ฟังเพลงกองทัพวนไปแทนคำตอบ “เบนซ์หรูนายพล” แบบนี้ก็มีด้วย **งูเห่าโผล่ที่ ปชป.ขอโหวตสวนรัฐมนตรีของพรรคตัวเอง สางแค้นที่ได้เงินแล้วไม่รักษาคำพูด

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ฟังเพลงกองทัพวนไปแทนคำตอบ “เบนซ์หรูนายพล” แบบนี้ก็มีด้วย

เกิดเป็นประเด็นขึ้นมา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อพิจารณางบของกระทรวงกลาโหม วงเงิน 1.97 แสนล้านบาท หลังจาก “สมชัย ศรีสุทธิยากร” ในฐานะ กมธ. สัดส่วนพรรคเสรีรวมไทย ลุกขึ้นอภิปรายพุ่งเป้าไปที่ค่าใช้จ่ายของนายทหารระดับสูง โดยขอทราบรายละเอียดเงินตอบแทนพิเศษทหารระดับพันเอก (พิเศษ) ขึ้นไปจนถึงระดับนายพล ว่า มีอัตราการจ่ายอย่างไร และจ่ายอยู่จำนวนกี่นาย รวมงบประมาณเท่าใด

ไม่เพียงเท่านี้ “สมชัย” ยังบอกว่า ได้รับจดหมายจากกำลังพลส่งมาให้ และขออ่านสอบถามนายทหารระดับสูงของเหล่าทัพ เพื่อขอคำตอบ ว่า ปัจจุบันทุกเหล่าทัพมีรถยนต์หรูยี่ห้อ เบนซ์ รุ่น S500 และ S400 ให้ผู้บริหารระดับสูง รวม 36 คน เช่น ปลัดกระทรวงกลาโหม รองปลัดฯ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และ ที่ปรึกษากองทัพ เป็นรถเช่า หรือซื้อ กองทัพมีหลักเกณฑ์เหมือนหน่วยราชการอื่นทั่วไปหรือไม่ ใช้งบจากส่วนใด ขณะนี้รถยนต์ดังกล่าวไปอยู่ส่วนไหนบ้าง และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปลี่ยนรถยนต์และทะเบียนบ่อยครั้ง ใช้งบส่วนนี้หรือไม่


ว่ากันว่า การประชุมครั้งนี้ มีผู้บัญชาการเหล่าทัพทั้งหมดเข้าร่วม ได้แก่ พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตติแก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) และ พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เข้าร่วมชี้แจงภาพรวมงบประมาณของหน่วยงานภายใต้กำกับดูแล และงบของเหล่าทัพต่างๆ


ปรากฏว่า ต่อมา “พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์” ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ชี้แจงแต่ไม่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับรถยนต์ประจำตำแหน่งของนายพลที่ “สมชัย” ถาม แต่กลับไปชี้แจงเรื่องเรือดำน้ำ ที่ กมธ.สอบถามแทน

แถมพอปลัดกลาโหมถามม้า ตอบวัว ในตอนท้าย ฟังว่า “พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์” ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตัดจบด้วยการกล่าวขอบคุณ การสอบถามของสมาชิก กมธ. ที่เปิดโอกาสให้กองทัพชี้แจงข้อมูล ซึ่งยืนยันว่า กองทัพเป็นกองทัพของรัฐไทย และประชาชน พร้อมระบุว่า เป็นคนพูดไม่เก่ง แต่อยากขอเวลา 2 นาที เปิดเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับภารกิจของกองทัพไทย ซึ่ง “วราเทพ รัตนากร” รองประธาน กมธ. ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้อนุญาตให้เปิด นัยว่า เพื่อเป็นการผ่อนคลายบรรยากาศที่ตึงเครียดของการประชุม

อย่างไรก็ดี “สมชัย” ได้โพสต์ข้อความ ในเวลาต่อมาโดย ระบุว่า มีคำตอบจากกองทัพกรณีรถหรู คือ รถเบนซ์ S500 ที่นายทหารระดับสูงใช้ ไม่ใช่รถประจำตำแหน่ง แต่เรียกว่า “รถควบคุมการสั่งการ” เป็นรถสมรรถนะสูง ที่ใช้งบปกติจัดซื้อ โดยต้องทำการตกลงกับสำนักงบประมาณเป็นรายการไป


ในความเห็นของ “สมชัย” นั่น แปลว่า นายทหารระดับสูงจะมีรถ 2 คัน คันหนึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งตาม spec. ราชการ อีกคันเป็นรถหรู เรียกว่า รถควบคุมการสั่งการ

งานนี้สาธุชนก็ลองใคร่ครวญเหตุ และผลแล้วแสดงความเห็นในฐานะเจ้าของเงินภาษีปวงชนชาวไทยกันได้ หรือจะผ่อนคลายฟังเพลง “ภารกิจกองทัพ” วนไปก็ตามอัชฌาศัยนะจ๊ะ


**งูเห่าโผล่ที่ ปชป. ขอโหวตสวนรัฐมนตรีของพรรคตัวเอง สางแค้นที่ได้เงินแล้วไม่รักษาคำพูด โหมโรงกันมานาน ถึงวันนี้ก็เข้าสู่โหมดซักฟอกจริงจังแล้ว โดยมี “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กับอีก 10 รัฐมนตรี ที่ตกเป็นเป้า

เพื่อความมั่นใจในเสียงสนับสนุน ตอนยกมือชี้เป็นชี้ตาย ที่ “บิ๊กตู่” อยากให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และหวังว่าจะให้รัฐมนตรีทุกคนได้รับคะแนนเสียเท่ากัน แม้ในความเป็นจริงจะเป็นได้ยากก็ตามที

ช่วงก่อนการประชุม ครม. วานนี้ (18 ก.ค.) “บิ๊กตู่” ก็ได้เรียกหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นรัฐมนตรี เข้าไปปิดห้องคุย ...คนที่ได้เข้าไป อาทิ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ “วราวุธ ศิลปอาชา” รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา...


“บิ๊กตู่” กำชับให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เช็กเสียงโหวต และดูแลกันให้ดี อย่าให้มีการแตกแถว จนสร้างปัญหาให้กับรัฐบาลในภายหลัง เพราะที่ผ่านมาพรรคร่วมรัฐบาลที่มักมีปัญหาในการโหวต ก็คือพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นที่รับรู้กันว่ายังมีปัญหาระหองระแหงกันภายใน

แล้วในที่สุดความไม่เป็นเอกภาพในพรรคประชาธิปัตย์ ก็โผล่ออกมาฟ้องให้คนภายนอกได้เห็น โดยในช่วงบ่ายวานนี้ (18 ก.ค.) พรรคฯได้เรียกประชุม ส.ส.โดยมี “องอาจ คล้ามไพบูลย์” รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส.พรรค เป็นประธานการประชุม เพื่อซักซ้อม รับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และกำชับเรื่องการโหวต ...

ระหว่างนั้น “ไชยยศ จิรเมธากร” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก็ลุกขึ้นกล่าวต่อที่ประชุมว่า ในฐานะที่ตนอยู่กับพรรคมานาน ขอบอกกับส.ส.ใหม่ว่า ตนรักพรรค แม้วันที่ออกจากพรรคไปเป็นเลขาธิการพรรคอื่น แต่ก็มีส่วนร่วมในการช่วยจัดตั้ง “รัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” แม้ตนจะเผชิญกับมวลชนที่บุกล้อมบ้าน และขู่จะเผาบ้านในช่วงนั้น ภายหลังผู้หลัก ผู้ใหญ่ในพรรคได้ขอให้กลับมาช่วยพรรค ตนเองก็กลับมา และทำหน้าที่จนถึงปัจจุบัน

“ไชยยศ” สรุปก่อนจบว่า จะขออนุญาตพรรคใช้เอกสิทธิ์ในการลงมติ “ไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีของพรรคบางคน” ... ทำเอาคนในที่ประชุม อึ้งไปตามๆ กัน

สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ มีรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายในครั้งนี้ คือ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค “จุติ ไกรฤกษ์” รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ “นิพนธ์ บุญญามณี” รมช.มหาดไทย ...แล้วใครคือรัฐมนตรีคนที่ถูก “ไชยยศ” หยุมหัว


มีรายงานว่า ช่วงที่ “ไชยยศ” กล่าวนั้น เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ทางพรรคให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพ “ไชยยศ” จึงพูดเพียงเท่านั้น... เมื่อเกิดเรื่องที่ชวนตกตะลึง “องอาจ” ซึ่งเป็นประธานในที่ประชุม ก็ได้ขอให้สื่อออกจากห้องประชุมไปก่อน

แล้ว “บัญญัติ บรรทัดฐาน” ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ก็ได้สอบถามถึงเหตุผลที่จะต้องขอใช้เอกสิทธิ์ดังกล่าว ซึ่ง “ไชยยศ” ก็ตอบแบบไม่มีเม้มว่า ... เป็นที่รู้กันในหมู่ ส.ส.ของพรรคว่า ในการเลือกตั้งปี 2562 นั้น รัฐมนตรีบางคนที่เคยเป็นเลขาฯพรรค ยืมเงินตนไปหลายสิบล้าน โดยให้สัญญาว่า จะจัดลำดับ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ให้อยู่ในลำดับต้นๆ ไม่เกินที่ 12 แต่พอได้เงินแล้วกลับจัดให้ตนอยู่ลำดับที่ 28 ซ้ำยังมีการนำรายชื่อคนอื่นที่มาใหม่ มาแทรกใส่ลำดับตัดหน้าตนอีก เมื่อถามเหตุผลว่าทำไม่เป็นเช่นนั้น ก็ตอบไม่ได้....

เรียกว่างานนี้ขอโหวตสวน เพื่อ “สางแค้น” ว่างั้นเถอะ !!

มีรายงานว่า หลังการประชุมส.ส.พรรคจบลง ทั้ง “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรค “นิพนธ์ บุญญามณี” รองหัวหน้าพรรค “บัญญัติ บรรทัดฐาน” ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค และ “องอาจ คล้ามไพบูลย์” ประธานส.ส.พรรค ได้พยายามเกลี้ยกล่อมขอให้ “ไชยยศ” ทบทวนการขอใช้เอกสิทธิ์ดังว่า ...แต่ไม่มีรายงานข่าวว่า”ไชยยศ” ได้รับปากหรือไม่

สำหรับ “ไชยยศ จิรเมธากร” เพิ่งได้รับการเลื่อนขึ้นมาให้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ เมื่อช่วงกลางเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมานี้เอง โดยมาแทน “วีระชัย วีระเมธีกุล” ที่ลาออกไปด้วยเหตุผลที่ว่า อยากมีเวลาใช้ชีวิตส่วนตัวดูแลครอบครัว

วันที่ 23 ก.ค.นี้ “ไชยยศ” จะโหวตไล่รัฐมนตรีของพรรค ตามที่ได้ประกาศไว้หรือไม่ และจะมีใครโหวตตามด้วยหรือไม่ ต้องติดตาม!!