xs
xsm
sm
md
lg

เลือกตั้งลำปางเอฟเฟกต์ "ธรรมนัส" ประกาศจุดยืนขอเป็นฝ่ายค้าน **ขยี้ตาแป๊ป!! "อัศวิน" หลังพ้นผู้ว่าฯกทม. มีทรัพย์สิน 11.5 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**เลือกตั้งลำปางเอฟเฟกต์ "ธรรมนัส" ประกาศจุดยืนขอเป็นฝ่ายค้าน

ผลการเลือกตั้งซ่อมที่เขต 4 ลำปาง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ถือว่าพลิกล็อกไม่เล็ก เมื่อ “เดชทวี ศรีวิชัย” เด็กของ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส จากพรรคเสรีรวมไทย ได้ 54,359 คะแนน เอาชนะ “วัฒนา สิทธิวัง” คนของ “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จากพรรคเศรษฐกิจไทย ที่ได้ 30,218 คะแนน ...ชนะแบบทิ้งห่าง ไม่เห็นฝุ่น

หลังรู้ผล “ผู้กองธรรมนัส” ก็แสดงความดีใจกับผู้ชนะไปตามมารยาท แต่มีคำพูดที่ชวนให้เอะใจอยู่ว่า... “ผมเข้าใจแล้วว่า พี่น้องประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง และผมก็พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกันครับ”

แล้วล่าสุด “ร.อ.ธรรมนัส” ก็ประกาศว่าจากนี้ไป “พรรคเศรษฐกิจไทย” ก็เตรียมตัวไปทำงานร่วมกับฝ่ายค้านเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน พร้อมกันนี้ก็ได้ให้ “บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์” ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรค และ “ไผ่ ลิกค์” ส.ส.กำแพงเพชร ของพรรค ไปลาออกจากการเป็นกรรมการวิปรัฐบาล เพื่อแสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าไม่ร่วมสังฆกรรมกับรัฐบาลแล้ว และจะหาโอกาสไปกราบลา “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่ “ผู้กอง” ให้ความเคารพนับถือ ว่าจะขอลาออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
สำหรับคนอื่นอาจจะมองว่า “เด็กผู้กอง” แพ้เลือกตั้งครั้งนี้ สะท้อนถึงกระแสความนิยมในรัฐบาล และตัวนายกรัฐมนตรีตกต่ำ เพราะถือว่าพรรคเศรษฐกิจไทย อยู่ข้างรัฐบาล ... ส่วนคนของ “พรรคเสรีรวมไทย” ชนะท่วมท้น เพราะมวลชนที่ชื่นชอบพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล มาร่วมเทคะแนนให้ เพราะทั้งสองพรรคนี้ไม่ได้ส่งผู้สมัคร

แต่ “ร.อ.ธรรมนัส” ไม่มองอย่างนั้น ...เขาไม่เชื่อว่าคนอย่าง “เดชทวี ศรีวิชัย” ที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ผ่านการเลือกตั้งมาด้วยคะแนนแค่หลักพัน อยู่ดีดีจะมาได้คะแนนถึง 5 หมื่นกว่า ทั้งที่ไม่มีคนของพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ ...

เป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่มี “มือที่มองไม่เห็น” ยื่นเข้ามาสอด!!

ที่ผ่านมา บทบาทของ “ร.อ.ธรรมนัส” และพรรคเศรษฐกิจไทย อาจดูไม่ชัดว่าจะยืนอยู่ข้างรัฐบาล หรือฝ่ายค้านกันแน่ เพียงแต่บอกว่าจะยืนอยู่ข้างผลประโยชน์ของประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แต่ที่ชัดเจนและเปิดเผยคือ “ร.อ.ธรรมนัส” ยืนตรงข้าม “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาโดยตลอด และยังประกาศว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีครั้งนี้ ทั้ง “บิ๊กตู่”และรัฐมนตรีรอบข้างโดนแน่ ด้วยข้อหาทุจริต ... ยกเว้น “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ “ธรรมนัส” อ้างว่าเป็นรองนายกฯ แต่ไม่ได้คุมกระทรวงไหนเลย จึงไม่มีเรื่องทุจริต

การเลือกตั้งที่ลำปางครั้งนี้ ถือว่าเป็นสนามแรกของ “พรรคเศรษฐกิจไทย” หลังจากที่ “ร.อ.ธรรมนัส” พาพลพรรคแยกตัวออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ เป็นพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งถือว่าอยู่ในเขตอิทธิพลของเขา

แน่นอนเขาย่อมต้องการสร้างชื่อ สร้างความเชื่อมั่นกับลูกพรรค และผู้ที่จะเข้ามาร่วมอุดมการณ์ในภายภาคหน้าว่า พรรคเศรษฐกิจไทยจะเป็นพรรคที่มีอนาคตสดใส ดังนั้นเขาต้อง“แจ้งเกิด”ให้ได้

บุญสิงห์ วรินทร์รักษ์
ขณะเดียวกัน “ร.อ.ธรรมนัส” ก็รู้ว่าคนในพรรคเดิมของเขา คือพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะคนที่อยู่รอบข้างผู้มีอำนาจ ย่อมต้องหาทางสกัดไม่ให้เขาได้แจ้งเกิดในการเลือกตั้งสนามนี้...
เพราะหาก “เศรษฐกิจไทย” แพ้ ความเชื่อมั่นของนักเลือกตั้งที่มีต่อ “ร.อ.ธรรมนัส”ก็จะหดหาย ส.ส.ในพรรคที่ติดสอยห้อยตามมา ก็จะหวั่นไหว บางคนอาจต้องหาทางหนีที่ไล่ ย้ายพรรคในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

ดีไม่ดีการแพ้เลือกตั้งครั้งนี้ อาจส่งผลถึงขั้นทำให้ “พรรคเศรษฐกิจไทย” ล้มหายตายจากในสนามเลือกตั้งครั้งหน้าก็เป็นได้
ดังนั้น “ร.อ.ธรรมนัส” จึงต้อง “เอาคืน” ด้วยการประกาศว่าจะออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หันไปร่วมงานกับฝ่ายค้าน และเชื่ออุณหภูมิว่าการเมืองหลังจากนี้จะร้อนแรงยิ่งขึ้น เพราะอยู่ในช่วงการโหมโรงศึกซักฟอกพอดี
ก็ต้องจับตาบทบาทการเป็น ฝ่ายค้านของ “ผู้กองธรรมนัส” และพรรคเศรษฐกิจไทย ว่าจะมีลำหัก ลำโค่นแค่ไหน จะมี “ใบเสร็จ” มาน็อกรัฐบาลได้หรือไม่!!



 ไผ่ ลิกค์
**ขยี้ตาแป๊ป!! "อัศวิน" หลังพ้นผู้ว่าฯกทม. มีทรัพย์สิน 11.5 ล้าน

ตามส่องทรัพย์สิน “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” หลังจากพ้นตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง ในรายของ “พล.ต.อ.อัศวิน” ว่า มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 11,518,938.48 บาท ไม่มีหนี้สิน

“พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” เข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ตั้งแต่ปี 2559-2565 อายุ 71 ปี แจ้งมีทรัพย์สิน 11,518,938.48 บาท จากเงินฝาก (4 บัญชี) รวมเป็นเงิน 3,867,938.48 บาท ที่ดิน 6 แปลง อยู่ใน จ.ชลบุรี และ จ.นครปฐม ตีราคา 5,341,000 บาท ยานพาหนะ 1 คัน 2,000,000 บาท ทรัพย์สินอื่นๆ ก็มีทองรูปพรรณหนัก 10 บาท มูลค่า 310,000 บาท

ทั้งนี้ “พล.ต.อ.อัศวิน” แจ้งหย่ากับคู่สมรส เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2554 และ แจ้งว่ามีบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย 3 คน

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง
ขณะเดียวกัน ข้อมูลรายได้ต่อปีและรายจ่ายต่อปี โดยประมาณ “พล.ต.อ.อัศวิน” แจ้งว่า มีรายได้ต่อปี อยู่ที่ 2,009,520 บาท จากเงินเดือน 864,720 บาท เงินข้าราชการบำนาญ 646,800 บาท เงินเพิ่มข้าราชการ 498,000 บาท

ส่วนรายจ่าย แจ้งว่ามี 704,000 บาท จากประกันชีวิต 100,000 บาท ค่าสาธารณูปโภค 120,000 บาท ค่าน้ำมัน 60,000 บาท ค่าโทรศัพท์ 24,000 บาท ค่าท่องเที่ยว 300,000 บาท และเงินบริจาค 100,000 บาท

พร้อมกันนี้ “พล.ต.อ.อัศวิน” แจ้งเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีภาษีที่ผ่านมา ระบุเงินได้พึงประเมิน ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40 (1) – (8) จำนวน 7,491 บาท

เพราะ “อดีตผู้ว่าฯอัศวิน” นั้นถือว่าอยู่ในตำแหน่งมานานกว่า 6 ปี ภายหลังรายงานของป.ป.ช. ถูกเปิดเผยออกมา ก็ปรากฏว่า ได้รับความสนใจจากบรรดาคอการเมืองชาวโซเชียลฯ พากันวิพากษ์วิจารณ์กันไปตามประสา โดยก่อนจะจากแยกย้ายกันไปด้วยอาการเดียวกัน ...ขอขยี้ตาแป๊บ!!




กำลังโหลดความคิดเห็น