“พนิต” หนุนสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หาร 500 เปิดโอกาสคนรุ่นใหม่เข้าสภา สร้างประชาธิปไตย ชี้ หาร 100 ล็อกสเปกผูกขาดอำนาจในมือรุ่นเก่า
วันนี้ (5 ก.ค.) นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเพจส่วนตัว Panich Vikitsreth - พนิต วิกิตเศรษฐ์ ระบุว่า หลายคนอยากใช้สูตรเลือกตั้งที่หารด้วย 500 แทนหารด้วย 100 โดยให้เหตุผลว่า ต้องป้องกันเผด็จการรัฐสภา แต่ผมอยากโต้เถียงว่าไม่ว่าจะหารด้วย 500 หาร 100 หรือหารด้วย 0 รัฐบาลก็ต้องได้เสียงข้างมากอยู่ดี
เสียงข้างมากในรัฐสภา ไม่ใช่เผด็จการรัฐสภา แต่เป็นกลไกของประชาธิปไตย เป็น Majority rule (การปกครองโดยเสียงข้างมาก) Minority rights (สิทธิของเสียงข้างน้อย)
หากคนเถียงว่าหารด้วยสูตร 100 พรรคเล็กๆ ก็จะไม่ได้เกิด แต่ก็เข้าใจมุมมองของประชาชน เพราะเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พรรคเล็กเกิดขึ้นกว่า 10 พรรค แต่ก็เข้าไปยกมือไปให้มีการสืบทอดเผด็จการอยู่ดี
ในฐานะที่เป็น ส.ส.ประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคอยู่ฝั่งรัฐบาล ด้วยสถานะ ส.ส. ตนมีสิทธิที่จะเลือก สูตร 500 หรือ 100 ก็ได้ แต่อยากจะขออนุญาตพูด และยืนยันว่า ในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่อยากเห็นปรากฏการณ์ ที่คนรุ่นใหม่และพรรคใหม่ๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลงการเมืองไทย ว่า เราควรใช้สูตรหารด้วย 500 ไม่ใช่เพราะให้พรรคเล็กเกิด แต่เป็นเพราะว่าเราต้องเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น บนเส้นทางประชาธิปไตย
หลังจากข้อขัดแย้งทางการเมืองกว่า 20 ปี การทำรัฐประหารถึง 2 ครั้ง และการลงถนนของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เราปฏิเสธไม่ได้ว่า สังคมไทยกำลังตื่นตัวกับประชาธิปไตย วัฒนธรรมสังคมกำลังเปลี่ยนแปลงตามบริบทโลกและประชาชนมีความต้องการให้การเมืองไทยของเรา มีวิวัฒนาการให้ทันสังคม
เราต้องเข้าใจว่า พรรคเก่าแก่และพรรคการเมืองใหญ่ ได้ล็อกหลายพื้นที่ทั่วประเทศไว้เหมือนการมี Monopoly (ผูกขาด) โดยโครงสร้างอุปถัมภ์ที่ฝังรากลึก สูตรหารด้วย 100 คือ การตอบย้ำอำนาจของโครงสร้างอุปถัมภ์อันนี้ ซึ่งระบอบนี้ไม่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาประชาธิปไตย ในโครงสร้างการเมืองไทย
ในขณะที่สังคมจุดกระแสประชาธิปไตยได้ติดแล้ว มีกลุ่มคนภาคประชาชนมากมาย ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการเมืองรัฐสภา
แต่พวกเขา ไม่สามารถเข้ามาในการเมืองได้เพราะในบรรดาพรรคใหญ่นั้นคิวยาวเหยียด ต่อแถวด้วยบรรดาบิ๊ก ๆ และบรรดาบ้านใหญ่ ซึ่งก็หน้าเดิมๆ แทบทั้งหมด ขนาดพรรคที่เกิดใหม่ยังเอาหน้าเดิมมารีไซเคิล เป็นเพราะการเมืองไทย ยังอยู่ในกุมมือของคนไม่กี่คน
หากกฎกติกาเลือกตั้งเปิดกว้าง และให้โอกาส ทั้งคนรุ่นใหม่และหน้าใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในรัฐสภา เราก็จะได้เห็นปรากฏการณ์ใหม่ในการเมืองไทย รัฐธรรมนูญ ปี 2560 ในฉบับปัจจุบันมีทั้งข้อดีและไม่ดี มีทั้งคนชอบและไม่ชอบแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเลือกตั้งบัตร 1 ใบ ทำให้พรรคการเมืองที่ทั้งรุ่นใหม่ และหน้าใหม่เกิดขึ้นได้ และจุดประกายสิ่งใหม่ๆ ทางการเมือง
“จุดเริ่มต้นของการปฏิรูปการเมืองของประเทศไทยคือการสร้างโอกาส ให้รุ่นใหม่หน้าใหม่และเลือดใหม่ เข้ามามีส่วนร่วมในรัฐสภา ไม่ใช่ล็อกสเปกอำนาจรัฐสภาไว้ในมือคนรุ่นเก่าหน้าเดิม” นายพนิต กล่าว