รมช.คลัง โต้ถามกลางสภาฯ มีใครไปรับงานไปจากอีสต์วอเตอร์หรือเปล่า ย้อน "ยุทธพงศ์" ไปรู้ข้อมูลมากกว่าตนได้ไง แจงการที่ไม่ประกวดราคาทั่วไป เพราะเป็นโครงการที่มีความสำคัญ โต้เอื้อใครฐานะพอสมควรอยู่แล้ว ยึดผลประโยชน์รัฐ
วันนี้ (20ก.ค.) นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลังกล่าวชี้แจงว่า โครงการท่อส่งน้ำภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่มีบริษัท อีสวอเตอร์ จำกัด ดำเนินการจัดส่งน้ำเพื่ออุปโภคและอุตสาหกรรม มีสัญญากรมธนารักษ์บริหารจัดการน้ำ 3 ส่วน ซึ่งสัญญาส่วนหนึ่งจะสิ้นสุดในปี 2566 จึงจ้างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นที่ปรึกษา โดยได้เสนอให้ใช้วิธียกเว้นการประมูล และคัดเลือกเอกชน พร้อมกำหนดเงื่อนไขเจรจาเพื่อประโยชน์ภาครัฐ เพื่อเกิดการแข่งขันระหว่างเอกชน จากนั้นได้ตั้งคณะกรรมการคัดเลือกเปิดยื่นข้อเสนอโดยกรมธนารักษ์กำหนดวัตถุประสงค์ในการดำเนินการไว้อย่างชัดเจน ที่มีผู้เสนอตัว 5 ราย ในครั้งที่ 1 และมีบริษัท สยามก่อสร้าง จำกัด และบริษัท วิค จำกัด (มหาชน) เพิ่มมาอีก 2 ราย
นายสันติ ชี้แจงต่อว่า การยื่นข้อเสนอครั้งที่ 1 บริษัทอีสวอเตอร์ และบริษัทวงศ์สยามก่อสร้าง ได้ยื่นเสนอปริมาณน้ำ ค่าแรกเข้าเพื่อสัญญา และผลประโยชน์ตอบแทนรายปีก็เกิดความลักลั่นกันแล้ว จึงให้มีการยกเลิกการยื่นข้อเสนอในรอบแรก แม้จะมีการยื่นศาลปกครองขอให้คุ้มครองชั่วคราว แต่ศาลก็วินิจฉัยว่าการยกเลิกการยื่นข้อเสนอ จึงไม่มีเหตุว่า ไม่ได้เป็นการตัดสิทธิ์ผู้ยื่นประกวดราคา ส่วนการยื่นข้อเสนอครั้งที่ 2 บริษัท วงศ์สยามฯ เสนอผลประโยชน์ให้กับรัฐบาลมากกว่า บริษัท อีสวอเตอร์ นอกจากนี้ อยากให้นายยุทธพงษ์ มองย้อนไปว่าตลอด 30 ปีที่ผ่านบริษัทอีสวอเตอร์ได้ให้ผลตอบแทนรัฐบาล กว่า 600 ล้านบาท แทนที่จะไปพูดไม่วางใจตนว่าไม่รักษาผลประโยชน์ของรัฐ ลองคิดว่าการที่ท่านพูดโน้มเอียงไปทางบริษัทอิสวอเตอร์ เป็นการรักษาผลประโยชน์หรือไม่ แต่ 30 ปีจากนี้ไปบริษัท วงศ์สยามฯจะจ่ายให้รัฐบาล 25,693 ล้านบาท แล้วนายยุทธพงษ์กำลังกดดันให้ยกเลิกและเปิดประมูลใหม่ ตนถามว่าถ้าประมูลให้ขึ้นมาแล้ว มีการยื่นข้อเสนอมาเหมือนครั้งแรกใครจะรับผิดชอบกับเงินของรัฐที่ขาดหายไป
นายสันติ ชี้แจงต่อว่า ตนถามจริงๆ เถอะ ว่าท่านไปรู้ข้อมูลมากกว่าตนได้อย่างไร แสดงว่ามันคงมีอะไรสักอย่างหนึ่ง มีใครไปรับงานไปจากอีสวอเตอร์หรือเปล่า ตนไม่ทราบ แล้วก็ต้องบอกตรงๆ ว่า ในระบบท่อส่งน้ำภาคตะวันออกของกรมธนารักษ์ ที่อีสวอเตอร์รับไปทำอยู่นั้น มันก็มีปัญหาพอสมควร ตนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่บางส่วนของเรามีปัญหา ตนเองนั้นต้องทำหน้าที่พิทักษ์ผลประโยชน์ของรัฐ และเวลานี้สัญญายังไม่ได้เซ็นท่านจะมากล่าวหาตน กล่าวหาคณะกรรมการ และกล่าวหาเจ้าหน้าที่กรมธนารักษ์ได้อย่างไร ยืนยันว่ากรมธนารักษ์ดำเนินการถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย และประกาศของคณะรัฐมนตรี จึงจะดำเนินการได้ การที่ไม่ประกวดราคาทั่วไป เพราะเป็นโครงการที่มีความสำคัญ
"ผมขอเรียนท่านตรงๆ ว่า ทั้งอีสวอเตอร์ หรือวงศ์สยามก็ดี ไม่เคยเจอกันกับผม โทรศัพท์ก็เคยไม่เจอ ไม่เคยมีนิติสัมพันธ์ใดๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ ทำไมผมต้องไปเอื้อใคร ผมมีฐานะของผมพอสมควรอยู่แล้ว ไม่มีความจำต้องเอื้อใคร ผมเอื้อให้ผลประโยชน์ของรัฐเต็มที่" นายสันติ กล่าว