xs
xsm
sm
md
lg

ฮือฮา “อากงจุน” เจ้าของพัดลม “ฮาตาริ” กับการบริจาคครั้งใหญ่ที่สุด 900 ล้าน ให้มูลนิธิรามาฯ **ภูมิใจไทยผนึกสองบ้านใหญ่เมืองพิจิตร “ภัทรประสิทธิ์-ขจรประศาสน์” ลง ส.ส.เขต สู้ศึกเลือกตั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ฮือฮา “อากงจุน” เจ้าของพัดลม “ฮาตาริ” กับการบริจาคครั้งใหญ่ที่สุด 900 ล้าน ให้มูลนิธิรามาฯ

เรื่องราวนี้ สืบทราบมาว่า เมื่อวันอังคารที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา มูลนิธิรามาธิบดีฯ ได้รับบริจาคเงินสมทบทุนเป็นมูลค่าสูงถึง 900 ล้านบาท โดยผู้บริจาค คือ “จุน วนวิทย์” และครอบครัว

จำนวนเงิน 900 ล้านบาท แบ่งเป็นเพื่อโครงการโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี 160 ล้านบาท โครงการรามาธิบดีศรีอยุธยา 300 ล้านบาท โครงการนวัตกรรมโยธี 440 ล้านบาท

ถามว่า สำหรับ “จุน วนวิทย์” หรือ “อากงจุน” ของลูกๆ หลานๆ เป็นใคร? ก็ต้องบอกว่า เป็นผู้ก่อตั้ง “บริษัท ฮาตาริ อิเลคทริค จำกัด” เจ้าของแบรนด์พัดลมไทย “ฮาตาริ” ที่รู้จักกันดีนั่นเอง

จุน วนวิทย์
ว่ากันว่า การบริจาคครั้งนี้ของอากงจุน เป็นการบริจาคครั้งใหญ่ที่สุดให้มูลนิธิรามาฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ “จุน และครอบครัว” ได้บริจาคทำบุญมาอย่างต่อเนื่องอย่างเงียบๆ โดยครั้งนี้ว่ากันว่า อากงจุน ที่อายุมากแล้ว คิดว่าเป็นวาระสุดท้ายของชีวิตแล้ว อยากไปอย่างสบาย ไม่อยากยึดติดกับอะไร เลยเอาเงินส่วนตัวมาบริจาคหมด คืนให้สังคม ช่วยเหลือประชาชนที่เจ็บป่วย
“จุน วนวิทย์” ปีนี้อายุ 86 ปี เริ่มต้นวัยเด็กที่ต้องดิ้นรนสู้ชีวิต ไม่มีโอกาสได้ร่ำเรียนหนังสือในระดับสูง จึงจบแค่ ป.2 แต่มีความวิริยะ อุตสาหะ พยายามขวนขวาย แสวงหาความรู้อยู่เป็นนิจ
อาชีพแรก เมื่อ 60 ปีที่แล้ว หรือในวัย 17 ปี ขับแท็กซี่ แล้วเริ่มต้นมาเป็นลูกจ้างร้านทอง เป็นช่างทำโมล ทำของเล่น และอะไหล่พัดลม เรียกว่า มี “พรสวรรค์” ในด้านช่าง หาตัวจับยาก ก่อนจะตัดสินใจทำพัดลมทั้งตัว เมื่อปี 2528 โดยเริ่มต้นในแบรนด์ที่ชื่อ “k” และ “Tory” ตามลำดับ


ต่อมาเมื่ออายุ 52 ปี จึงได้ผลิตพัดลมยี่ห้อ “ฮาตาริ” ออกจำหน่ายเป็นครั้งแรก และ หลังจากนั้น ฮาตาริ ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทั้งขายในประเทศและส่งออก ทำยอดขายได้ปีละหลายพันล้าน เฉพาะในไทยกินส่วนแบ่งตลาดพัดลมกว่า 80% ในวันนี้

คนใกล้ชิด “อากงจุน” จะทราบดีว่า ชายสูงอายุผู้นี้ เป็นคนที่ทำงานมุ่งมั่น สมถะ ประหยัด เรียบง่าย และเสมอต้นเสมอปลาย แม้จะมีฐานะร่ำรวย แต่ของแพงที่สุด คือ นาฬิกาข้อมือ ราคา 2, 000 บาท ไม่เคยใส่ Brand Name ไม่มีรถสปอร์ต ไม่มีเรือยอชต์ หรือเครื่องบินส่วนตัว

นี่คือ ชีวิตของ “จุน วนวิทย์” ที่วันนี้ ได้ตอบแทนสังคมด้วยการบริจาคทรัพย์ที่มีอยู่ทั้งหมดแก่การกุศล ควรค่าน่าชื่นชมในจิตใจที่ยิ่งใหญ่เป็นอย่างยิ่ง



**ภูมิใจไทยผนึกสองบ้านใหญ่เมืองพิจิตร “ภัทรประสิทธิ์-ขจรประศาสน์” ลง ส.ส.เขต สู้ศึกเลือกตั้ง

เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมานี้ มีข่าว “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมแกนนำพรรคได้นัดกินข้าว พูดคุยกับ “เสี่ยอ๊อด” ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีต รมช.คลัง และอดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ บ้านใหญ่เมืองพิจิตร มีการชูไม้ชูมือ แสดงสัญลักษณ์ว่า “ดีลการเมืองรอบนี้” ไปได้สวย

อนุทิน ชาญวีรกูล
การเลือกตั้งครั้งใหม่ แม้ “ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” จะไม่ได้ลงสนามเอง เนื่องจากเคยรับปากกับพระผู้ใหญ่ที่เขาให้ความเคารพนับถือ ว่า จะไม่ลงสนามการเมืองอีก แต่เชื่อว่าจะมีคนในตระกูล “ภัทรประสิทธิ์” ลงสมัครในนามพรรคภูมิใจไทยแน่

ล่าสุด มีโปรแกรมออกมาแล้วว่า วันที่ 30 ก.ค.นี้ ที่ สนามกีฬากลาง จ.พิจิตร “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล พร้อมแกนนำพรรค จะยกขบวนใหญ่ไปทำการเปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พิจิตร ของพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วย “ภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์” ที่เขต 1 “วินัย ภัทรประสิทธิ์” เขต 2 และ “ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์” เขต 3

งานนี้ “เสี่ยหนู” ได้คนของสองบ้านใหญ่เมืองพิจิตร ที่มีสัมพันธ์กันยาวนานมาร่วมพรรค เพราะ “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ผู้เป็นพ่อของ “ลูกยอด” ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ คือ ผู้ชักนำ “ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์” เข้าสู่การเมือง จนได้ดิบได้ดี แม้ระยะหลังจะมีการเดินคนละเส้นทางบ้าง ตามวีถีการเมือง

ภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์
สำหรับ “วินัย ภัทรประสิทธิ์” นั้นเป็นน้องชายของ ประดิษฐ์ เป็นอดีต ส.ส.พิจิตร เขต 1 ในนามพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ช่วงปี 2551-2554 และก่อนหน้านั้น ช่วงปี 2549 ก็เคยเป็นสมาชิกวุฒิสภา

ส่วน “ภัทรพงศ์ ภัทรประสิทธิ์” นั้นเป็นหลานชายประดิษฐ์ เป็นกำนันตำบลหัวดง อ.เมืองพิจิตร โดยหลานชายคนนี้ เป็นลูกชายของ “ประวัติ ภัทรประสิทธิ์” พี่ชายของ “วินัย” และยังเกี่ยวดองเป็นหลานเขยของ “เนวิน ชิดชอบ” ด้วย

ขณะที่ “ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์” ลูกชาย “เสธ.หนั่น” เข้าสู่การเมืองเมื่อปี 44 ได้เป็น ส.ส.ครั้งแรกด้วยอายุเพียง 28 ปี ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ต่อมาได้ย้ายไปสังกัดพรรคมหาชน และพรรคชาติไทยพัฒนา เคยเป็น รมช.พาณิชย์ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเป็น รมช. เกษตรและสหกรณ์

วินัย ภัทรประสิทธิ์ - ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์
ต่อมาย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย เมื่อปี 61 และปัจจุบัน เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคภูมิใจไทย จากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดปี 62 ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตของพรรคภูมิใจไทย ที่พิจิตร สบตกหมด
จะว่าไปแล้ว สนามเลือกตั้ง อบจ.พิจิตร คนในสายของ “ภัทรประสิทธิ์” ก็เพิ่งห้ำหั่นกับคนของบ้าน “ขจรประศาสน์” มาหมาดๆ ผลคนของบ้านภัทรประสิทธิ์ชนะ
ดังนั้น ดีลการเมืองของ “เสี่ยหนู” รอบนี้ ถือว่าได้ประสานรอยร้าวที่เคยมีต่อกันของสองบ้านใหญ่ ให้มาร่วมผนึกกำลังกัน ตามแนวทางของพรรคภูมิใจไทย ที่เน้น ส.ส.เขต เน้นความใกล้ชิดกับประชาชน
เหมือนที่ “เสี่ยหนู” บอกว่า พรรคภูมิใจไทย พร้อมเลือกตั้ง ไม่ว่าใครจะมาเป็น มท.1 ไม่ว่ากฎหมายลูกเลือกตั้งจะใช้บัตรกี่ใบ สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะเป็นสูตรหาร 100 หรือหาร 500 ได้ทั้งนั้น ขอให้ได้ ส.ส.เขตเยอะๆ ไว้ก่อน ถึงตัวเองจะไม่ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อก็ไม่เป็นไร
เพราะกติกาไม่ได้บังคับว่าคนจะเป็นนายกฯ ต้องเป็น ส.ส.!!




กำลังโหลดความคิดเห็น