xs
xsm
sm
md
lg

“โทนี่”กระอักพันธมิตรชิ่ง ก้าวไกลทำแสบ!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมืองไทย 360 องศา

เหมือนกับรับรู้สัญญาณ และรับรู้ถึงชะตากรรมล่วงหน้าว่าต้อง“ฝันสลาย” สำหรับ“โทนี่” หรือนายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะ“เจ้าของคอก”ใหญ่ เพราะเคยมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า สูตรการเลือกตั้งส.ส.จะต้อง “หารร้อย” อย่างแน่นอน หลังจากก่อนหน้านั้น สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญเปลี่ยนมาเป็นใช้บัตรเลือกตั้งสองใบสำเร็จในขั้นตอนแรกมาแล้ว แต่เมื่อทุกอย่างพลิกผันในชั่วข้ามคืน กลายมาเป็นสูตร “หารห้าร้อย” ในการคำนวณหาส.ส.บัญชีรายชื่อ มันทำให้เกิดความผิดหวังจนแทบกระ “กระอัก” กันเลยทีเดียว

และที่ร้ายไปกว่านั้นบรรดาพันธมิตร เคยคิดจะฝากฝังจากพรรคฝ่ายค้านด้วยกัน เอาเข้าจริงกลับ “ชิ่ง” หรือหากพูดให้ตรงๆ ก็คือ “หักหลัง” เอาตัวรอด เมื่อตัวเองได้ประโยชน์นั่นเอง

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ได้อ้างคำพูดของ นายทักษิณ ชินวัตร ในคลับเฮาส์ เมื่อค่ำวันที่ 5 กรกฎาคมว่า “ถ้าเพื่อไทยได้ปาร์ตี้ลิสต์น้อยลง ก้าวไกลก็อาจจะได้มากขึ้น แต่ยังไงพรรคฝ่ายประชาธิปไตยก็รวมกันได้เกิน 300 อยู่ดี”

มีคนถามว่า การเปลี่ยนสูตรคำนวณเป็นหาร 500 จะเป็นการดับฝันแลนด์สไลด์ เพื่อไทยหรือไม่?

พี่โทนี่ เลยตอบในฐานะกองเชียร์เพื่อไทยว่า มันอยู่ที่แนวคิดว่าเพื่อไทยจะวางตัวเองว่า ได้กี่เสียง สมมติว่า มีโหวตเตอร์ 30 ล้านคน หาร 500 ก็คือ 6 หมื่นเสียง สมมติว่าพรรคเพื่อไทยได้ 15 ล้านเสียง ซึ่งไม่น่าไกลเกินฝัน แต่ได้ส.ส.เขตมาแล้ว 200 เอา 6 หมื่นหาร 15 ล้าน ได้ 250 ที่นั่ง ได้ปาร์ตี้ลิสต์อยู่ 50 ก็ถือว่าไม่ขี้ไก่นะ แต่อยู่ที่กรอบคิดนะ เขาต้องคิดเอง ส.ส.เขตได้ยังไง แต่ผมว่าคงไม่น่ามีปัญหา

“สมมติถ้าเพื่อไทยได้ปาร์ตี้ลิสต์น้อยลง ก้าวไกลก็อาจจะได้มากขึ้น แต่ยังไงพรรคฝ่ายประชาธิปไตย เอามารวมกันก็ได้เกิน 300 อยู่ดี ฝั่งรัฐบาลผมให้เต็มที่ 200 เลย นี่ให้เต็มที่แล้วนะ อย่าหาว่าผมดูถูก แต่ผมถูกจริงๆ ดีไม่ดี ไม่ถึง 200 ด้วย”

แม้ว่าในคำพูดดังกล่าว นายทักษิณ ชินวัตร จะพยายามปลอบใจตัวเอง ในทำนองว่าแม้ว่าจะออกมาเป็นสูตรหารห้าร้อย พรรคเพื่อไทยก็จะยังได้เสียงส.ส.ไม่ต่ำกว่า 250 เสียงอยู่ดี และพยายาม “ล็อคพรรคก้าวไกล” เป็นพันธมิตร ไว้ล่วงหน้า โดยกล่าวว่าแม้พรรคเพื่อไทยได้ปาร์ตี้ลิสต์น้อยลง แต่พรรคก้าวไกลอาจจะได้มากขึ้น ยังไงพรรคฝ่ายประชาธิปไตยรวมกันก็ได้เกิน 300 อยู่ดี

แต่กลายเป็นว่า “พันธมิตร”ที่กล่าวถึงอย่างพรรคก้าวไกล กลับลงมติ “หนุนหารห้าร้อย” หน้าตาเฉย แม้ว่าเมื่อผลโหวตออกมาเรียบร้อยแล้ว พวกเขายังมาแถลงข่าวโจมตี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวหาว่า เป็นการโหวตเพื่อเปิดทาง “ระบอบประยุทธ์สืบทอดอำนาจ”

แต่เมื่อกลับไปตรวจสอบรายชื่อการโหวตของส.ส.พรรคก้าวไกล ส่วนใหญ่ล้วนสนับสนุน “หารห้าร้อย” แม้จะมีบ้างที่ยืนข้างหารร้อย แต่ก็ล้วนเป็นกลุ่มที่เป็นคณะกรรมาธิการเสียงข้างมากในสัดส่วนของพรรคที่ต้องเล่นตามบท เหมือนกับพวกกรรมาธิการเสียงข้างมาก จากพรรคอื่นๆ

ดังนั้น การที่ออกมาแถลงโจมตีสูตรหารห้าร้อยในภายหลัง มันก็ถูกมองว่าเป็นเพียงแค่ “ลีลา” ทางการเมืองแบบ “ตีสองหน้า” กินสองต่อ นั่นเอง!!

เพราะก่อนหน้านี้ หากยังจำกันได้ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ก่อนการพิจารณา ร่าง กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญสองฉบับเพียงหนึ่งวันว่า จุดยืนของเขา สนับสนุนและต่อสู้ให้ใช้สูตรคำนวณด้วยจำนวน 500 คน หาค่าเฉลี่ยส.ส.บัญชีรายชื่อ และจากการพูดคุยกับส.ส.พรรคเล็กที่สนับสนุนสูตร 500 คน พบว่าหากมติของรัฐสภายืนยันต่อการใช้จำนวน 100 คน หาค่าเฉลี่ยส.ส.จะพบความยากลำบากมาก เนื่องจาก ส.ส.1 คนต้องมีคะแนน 3.3 แสนคะแนน ถึง 3.5 แสนคะแนน แต่หากใช้จำนวน 500 คน จะใช้คะแนนเพียง 7 หมื่นคะแนน

ท่าทีดังกล่าวของพรรคก้าวไกล ที่สะท้อนออกมาตามเสียงโหวตที่ว่านี้ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้ หากจำกันได้ในช่วงที่มีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อหลายเดือนก่อน พรรคก้าวไกล ก็ต้องการใช้วิธีการคำนวณคะแนน ในแบบของ “เยอรมัน” คือแบบจัดสรรปันส่วนผสม แต่ก็ตกไป ดังนั้น เมื่อเป็นสูตร “หารห้าร้อย” ถึงไม่ใช่ แต่ก็ใกล้เคียงที่สุด

การลงมติของพรรคก้าวไกล ในลักษณะสวนทางกับพรรคเพื่อไทยดังกล่าวข้างต้น มันจึงทำให้ นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ออกมาโวยวาย ตำหนิอย่างรุนแรง ว่า พรรคก้าวไกล “กลืนน้ำลาย” ตัวเอง

“พรรคก้าวไกล กลืนน้ำลายตัวเอง ไปลงมติเอา 500 หาร ทั้งที่พรรคตัวเองเสนอกม.ให้รัฐสภารับร่างไปเข้ากมธ.ก็เสนอเอา 100 หาร ในกมธ.เสียงข้างมาก คนพรรคนี้ลงมติเห็นด้วยกับ กมธ.เสียงข้างมาก คือ100 หาร ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็ยืนยันว่าจะโหวตเอา 100 หาร แต่พอลงมติ.. กลับลำกลางสภา..ไปเอา 500 หารเฉยเลย.. นี่คือพรรคคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นความหวัง..จะออกกม.ขัดหลักการ ขัดรธน.ด้วยคิดว่าตนเองจะได้ ส.ส.มากขึ้น”

ไม่ต้องไปพูดถึงพรรคฝ่ายค้าน พรรคเล็กอื่นๆ เช่น พรรคเสรีรวมไทย ก็ล้วนโหวตหนุนหารห้าร้อยทั้งสิ้น ซึ่งเมื่อพิจารณาจากจำนวนเสียงโหวตรวมทั้งหมดของสมาชิกรัฐสภา ในที่ประชุมมีจำนวน 577 คน โหวตทางเดียวกับพรรคเพื่อไทย แค่ 160 เสียง ขณะที่เอาสูตรหาร 500 มีถึง 392 เสียง ซึ่งในนั้นก็ต้องมีส.ส.ของพรรคก้าวไกลอยู่ด้วยแน่นอน

แน่นอนว่าเส้นทางข้างหน้าอีกยาวไกล ยังไม่จบง่ายๆ แต่เมื่อผลออกมาแบบนี้ ฝ่ายที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ก็เห็นจะเป็นพรรคเพื่อไทย ในเครือข่ายของ “พี่โทนี่” นายทักษิณ ชินวัตร นั่นแหละ เพื่อถูกมองว่าเป็นการดับฝัน “แลนด์สไลด์” ที่เคยฝันหวานก่อนหน้านี้ เพราะเมื่อออกมาเป็นแบบหารห้าร้อย ที่มีส.ส.พึงมี มันก็มีโอกาสที่ทำให้พรรคเพื่อไทย ที่ชนะส.ส.แบบระบบเขตจำนวนมาก ก็จะไม่ได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเข้ามาเติมอีก หรือหากเพิ่มก็ไม่มากตามเป้าหมาย

ขณะเดียวกันสำหรับพรรคก้าวไกลงานนี้ถือว่า “มีแต่ได้กับได้” หรือ“กินสองต่อ” เพราะยังเชื่อว่า ระบบแบบที่ว่านี้น่าจะได้ประโยชน์มากที่สุด มีโอกาสได้ ส.ส.เพิ่มขึ้นอีก

อย่างไรก็ดี สำหรับอีด้านหนึ่ง ยังเล่น “บทสองหน้า” ตีเนียนทำเป็นไม่สนใจกับผลประประโยชน์ที่ตัวเองได้ แต่กลับเล่นตามน้ำ ถล่ม “ระบอบประยุทธ์” กล่าวหาสืบทอดอำนาจ ว่าไปโน่นเสียอีก

ดังนั้นหากมองถึงความรู้สึกของพรรคเพื่อไทย และ“โทนี่” ในเวลานี้ มันก็เหมือนกับมี “ไฟแค้นสุมอยู่ในอก” ที่อุตส่าห์ “ล็อกคอก้าวไกล” ให้เป็นพันธมิตรฝ่ายประชาธิปไตยล่วงหน้า ฝันตัวเลขหลังเลือกตั้งรวมกันไม่ต่ำว่า 300 เสียง แต่ในที่สุดก็ถูก“หักหลัง” ถูกชิ่งหนีเอาตัวรอดหน้าตาเฉย !!



กำลังโหลดความคิดเห็น