“ก้าวไกล” แถลงท่าทีรัฐสภาโหวตหนุนสูตร 500 รับผิดหวังและอัปยศที่สุด เปิดทางระบอบประยุทธ์ให้สืบทอดอำนาจ ถาม ส.ว.ไหนบอกเป็นอิสระ แต่จ้องทุบโต๊ะ ลั่นไม่ร่วมสังฆกรรม-ต่อต้านจนถึงที่สุด
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 ก.ค. ที่รัฐภา พรรคก้าวไกล นำโดย นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ส.ส.พรรคก้าวไกล ร่วมแถลงท่าทีพรรคก้าวไกล หลังที่ประชุมรัฐสภาโหวตเอาสูตรหาร 500 ในการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
นายชัยธวัช กล่าวว่า น่าเสียใจมากกับการลงมติของรัฐสภา ที่ไม่ได้ออกแบบระบบการเลือกตั้งที่ดีแก่ประชาชน แต่เป็นการลงมติเพียงเพื่อตอบสนองความต้องการสืบทอดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เพียงเท่านั้น จนนำไปสู่การโหวตที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เป็นการลงมติที่อัปยศที่สุด ดังนั้น พรรคก้าวไกล ยืนยันว่า เราไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข พ.ร.ป. และเราจะคัดค้านอย่างถึงที่สุด รวมทั้งคัดค้านระบอบการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยจะร่วมมือกับฝ่ายประชาธิปไตยและประชาชน เพื่อให้ออกจากระบอบประยุทธ์ให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตีความพล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกฯเกิน 8 ปี
นายชัยธวัช กล่าวว่า ส่วนร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ที่ได้พิจารณากันตอนนี้ หากผ่านผ่านรัฐสภาไปได้ตามมาตรา 132 รัฐสภาต้องส่งให้ศาลฎีกา ศาลรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งพรรคก้าวไกลจะรอดูประธานสภา ยื่นให้ทั้ง 3 องค์กรพิจารณาหรือไม่ หากขัดรัฐธรรมนูญก็จะส่งกลับมาที่รัฐสภา แต่ถ้ายื่นแค่กกต.ต้องหารืออีกครั้งว่าต้องดำเนินการอย่างไร ย้ำว่า เราจะต่อสู้อย่างเต็มที่ เพื่อให้การแก้ไขร่างพ.ร.ป.ชอบด้วยรัฐธรรมนูญให้ได้ แต่สิ่งที่กังวลที่ซ่อนไว้ คือ หากมีเจตนาสืบทอดอำนาจ จะนำไปสู่เดตล็อคไม่มี พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งรองรับหากมีการยุบสภาเกิดขึ้น นี่คือสิ่งที่เราไม่อยากให้เห็น เหมือนเอาอำนาจเลือกตั้งไว้ที่พล.อ.ประยุทธ์ โดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งเราไม่รู้ว่าตอนนั้นจะเกิดอะไรขึ้น
ด้าน นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเรามีจุดยืนว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องยึดโยงประชาชน โดยมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่จะมีความชอบธรรม เราผิดหวังกับกรรมาธิการ (กมธ.) เสียงส่วนใหญ่ที่ยืนยันว่าในชั้นกมธ.มาตลอดว่า ยังไงก็ต้องหาร 100 แต่เพียงไม่กี่สัปดาห์กลับมีการเปลี่ยนทาทีของ ส.ว.ว่า จะเอาหาร 500 ให้ได้ ซึ่งอำนาจบริหารแทรกแซงอำนาจนิติบัญญัติอย่างน่าสงสัย ขณะที่ ส.ว. พยายามทุบโหวตอย่างเดียว จึงรู้สึกชัดเจนการเลือกตั้งรอบนี้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของกลุ่มอนุรักษ์อำนาจเดิมเท่านั้น เราจะไม่ร่วมสังฆกรรมสืบทอดอำนาจและต่อต้านอย่างถึงที่สุด
ขณะที่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ทุกคนรู้ว่าเดิมตกลงกันเป็นระบบหาร 100 แต่วันสองวันพลิกกลัย ตนสงสัยว่า ที่ชอบพูดว่า ส.ว.เป็นอิสระ ไหนคือความอิสระ ขณะส.ส.ฝ่ายรัฐบาาลไปคุยกันตอนนี้ แต่เข้าใจว่าไปคุยกันที่ทำเนียบ ดังนั้นการทำหน้าทมี่ของสภาแห่งนี้ และ ส.ว. ไม่มีความเป็นอิสระอย่างแท้จริง ทำให้กลับไปใช้ระบบหาร 500 เหมือนเดิม ซึ่งเป็นตอกย้ำให้เห็นว่าเป็นการสืบทอดอำนาจ และมีความพยายามสืบอำนาจอำนาจต่อไปพรรคก้าวไกลผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะไม่ใช่เป็นการออกแบบระบบการเลือกตั้งที่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง แต่เป็นการออกแบบระบบเลือกตั้งที่อยู่บนพื้นฐานใครได้เปรียบเสียเปรียบ ซึ่งสมการตรงนี้ไม่เคยมีประชาชนอยู่ข้างในเลย เราจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อผลประโยชน์ให้ประชาชน และคืนอำนาจประชาชนเพื่อกำหนดอนาคตประเทศไทยต่อไป