xs
xsm
sm
md
lg

โซเชียลขุดวีรกรรม “แนนซี่” เยือนไหนซวยนั่น ตัวอย่างพบ โจชัว หว่อง-อองซาน ซูจี “ปวิน” แจง จีนเดียวเลวร้าย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ โซเชียลขุดวีรกรรม “แนนซี่ เปโลซี ประณามเยือนที่ไหน ทำชาติอื่นซวย ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเว็บไซต์สถาบันทิศทางไทย
นักปลุกปั่น? โซเชียลขุดวีรกรรม “แนนซี่ เปโลซี” ประณามเยือนที่ไหน ทำชาติอื่นซวย พฤติกรรม “ตีหัวเข้าบ้าน” ทิ้งเพื่อนนอนคุก “ปวิน” แจง ทำไมมอง "จีนเดียว" เลวร้าย ซัด ใครโปร สนับสนุนความรุนแรง-ละเมิดสิทธิฯ

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (5 ส.ค. 65) เว็บไซต์สถาบันทิศทางไทย โพสต์ประเด็น โซเชียลขุดวีรกรรม แนนซี เปโลซี ประณามหนัก เยือนที่ไหน ทำชาติอื่นซวย ตีหัวเข้าบ้าน ทิ้งเพื่อนนอนคุก โดย กล้วยน้ำว้า

ภาพ ขณะเดินทางไปพบแกนนำประท้วงหลายคน เช่น โจชัว หว่อง-อองซาน ซููจี ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเว็บไซต์สถาบันทิศทางไทย
เนื้อหาระบุว่า หลังจากที่มีคำกล่าวของกองทัพจีน ว่า เมื่อ นางแนนซี่ เปโลซี เดินทางพ้นเขตไต้หวันออกไปแล้ว กลับทิ้งทุกข์อันใหญ่หลวงไว้ให้ประชากรไต้หวันต้องเผชิญ ดูเหมือนว่า คำกล่าวนั้นจะไม่ไกลเกินจริง แม้ว่าจีนจะประกาศซ้อมรบอย่างดุเดือด แต่ในช่วงระยะเวลา 4 วัน ที่มีการซ้อมรบ ไม่มีใครคาดคิดได้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับไต้หวันได้บ้าง

ล่าสุด ในโลกโซเชียลมีการแชร์ภาพที่นางแนนซี่ เดินทางไปเยือนประเทศต่างๆ โดยมีการเทียบภาพ ขณะพบ โจชัว หว่อง แกนนำประท้วงในฮ่องกง และ อองซาน ซูจี ซึ่งทั้ง 2 คนนี้ ได้รับโทษติดคุก จึงมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า แนนซี่ เปโลซี่ คือ แม่มดตัวจริง เยือนที่ไหน ทำชาตินั้นเดือดร้อนมีปัญหา

ภาพ จีนซ้อมรบอย่างดุเดือด ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเว็บไซต์สถาบันทิศทางไทย
เปรียบเสมือนกับการไปเยือนไต้หวัน ที่ทิ้งบอมบ์ไว้ลูกใหญ่ และยังรับปากว่า หากจีนบุกไต้หวัน สหรัฐฯนั้นพร้อมยื่นมือช่วยทันที จะอยู่เคียงข้างไต้หวัน แต่นั่นยิ่งทำให้น่าจับตามองว่า สหรัฐฯ จะทำอย่างที่พูดได้จริงหรือไม่ เพราะหากนับชาติที่ยืนเคียงข้าง ระหว่างจีน กับ ไต้หวัน ตอนนี้ถือว่าจีนกุมไต้หวันอยู่ในกำมืออยู่หมัด

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ที่ แนนซี่ เปโลซี แสดงความต้องการ ว่า อยากไปพบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ก็ถูกปฏิเสธ แต่จะมีการหารือผ่านการคุยโทรศัพท์ แทนการเจอหน้ากัน เพราะทางเกาหลีใต้ ไม่อยากให้จีนโกรธ และมีความตึงเครียดไปมากกว่าเดิม นอกจากนี้ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ หวังว่า การเยือนของเปโลซี จะแสดงออกถึงการร่วมมือที่แนบแน่นของ 2 ประเทศในการป้องปรามเกาหลีเหนือ โดยเปโลซี่ก็แสดงออกด้วยการเยือนเขตปลอดทหารของ 2 เกาหลีแทน

ภาพ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ของ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต และผู้ต้องหาคดี 112 ซึ่งหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ โพสต์ข้อความระบุว่า

“ทำไมการพูดว่า “จีนเดียว” จึงเป็นเรื่องเลวร้าย ถ้ามองจากมุมมองของชาตินิยมและรัฐอธิปไตย แน่นอนว่า มันคงเป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ที่ “รักชาติ” ก็ต้องอ้างกรรมสิทธิ์เหนือดินแดนต่างๆ ที่เราคิดว่าเราเป็นเจ้าของ แต่ในมุมมองเดียวกันนี้แหละ ถ้ามองจากไต้หวัน ทิเบต ซินเจียง หรือแม้แต่ฮ่องกงเอง ดินแดนเหล่านี้ปฏิเสธอำนาจของจีน กรณีของทิเบตและซินเจียงอาจจะอธิบายง่ายหน่อย เพราะทั้งทิเบตและซินเจียงต่างเคยเป็นรัฐอิสระ แต่ถูกจีนรุกราน และในที่สุดก็ผนวกเป็นส่วนหนึ่งของจีน ในกรณีฮ่องกง การตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษมากกว่าร้อยปี (1841-1997) ทำให้ฮ่องกงซึมซับวัฒนธรรมตะวันตกที่ลิเบอรัลหลายอย่าง ที่ต่อมาเมื่อจีนกลับเข้ามาปกครอง ก็พยายามกำจัดความลิเบอรัลเหล่านั้นเสีย จนทำให้คนหนุ่มสาวฮ่องกงลุกขึ้นต่อสู้ดังที่เราเห็นในการประท้วงในช่วงที่ผ่านมา

...ของไต้หวันนั้นมันซับซ้อนกว่านั้น เริ่มจากการรบกับคอมมิวนิสต์แล้วแพ้ แล้วถูกผลักให้หนีลงใต้ (จนเข้าไปถึงพม่า) แล้วในที่สุด ก็หนีไปตั้งหลักที่เกาะฟอร์โมซ่า หรือไต้หวัน ประกาศตัวเป็นรัฐอิสระ และได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ แต่จีนไม่เคยยอมรับว่า ไต้หวันมีอธิปไตยเป็นของตัวเอง และใช้กลยุทธ์ทางการทูตระหว่างประเทศในการลบความชอบธรรมของไต้หวัน และก็ประสบความสำเร็จ โดยการยื่นคำขาดกับมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนให้ยอมรับใน “จีนเดียว” เท่านั้น จนทำให้ประเทศอย่างในกลุ่มอาเซียนไม่สามารถมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันแบบเปิดเผยได้ ต้องเลี่ยงไปเปิดสำนักงานการค้าแทน

...กลับไปเรื่องที่พูดแต่แรกว่า ทำไมการพูดว่า “จีนเดียว” จึงเป็นเรื่องเลวร้าย ถ้ามองในมุมมองของมนุษยธรรม การคงไว้ซึ่งอธิปไตยเดียวของจีน ทำให้จีนก้าวร้าวและใช้วิธีโหดร้ายในการปราบปรามทิเบต และ ซินเจียง อาทิ การจับผู้ต่อต้านเข้าคุก บังคับให้รับวัฒนธรรมจีนและละทิ้งวัฒนธรรมท้องถิ่น การถูก re-educate ถูกส่งไป hard labour camp การถูกบังคับสูญหาย หรือแม้การถูกฆ่าอย่างเลือดเย็น ในฮ่องกง จีนไม่ปรานีผู้ประท้วง ไม่ว่าพวกเค้าจะอายุน้อยแค่ไหน จับเข้าคุกหมด และล่าสุด เพื่อเป็นการประท้วงการเยือนไต้หวันของ Pelosi จีนได้มีการเตรียมซ้อมรบ ที่อาจนำไปสู่สงคราม

....ทีนี้เข้าใจหรือยัง การที่นักร้องคนไหนโปรจีนเดียว นั่นคือ เค้าไม่ได้มองไต้หวัน ทิเบต ซินเจียง และฮ่องกงด้วยความเห็นใจ การที่เค้าโปรจีนเดียว นั่นคือการสนับสนุนความรุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างโหดร้าย แต่เชื่อไหม ต่อให้อธิบายขนาดนี้ อีสลิ่มโง่ๆ ของไทยก็ยังไม่มีวันเข้าใจได้”

แน่นอน, เรื่อง “จีนเดียว” เป็น “ความเห็นต่าง” ที่ขึ้นอยู่กับ “มุมมอง” ถ้ามองในมุมของจีน เขาก็มีเหตุผลที่จะไม่พอใจสหรัฐฯ ที่พยายามจะหนุนหลังไต้หวัน ให้แข็งข้อกับจีน ขณะเดียวกัน ถ้ามองในมุมของสหรัฐฯ ก็มีข้ออ้างในการหนุนหลังไต้หวัน อย่างที่ “ปวิน” ชี้แจง

แต่ไม่ว่าจะมองมุมไหน ก็ล้วนเห็นได้ชัดว่า มีเกมการเมืองเข้าไปแทรกแซง และไม่มีฝ่ายใดบริสุทธิ์ผุดผ่อง และ “ชอบธรรม” พอที่จะกล่าวหาอีกฝ่าย แบบสาดเสียเทเสีย หรือถึงขั้นเลวร้าย เพราะประวัติศาสตร์ก็สะท้อนให้เห็นเช่นกันว่า การยุยงปลุกปั่นบางประเทศ จนเกิดสงคราม? ก็ถือว่าเลวร้ายกับชะตาชีวิตของมนุษยชาติ อย่างขาดมนุษยธรรมเช่นกัน เพราะสงครามนำมาซึ่ง “หายนะ” อย่างหนึ่ง

เช่นเดียวกันกับความเห็นต่างทางการเมืองในไทย ไม่มี “สลิ่มโง่” ที่ไม่เห็นด้วยกับคนรุ่นใหม่ หรือ “ม็อบสามนิ้ว” เพราะเหตุผลของคนที่เห็นต่าง ก็มากพอที่จะแย้งกับคนรุ่นใหม่ และม็อบสามนิ้วเช่นกัน

การโทษกัน ทำร้ายทำลายกัน การยัดเยียดเหยียดหยามกัน ล้วนเกิดจากความคิดที่ว่า ตัวเองเหนือกว่า ดีกว่า เก่งกว่า ก้าวหน้ากว่า ก็เท่านั้นเอง ลองคิดดู ใครเป็นเช่นนั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น