xs
xsm
sm
md
lg

การเมืองกระบี่ เดือด “ภูเก้าล้วน” ปชป. ไล่ฟ้อง “สฤษดิ์พงษ์” ภูมิใจไทย หมิ่นประมาท เรียก 100 ล้าน เอาผิด อาญา พ.ร.บ.คอมฯ ใส่ร้าย ปม ที่ดินวัดแก้วฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การเมืองกระบี่ เดือด “ภูเก้าล้วน” ปชป. ไล่ฟ้อง “สฤษดิ์พงษ์” ภูมิใจไทย หมิ่นประมาท เรียก 100 ล้าน เอาผิดอาญา พ.ร.บ.คอมฯ ใส่ร้าย ปมที่ดินวัดแก้วฯ ด้าน “ทนายเชาว์” เผย ยังมีอีกหลายคดีที่จะตามมา เชื่อ พยานหลักฐานมัด ดิ้นไม่หลุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (11 ส.ค.) ที่ศาลอาญา กรุงเทพ ตระกูลภูเก้าล้วน นำโดย นายชวน ภูเก้าล้วน อดีตนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ คหบดีชื่อดัง การเมืองสายประชาธิปัตย์ มอบอำนาจให้ นายเชาว์ มีขวด เป็นทนายความ ฟ้องกราวรูด ทั้งแพ่ง-อาญา กับ นายสฤษดิ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย

นายเชาว์ เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน 2565 นายสฤษดิ์พงษ์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กและยูทูบ ของตัวเอง 2 ครั้ง ว่า ตนในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาอุปสรรคในการจัดบริการสาธารณะ กิจกรรมสาธารณะ และหาแนวทางในการแก้ไขเรื่องการถ่ายโอนภารกิจด้านการพัฒนาแหล่งน้ำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สภาผู้แทนราษฎร ร่วมประชุม ติดตามรับฟังปัญหาข้อเท็จจริง กรณีเทศบาลเมืองกระบี่ (นายกคนเก่า) นำที่ดินวัดแก้วโกรวาราม มา ขึ้นทะเบียนเป็นทางหลวงท้องถิ่น จำนวน 15 สาย โดยทางคณะกรรมการวัดแก้วโกรวาราม ไม่ได้ทราบเรื่อง หลังจากนั้นต่อเนื่องกัน ได้นำคลิปวิดีโอบทสนทนาระหว่างตนเองกับพระครูอัครรัตนากร (บุญเลิศ ธมุมรกุโข) เจ้าอาวาสวัดแก้วโกรวาราม จังหวัดกระบี่ โพสต์ลงในเฟซบุ๊กอีกครั้ง ว่า “เจ้าอาวาสวัดแก้วโกรวาราม พระอารามหลวง จังหวัดกระบี่ ตกใจ!! หลังทราบว่าที่ดินวัดถูกยกให้เป็นทางหลวงท้องถิ่นถึง 15 สาย เมื่อ กมธ. ลงมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ในเรื่องสัญญาวัดที่ให้เอกชนเช่าที่ดินในราคาถูกสัญญายาวมาก และเอื้อประโยชน์แก่นายทุนหรือไม่? พร้อมกับนำคลิปดังกล่าวโพสต์ลงยูทูบ (You Tube) ว่า “เจ้าอาวาสวัดแก้วโกรวาราม จ.กระบี่ ตกใจ! ที่ดินวัดถูกยกเป็นทางหลวงท้องถิ่นโดยทางวัดไม่ทราบเรื่อง””

นายเชาว์ ระบุว่า ข้อความและคลิปสนทนาดังกล่าว แม้จะไม่ระบุชื่อบุคคลโดยตรง แต่เมื่อนำมาเชื่อมต่อกัน สาธารณชนทั่วไปโดยเฉพาะประชาชนในจังหวัดกระบี่ ผู้ได้อ่านข้อความหรือฟังบทสนทนา จากคลิปวิดีโอดังกล่าวย่อมเข้าใจได้ทันทีว่า หมายถึง บริษัท ศรีผ่อง พาณิชย์ จำกัด นายชวน ภูเก้าล้วน และ นายกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน ซึ่งทั้งสองคนเป็นอดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกระบี่มาอย่างยายวนาน และเป็นผู้เช่าที่ดินวัดแก้วโกรวราราม จำนวน 47 ไร่ นำมาพัฒนาสร้างอาคารพาณิชย์ 600 กว่าคูหา และยกที่ดินในส่วนที่เป็นถนน 15 สาย ซึ่งอยู่ในพื้นที่เช่าให้ตกเป็นของทางหลวงท้องถิ่น โดยที่เจ้าอาวาสและคณะกรรมการวัดไม่ทราบเรื่อง และตั้งคำถามชี้นำให้เข้าใจว่า วัดให้เช่าที่ดินในราคาถูกสัญญายาวมาก ใช้งบประมาณของเทศบาลเมืองกระบี่ มาทำถนนให้บริษัทเอกชน เอื้อประโยชน์แก่นายทุนหรือไม่ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะความจริงแล้วถนนทั้ง 15 สาย ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของวัดแก้วโกรวาราม เพียงแต่วัดได้ให้เทศบาลเมืองกระบี่ เข้ามาดูแลเรื่องการรักษาความสะอาดและการบริการสาธารณะ เช่น ไฟฟ้า ประปา และการระบายน้ำ โดยเจ้าอาวาสและกรรมการวัดก็ทราบเรื่อง โดยเฉพาะ นายสสฤษดิ์พงษ์เอง ซึ่งดำรงตำแหน่งทางการเมืองในจังหวัดกระบี่ มายาวนาน ทราบดีว่า ถนน 15 สาย คือ ถนนมหาราช เป็นถนนขนาดใหญ่ อยู่ใจกลางเมืองกระบี่ เทศบาลเมืองกระบี่เป็นผู้ดูแลเรื่องสาธารณูปโภคมานานร่วม 40 ปีแล้ว และถนนทั้ง 15 สาย เป็นที่ธรณีสงฆ์ไม่สามารถโอนหรือยกกรรมสิทธิ์ให้กันได้

 นายเชาว์ มีขวด
ทนายความผู้รับมอบอำนาจ กล่าวอีกว่า ยิ่งไปกว่านั้น นายสฤษดิ์พงษ์ ทราบดีว่า การที่เทศบาลเข้ามาดูแลจัดการด้านสาธารณูปโภคถนนทั้ง 15 สาย ย่อมเป็นผลประโยชน์กับวัด เพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาถนนทั้ง 15 สาย ซึ่งเป็นส่วนควบของอาคารพานิชย์กว่า 600 ยูนิต ที่วัดนำออกให้เช่าหารายได้มาทำนุบำรุงวัด ไม่ได้ทำให้วัดเสียกรมสิทธิ์หรือเสียหายใดๆ แต่นายสฤษดิ์พงษ์กลับเจตนาจงใจใสร้ายทำลาย บริษัทศรีผ่อง นายชวน ภูเก้าล้วน นานกีรติศักดิ์ ภูเก้าล้วน ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจว่า เป็นคนไม่ดีหากินกับผลประโยชน์ของวัด ฮุบที่ดินวัดยกให้เทศบาลทำถนนเพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ธุรกิจของตนเอง ทำให้ได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังทั้งในฐานะส่วนตัว วงศ์ตระกูล ธุรกิจการค้าพาณิชย์ และเสียคะแนนนิยมทางการเมือง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่านายสฤษดิ์พงษ์กับตระกูลภูเก้าล้วนเป็นคู่แข่งทางการเมืองต่างสังกัดทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่นกับทีมของนายสฤษดิ์พงษ์มาตลอด อันเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและเป็นฐานความผิดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ด้วย

“วันนี้ผมมาตามคำสั่งศาล ทราบว่า ศาลมีคำสั่งรับฟ้องแล้วและกำหนดนัดไต่สวนสวนมูลฟ้องวันที่ 17 ตุลาคม 2565 เวลา 09.00 น. ซึ่งนอกจากฟ้องที่ศาลอาญาแล้วยังมีฟ้องคดีแพ่งที่ศาลแพ่งเรียกค่าเสียหายอีกร้อยกว่าล้านบาทด้วย นอกจากนี้ ยังยื่น ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบเกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่ในฐานะ ส.ส.และกรรมาธิการของนายสฤษพงษ์ ว่า เข้าข่ายผิดบทบัญญัติกฎหมายใดหรือไม่อีกช่องทางหนึ่ง รวมทั้งผมได้รับมอบหมายให้ติดตามคดีค้างเก่าที่นายสฤษดิ์พงษ์ถูกร้องเรียน อยู่ในมือ ป.ป.ช. อีกหลายเรื่อง แต่ละคดีพยานหลักฐานแน่นหนาคิดว่าน่าจะรอดยาก” นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น