xs
xsm
sm
md
lg

ฟาด “ปวิน” เจ็บ คอมเมนต์แห่ตามดารา สังคมหยุดพัฒนา “ท่านใหม่” ถึง “ชัชชาติ” หนังกลางแปลง แฝงล้มสถาบันฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ โพสต์ต้นเหตุ “ปวิน” ถูกฟาด ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
“ดร.อานนท์” จัดให้! “ปวิน” คอมเมนต์แห่ตามดารา สังคมหยุดพัฒนา กรณี “ลิซ่า” ไทยรักษา ฟาด ทุกคนต้องเป็นแบบอาจารย์มั้ย? หยาบคาย หิวแสง ชอบอิจฉาริษยา “ท่านใหม่” จากใจถึงใจ “ชัชชาติ” กลางแปลงแฝงล้มเจ้า

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (18 ก.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ แชร์โพสต์ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต และผู้ต้องหาคดี 112 ซึ่งหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ที่คอมเมนต์ในทำนอง แห่ตามดารา สังคมหยุดพัฒนา

ขณะเดียวกัน ก็มีผู้ใช้นามว่า “ไทยรักษา” เข้ามาแสดงความเห็น ระบุว่า
“ถ้าการแห่ตามดารา มันคือสังคมหยุดพัฒนา แล้วทั่วโลกเขาจะมีวงการการตลาด marketing ไว้ทำไม ?

หลักการตลาดเขาใช้กันอยู่ทั่วโลก “BVLGARI” ที่ดาราคนนั้นไปเป็น โกลบอล แบรนด์เเอมบาสเดอร์

แคมเปญ “Unexpected Wonders” ที่ผ่านมา คนแห่ซื้อเครื่องประดับใส่ตาม ทำรายได้ให้ BVLGARI กว่า 2 พันล้าน

อย่างนั้น !! อิตาลีก็เป็นสังคมหยุดพัฒนาเหมือนกันงั้นสิ ?

เกาหลีใต้ก็เป็นสังคมหยุดพัฒนางั้นเหรอ ? แล้วแบรนด์ดังๆ เขาจะจ้างดาราเกาหลีเป็นพรีเซ็นเตอร์ไปทำไม ?

ถ้านี่บอกว่าเป็น #สังคมหยุดพัฒนา #แล้วสังคมที่พัฒนามันต้องเป็นยังไง คนในสังคมทุกคนต้องเป็นแบบที่อาจารย์เป็นมั้ย? หยาบคาย หิวแสง ชอบอิจฉาริษยา พร้อมจะด้อยค่าทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว ยกตัวเองอยู่เหนือทุกสรรพสิ่งในโลก
นั่นไม่เรียกสังคมพัฒนานะ แต่คงเป็น #สังคมต่ำทราม ซะมากกว่า....

ความคิดคับแคบแค่นี้ ยังกล้าเอาออกมาให้คนเห็น

เพราะมันจำเป็นต้องโพสต์ เนื่องจากทนเห็นประเทศไทยมีเรื่องดีๆ ไม่ได้

เพราะกระแสชื่นชมที่มีต่อดาราคนนั้น ก็คือ ความภูมิใจในตัวคนไทยที่ได้ไป “โกอินเตอร์” ซึ่งมันก็คือ #กระแสชาตินิยม นั่นเอง !

#สังคมหยุดพัฒนา
#อาจารย์อะไรหิวแสง
#แน่จริงเปิดคอมเมนต์ก่อน”

ภาพ “ลิซ่า” โชว์กินอะไรก็ขายดี จากแฟ้ม
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา น่าสนใจ TNN ONLINE นำเสนอประเด็น ‘ลิซ่า BLACKPINK’ พลังขับเคลื่อน Soft Power อย่างไม่มีที่สิ้นสุด!! (มีคลิป)

เนื้อหาระบุว่า วันนี้พามาติดตามกันถึงเหตุผลว่า ทำไม “ลิซ่า BLACKPINK” ถึงเป็นคนที่อะไรมาผ่านมือ เธอสามารถส่งให้ปังไปได้ทุกสิ่งอย่าง!!

เจ้าแม่ SOLD OUT อย่าง “ลิซ่า BLACKPINK” หรือ “ลิซ่า - ลลิษา มโนบาล” (Lisa) ล่าสุดพากระแสเครซีย์ “โรตีสายไหม” กระหึ่มทั้งไทยและต่างแดน เพียงแค่โพสต์ภาพปาร์ตี้ขนมไทยเพียงไม่กี่วินาที แถมงานนี้ไม่เพียงในไทยจะขายดิบขายดี แต่ข่าวว่ายังมีออเดอร์มาจากต่างแดนโดยเฉพาะจากเกาหลี และจีน ไม่นับรวมที่สื่อต่างชาติพากันแนะนำเมนูขนมหวานแสนอร่อยจากจังหวัดอยุธยานี้ ให้กับชาวประเทศได้รู้จักกัน

และเชื่อว่า หลายคนยังไม่ลืมว่า เมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ ตอนที่ “ลิซ่า” ลัดฟ้ากลับมาฉลองวันเกิดในไทย เธอก็ก่อกระแส “หมูกระทะฟีเวอร์” จนพ่อค้าแม่ค้าหมูกระทะพากันยิ้มแป้นรับทรัพย์ และย้อนไปเมื่อปีก่อน ตอนให้สัมภาษณ์ในรายการของพิธีกรชื่อดังของไทย “ลิซ่า” ก็พาเมนู “ลูกชิ้นยืนกิน” ของดีจากบุรีรัมย์บ้านเกิดของเธอกระหึ่มไทยแลนด์แดนสยาม ใครไม่รู้จักลูกชิ้นยืนกิน ก็ได้รู้จักกันจากในครั้งนั้น จนมีทั้งคลิปพาชิม และคลิปสอนทำทั้งการทอดและทำน้ำจิ้มสุดแซ่บ ขณะที่ร้านออริจินอลก็ยิ้มรับยอดขายหลังจากซบเซาหนักมาจากโควิดระบาด
ซึ่งที่ว่ามาก็ยังไม่นับรวมผลงานเพลง และสินค้าข้าวของอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ “ลิซ่า” ที่ต้องยอมรับว่าจะราคาระดับไหน ก็ล้วนแต่ขายดีเหมือนแจกฟรี แม้แต่สร้อยแบรนด์หรูเส้นละกว่า 2 ล้านบาท พอเห็น “ลิซ่า” สวมหรือเป็นพรีเซ็นเตอร์ก็ขายเกลี้ยงไม่มีเหลือ ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความนิยมและความทรงอิทธิพลของ “ลิซ่า” ซึ่งแน่นอนว่า เป็นการสั่งสมมาจากอิมเมจภาพลักษณ์ที่ดีงาม ในฐานะเด็กไทยมากความสามารถและพรสวรรค์ที่มุ่งมั่นไล่ตามความฝัน ลัดฟ้าไปเดบิวต์และโด่งดังไกลในต่างแดนจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

ดังนั้น อาจจะพูดได้ไม่ผิดว่า ไม่ว่าจะเป็น Soft Power อะไร เมื่อมาอยู่ในมือ “ลิซ่า” แล้วก็ล้วนแต่จะพากันปังปุริเยไปด้วยกันทั้งหมด ที่สำคัญ เมื่อเป็น Soft Power ที่เกี่ยวกับความเป็นไทยแลนด์แดนบ้านเกิดนั้น “การขายของ” หรือการเลือกชู “สินค้า” ของ “ลิซ่า” ยังอยู่บนพื้นฐานของน้ำใสใจจริง เพราะจะเห็นว่าเธอเน้นชูเมนูโปรดของตัวเองทั้งสิ้น เมื่อเป็นแบบนี้ก็เลยไม่แปลกที่แฟนๆ ทั้งไทยและต่างแดน จะอยากไปลองลิ้มชิมตามอย่างไอดอลสาวเนื้อทองที่ทุกคนต่างเชื่อมั่นและให้ความไว้วางใจเธอคนนี้กันเป็นทิวแถว (https://www.tnnthailand.com/news/trueinside/119494/)
(คลิกชมบทสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษของ ลิซ่า)
https://www.youtube.com/watch?v=_78XVWY1aMA

ภาพ โพสต์ “ท่านใหม่” ม.จ.จุลเจิม ยุคล ต่อ กรุงเทพกลางแปลง ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากสยามรัฐออนไลน์
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก จุลเจิม ยุคล ของ พลเอกหม่อมเจ้าจุลเจิม ยุคล หรือ “ท่านใหม่” โพสต์ข้อความระบุว่า

“จากใจ ถึงใจ
ท่าน ผู้ว่าฯ กทม. ชัชชาติ ครับในฐานะท่านเป็นเจ้าของ

วิคหนังกันแปลง ควรจะสืบสานวัฒนธรรม ประเพณี ก่อนการฉายภาพยนตร์ ไม่ว่าในโรงภาพยนตร์หรือกลางแปลง จะมีการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี และการยืนถวายความเคารพก่อนหนังฉายทุกครั้ง เราคนไทยได้ถือปฏิบัติกันมานานแล้ว และยังไม่มีการล้มเลิกประเพณีดังกล่าว ส่วนใครจะยืนถวายความเคารพหรือไม่ ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลของบุคคลนั้นๆ ดังนั้น จึงขอ บอก (เตือน) ท่านด้วยความเคารพ เรามีวัฒนธรรมและประเพณี ทีปฏิบัติกันมานานแล้ว เรื่อง #การเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี และการยืนถวายความเคารพก่อนหนังฉายตั้งแต่สมัย ปู่ ย่า ตา ยาย มานานแล้ว ขอให้ท่านผู้ว่า ชัชชาติ คิดดูให้ดี และรอบคอบอย่าได้เปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกเสีย ตามเสียงนก เสียงกา

ขอขอบคุณที่ได้ฟังความเห็น ติติงเล็กๆ น้อยๆ นี้ จากผม การท้วงติง ตัวท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ ถึงแม้ทัวร์จะลงผมเท่าไหร่ จะด่าว่าผมยังไงผมก็ไม่สนใจ แต่ขอให้ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้อ่าน และถือปฏิบัติ บ้างในสิ่งที่ผมติติง ผมถือว่าท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ยังเคารพ และนับถือ และแสดงความกตัญญูต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ของประเทศไทย”

ภาพ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก จุลเจิม ยุคล
ก่อนหน้านี้ ในวันเดียวกัน ม.จ.จุลเจิม ยุคล ก็ได้โพสต์ข้อความเอาไว้ว่า

“ศิลป และวัฒนธรรมของประเทศชาติเปลี่ยนไปเสียแล้ว

ในอดีตหนังกลางแปลง ขายยายังมีประโยชน์ต่อชาวบ้าน แต่ก็แอบแฝงแค่โฆษณาชวนเชื่อต่อต้านคอมมิวนิสต์ #มีการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีทุกครั้งก่อนหนังฉาย

แต่ในปัจจุบันหนังกลางแปลงมันแอบแฝงเพื่อล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมพวกชังชาติและพวกล้มเจ้าเข้ามาร่วมกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย #ก่อนหนังฉายไม่มีการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี เลย มีแต่นำพวกนักร้องที่สนับสนุนยกเลิก ม.112 มาเล่นดนตรีแทน

ขอบคุณ และขออนุญาต คุณสุเทพ ศิลปงาม”

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ การเคลื่อนไหวต่อต้านคนที่ทำความดีต่อประเทศไทย โดยเฉพาะที่ทำให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้หน้าได้ตา อย่างกรณี “ปวิน” ที่ “คอมเมนต์” แบบตื้นๆ จนถูกฟาดอย่างจัง ถือว่า เป็นปกติของพวก “ล้มเจ้า” หรือ ขบวนการ 3 นิ้วอยู่แล้ว

ประเด็นของ “ท่านใหม่” ก็ไม่ต่างกัน ต้องยอมรับว่า มีความพยายามที่จะใช้ “กรุงเทพกลางแปลง” ของ ผู้ว่าฯ “ชัชชาติ” ผสมโรงกิจกรรมของฝ่ายต่อต้านสถาบันฯ ซึ่งกรณีรำลึกถึง “วัฒน์ วรรลยางกูร” ในการฉายหนังกลางแปลงที่คลองเตย เรื่อง “มนต์รักทรานซิสเตอร์” ซึ่ง วัฒน์ เป็นผู้ประพันธ์ ก็เห็นได้ชัด ว่า มีการเตรียมแจก “ลูกโป่งวัฒน์ # ยกเลิก ม.112” เอาไว้แล้ว

ส่วนที่ “ท่านใหม่” พูดถึงการไม่เปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีก่อนฉายหนัง ก็เช่นกัน ต้องมีอะไรสักอย่างแอบแฝง เพราะปกติแล้ว คนฉายหนังทุกคนน่าจะมีประสบการณ์เรื่องนี้ และรู้ดีว่า จะต้องเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีก่อนและหลังฉายหนัง

ถือว่า “จากใจ ถึงใจ” ของ “ท่านใหม่” ท้าทายอย่างยิ่ง ที่ผู้ว่าฯ ชัชชาติ จะต้องหาคำตอบเรื่องนี้มาให้ได้ ถ้าไม่อยากให้คนคิดเป็นอื่น?


กำลังโหลดความคิดเห็น