กลัวล่ะสิ? “ทักษิณ” ประจาน “สมคิด” ไม่มีอะไรดี เดินตามก้น ของานตัวเองทำ ระบุ ไม่ใช่คนทำนโยบาย ชี้ อยากเป็นนายกฯ “ไตรรงค์” มองญัตติฝ่ายค้าน เรื่องคอร์รัปชัน เหมือนด่า 2 อดีตนายกฯ โซเชียลถล่ม “ชลน่าน”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (20 ก.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก CARE คิด เคลื่อน ไทย โพสต์ข้อความ กรณี “โทนี วู้ดซัม” หรือ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ พูดถึง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ระบุว่า
“...หมอดูเคยบอกสมคิดว่าจะได้เป็นนายกฯ แต่เป็นได้แค่ รมต.คลัง สงสัยตอนนี้ยังคิดว่าจะได้เป็นนายกฯอยู่มั้ง...”
พอพูดถึงสมคิดนะ สมคิดเนี่ย เป็นคนที่ติดตามผมมาโดยตลอด ตั้งแต่ทำธุรกิจ พอผมเป็น รมต.ต่างประเทศ ก็วิ่งเต้นขอเป็นที่ปรึกษาให้ผม พอผมกลับมาบริษัท เป็นรองนายกฯ ก็ขอตามมา จนสุดท้ายขอลาออกกับผม ไปทำงานกับ ทนง พิทยะ หลังจากนั้น ผมตั้งพรรค ก็ขอมาอยู่กับผม ผมบอกว่าให้มาช่วยทำงาน ส่วนใหญ่เป็นการตั้งประเด็น วางกรอบ
พอตั้งรัฐบาลได้ปุ๊บ เขาขอเป็นรัฐมนตรีสำนักนายกฯ หรือทบวงมหาวิทยาลัยก็ได้ ผมหารัฐมนตรีคลังไม่ได้ แต่เห็นสมคิดอยู่มาตลอด ก็เอาว่าเป็นรัฐมนตรีคลังเลยแล้วกัน เขารู้แล้วตกใจกลัวเลย ที่มาเคลมผลงานนะ สรุป 30 บาท ไม่เกี่ยวกับสมคิดเลย นั่นเป็นของ หมอสงวน หมอเลี้ยบ พี่อ้วน ภูมิธรรม
ขอเล่าต่ออีกนิด มีอยู่วันหนึ่ง ผมจ้างทีมธรรมศาสตร์มาเขียนนโยบาย จ้างอาจารย์หนึ่งในนั้นมา แล้วเขาเป็นคนจีนที่ดูโหวงเฮ้ง จู่ๆ แกทักโหวงเฮ้งสมคิดว่าจะได้เป็นนายกฯ แต่ไม่ได้ทักผมว่าจะเป็นนายกฯ พอพรรคผมได้เป็นรัฐบาล สุดท้ายสมคิดได้เป็นแค่รัฐมนตรีคลัง สงสัยตอนนี้เขายังติดใจ คิดว่าจะได้เป็นนายกฯซักวันมั้ง
แต่สมคิดเนี่ย อยู่ตรงไหนก็ลำบาก เพราะเขาเคยอยู่กับผมนะ แต่ก็ไปเป็นกรรมการ คสช. แถมเป็นรองนายกฯ ให้ประยุทธ์อีก มันจะเป็นฝ่ายประชาธิปไตยได้ยังไง
ขณะเดียวกัน จากกรณีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จำนวน 11 คน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ชี้แจง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และ หัวหน้าพรรคเพี่อไทย (พท.) ผู้นำฝ่ายค้าน ตอนหนึ่งว่า นายกฯไม่ใช่คนที่รู้ทุกเรื่อง ไม่ได้เก่งทุกเรื่อง ไม่ได้ฉลาดที่สุด เหมือนบางคนที่ท่านบอกว่า ฉลาดที่สุดตอนนี้อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้
“ถ้าอยากได้รับเกียรติจากคนอื่น ก็ต้องรู้จัดให้เกียรติคนอื่นเขา ถ้าโจมตีด้วยการให้ร้ายพูดจาส่อเสียด ไม่ใช่สุภาพบุรุษ ตนไม่อยากฟัง แต่ตนให้เกียรติสภา ประธาน สมาชิกทุกคน ผมต้องชี้แจงเพราะผ่านมา 1 ชั่วโมง ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง 100% เลย หลายอย่างมันดี หลายอย่างกำลังทำ หลายอย่างกำลังแก้ไข ผมทราบดีท่านชื่นชมคนที่ทำงานมาก่อน ว่า ดีกว่าตนว่าโน้นนี่ ไม่เป็นไร ก็เอากลับมาให้ได้แล้วกัน”
จากนั้นเมื่อช่วงคืนวันอังคารที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ “CARE คิด เคลื่อน ไทย” ได้เผยแพร่คำกล่าวของ นายทักษิณ ชินวัตร ตอบโต้ พล.อ.ประยุทธ์ ว่า
“...ประยุทธ์ บอกว่า ไม่รู้ผมอยู่ไหน แต่ผมอยากจะบอกว่า ผมอยู่ในใจประยุทธ์ตลอดนะ (ขอโทษอาจารย์น้องด้วยนะ)...”
ประยุทธ์พูดในการอภิปราย บอกว่า “คนที่หลายคนชมตอนนี้ไม่รู้อยู่ไหน เอากลับมาให้ได้ก็แล้วกัน” ผมอยากจะบอกว่า “ผมอยู่ในใจประยุทธ์ตลอดนะ” ต้องขอโทษอาจารย์น้องด้วยนะ
ตอนสัมภาษณ์สื่อก็ชอบพูดถึงผมหลายครั้ง สรุปแล้วคือท่านอึดอัด แหม โกรธเวลาคนอื่นว่ากูไม่เก่ง จริงๆ แล้ว ท่านไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ตั้งใจทำงานให้เท่าผม แต่ต้องทำอย่างมีกลยุทธ์มากกว่านี้
ด้าน ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กหัวเรื่อง “#คนดีต้องไม่ตายคนชั่วต้องไม่เกิด #noTimeToDie #008”
ระบุว่า ผมฟังฝ่ายค้านอ่านญัตติ #อภิปรายไม่ไว้วางใจ โจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้วทำให้หลงเข้าใจไปว่า ฝ่ายค้านกำลังฉวยโอกาสด่าอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยอย่างน้อย 2 คนด้วยกัน โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ดังต่อไปนี้ เช่น การโกงกินคอร์รัปชันของตัวนายกรัฐมนตรี และลิ่วล้อ (จนติดคุกติดตารางกันระนาว) การขาดวิสัยทัศน์ การไม่เคารพหลักนิติธรรม ทำลายคุณค่าระบอบประชาธิปไตย และภาวะขาดแคลนผู้นำที่ดีของประเทศ จนทั่วโลกนอกจากไม่ให้เกียรติแล้วยังประณามกันว่าเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่โกงกินชั่วร้ายมากที่สุดคนหนึ่งของประวัติศาสตร์โลก อย่างนั้นซิครับถึงจะเหมาะที่จะใช้ศัพท์คำว่า #ทราม ได้อย่างไม่กระดากปาก แต่ผมก็อยากจะขอร้องว่ากรุณาอย่าใช้ศัพท์อย่างนี้กับคนระดับนายกรัฐมนตรีในรัฐสภาอันทรงเกียรติเลยครับ… ไม่ว่าจะเป็นนายกฯคนไหนก็ตาม
ถ้าคนไม่โกงมุ่งมั่นแต่ทำงานเพื่อชาติอย่างเดียว เป็นคนตรงไปตรงมา (ไม่ปากอย่างใจอย่าง) เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องพ่ายแพ้ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไม่ได้ ก็แสดงว่า #ระบอบประชาธิปไตยกลายเป็นทางเดินให้คนชั่วเท่านั้น เป็นช่องทางที่คนชั่วจะสามารถมีอำนาจขึ้นกินบ้านกินเมือง
การที่คนดีต้องพ่ายแพ้ ก็จะกลายเป็นหลักฐานอีกอันหนึ่งที่พิสูจน์ว่า ทำไมประชาธิปไตยทั่วโลกกำลังตาย ตามที่หนังสือเรื่อง “How Democracies Die” ของศาสตราจารย์ 2 ท่าน แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) ได้สรุปจากงานวิจัยของท่านเอาไว้ (หากท่านใดสนใจว่าทำไมประชาธิปไตยทั่วโลกกำลังจะตาย หาอ่านได้จากบทความที่ผมโพสต์เฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2565 ตามลิงก์ที่อยู่ด้านล่างนี้ครับ)
ผมขอเรียนว่า ความเห็นที่ลงในเฟซบุ๊กเป็น #ความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรค ปชป.แต่อย่างใด
บทความ #ประชาธิปไตยตายได้อย่างไร #HowDemocraciesDie อ้านได้จากลิงก์นี้
https://www.facebook.com/TrairongSuwankiri/posts/pfbid02TCy7gVnrAH5jFx2ppfKGwLeJCGLV4P519o7GgZjbESV2ATfpaswXABKXVHdqeitel
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน จากกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภา แถลงญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตอนหนึ่งว่า
“รัฐบาลชุดนี้ คือ รัฐบาล 608 ไร้ความรู้ไร้ความสามารถ ทนต่อการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ มิหนำซ้ำ อมโรคป่วย และหวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ ควรไปจากสภาแห่งนี้ได้แล้ว อย่าอยู่เป็น 608 ทำลายประเทศต่อไป”
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอบโต้ ว่า “ที่กล่าวหาว่า รัฐบาล 608 เราต้องให้เกียรติกลุ่ม 608 เขาด้วย เขาเป็นผู้สูงอายุ ผู้เสี่ยงของการติดโรค โดยเฉพาะสุขภาพ ที่เราต้องดูแลเขา”
ในขณะที่ โลกโซเชียลมีเดีย มีการแชร์ข้อความดังกล่าวอย่างกว้างขวาง และวิจารณ์ว่า นพ.ชลน่าน ด้อยค่าและบูลลี่ กลุ่ม 608 ซึ่งคือกลุ่มคนที่ต้องได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 มากที่สุด นั่นคือ กลุ่มผู้สูงอายุมีอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้มีโรคประจำตัวในกลุ่ม 7 โรคประจำตัว ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรังโรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วนโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน
นอกจากนี้ นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ยังโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า การดูแคลนกลุ่ม 608 ว่า ไร้ความสามารถ อมโรค ถือเป็นการ bully ที่ไม่ควรออกมาจากปากของคนที่เป็นหมอ
แน่นอน, ประเด็นที่น่าคิด ก็คือ การเล่นการเมืองแบบที่ต้องการเอาชนะด้วย “การคุยข่ม” การสร้างวาทกรรมให้ร้าย และการเปรียบเทียบกระทบกระทั่ง จนบางครั้งหารู้ไม่ว่า มันเป็นการสะท้อนกลับถึงคนที่พูดว่า เป็นอย่างไร เหมาะสมที่จะเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือ หรือ ผู้ทรงเกียรติได้หรือไม่
กรณี ทักษิณ การออกมาฟาดฟัน “สมคิด” อย่างไม่เลี้ยง เหมือนจงใจ “ดิสเครดิต” ให้เห็นว่า คนที่หลายคนยกย่องว่า เป็น “มือเศรษฐกิจ” ให้กับอดีตพรรคไทยรักไทย ของ “ทักษิณ” และเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจให้รัฐบาลประยุทธ์เอาตัวรอดมาได้จนถึงวันนี้ 8 ปีนั้น ไม่มีอะไรดี
แถมเหน็บแนมแกมประชัดว่า อยากเป็นนายกฯตามคำทำนายหมอดู นั้น
ดูแล้ว เหมือนกลัว “สมคิด” จะมาเป็นคู่แข่งของ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย ที่เทียบกันไม่ติดในหลายเรื่อง โดยเฉพาะประสบการณ์การทำงาน ที่คนไทยมองออกว่า “ใครเหมาะ” ที่จะเป็น “ผู้นำ” ประเทศ กว่ากัน
เพราะนายกฯไม่ใช่ใครอยากเป็น ก็เป็นได้?
ยิ่งกว่านั้น คนที่ “ทักษิณ” บอกว่า ตั้งเป็น รมว.คลัง เพราะไม่มีใครนั้น ถ้าย้อนกลับไปดูจะเห็นว่า “สมคิด” ไม่เคยหลุดจาก ครม. รัฐบาล “ทักษิณ” เลย แถมยังได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกฯ ควบรัฐมนตรีที่กุมบังเหียนเศรษฐกิจด้วย อย่างนี้ ยังกล้าบอกว่า ตั้งเพราะไม่มีคน
แล้วที่สำคัญ “สมคิด” ยังเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล “ทักษิณ” ที่ไม่มีข้อกล่าวหาในเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน เลย คิดดูเอาเอง ว่า สิ่งที่ “ทักษิณ” พูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น อย่างภาษิตเขาว่าไว้หรือไม่!?