ๊กตู่” จะเป็นอย่างไร เพราะเรื่องนี้ คนที่มีอำนาจวินิจฉัย และชี้ได้ชัดเจนที่สุด คือ ศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น สุดท้ายต้องไปจบที่ศาล