xs
xsm
sm
md
lg

“อดีตบิ๊ก ศรภ.” เหน็บ ถ้าเรือดำน้ำพม่า โผล่วนรอบภูเก็ต? “ณัฐวุฒิ” โหนด่า “ลุง” ทูตนอกแถว ชี้ ป้องกัน ปท.ล้มเหลว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ การออกมาชี้แจงของ ทอ.
โหนกันหน้าสลอน! “อดีตบิ๊ก ศรภ.” ถามถ้าเรือดำน้ำพม่า โผล่วนรอบภูเก็ต จะด่าใคร? “เต้น-ณัฐวุฒิ” โหนด่า “ประยุทธ์” ตามเกม “ทูตนอกแถว” ซัด เก่งกับลาซาด้า เจอพม่าแล้วหงอย? ชี้ ถ้อยแถลง ทอ.ป้องกัน ปท.ล้มเหลว

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (1 ก.ค. 65) พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า

เรื่องเครื่องบิน MIG 29 บินล้ำแดนไทยทางด้าน อ.พบพระ จ.ตาก นั้น ทอ.แจ้งสรุปได้ว่า

“เห็นอยู่แล้วทางจอเรดาร์ แต่เครื่องบินดังกล่าว ไม่มีเจตนาคุกคาม หรือ ล้ำแดนไทย เมื่อใช้อาวุธแล้ว ม้วนตัวขึ้นจึงล้ำเข้ามา เพราะพื้นที่ช่วงนั้น เป็นจงอยอยู่ เครื่อง F16 ของ ทอ.ซึ่งเตรียมตัวอยู่แล้ว 2 ลำก็บินไปเตือน ถึงชายแดนภายใน 5 นาที MIG29 ก็กลับไปแล้ว”

ภาพ พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ จากแฟ้ม
สาระสำคัญอยู่ตรงไหน

1. ทอ.ไทยยั งเป็นเจ้าเวหาอยู่ในย่านนี้ มีเรดาร์ที่ดี แม้จะมีเครื่องบินรองสิงคโปร์ แต่ก็ยังไม่น่าวิตกอะไร เพราะนักบินไทยเก่งกว่า
2. ทางทะเล ทุกประเทศที่ติดกับไทย มีเรือดำน้ำกันหมดแล้ว ถ้าลาวติดทะเลก็คงจะมีแล้วเช่นกัน พม่ามีเรือดำน้ำ เต็มโครงการ 3 ลำ ถ้าเข้ามาในอ่าวไทยสักลำ หรือไปวนอยู่รอบๆ ภูเก็ต เราจะทำอย่างไร ทร.จะโดนด่าหรือเปล่า ถ้าจะโดนด่า ไปด่าใครดี ก็น่าคิดนะครับ.(จากไทยโพสต์)

ภาพ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า พล.อ.ประยุทธ์ คิดว่าตัวเองเป็นใครในประเทศนี้ ถึงอธิบายเหตุเครื่องบินรบเมียนมา รุกล้ำเข้าเขตแดนไทยเป็นเรื่องเล็ก ขอโทษแล้วก็จบกันไป นายกฯเป็นเจ้าของประเทศหรือ เรื่องละเอียดอ่อนต่อความมั่นคงแบบนี้ ถึงทำเหมือนเล่นขายของ

8 ปีแล้วเรียนรู้ที่จะเคารพประชาชนบ้าง ไม่ได้เรียกร้องให้รบกับเพื่อนบ้าน แต่ท่าทีอย่างเป็นทางการของทั้ง 2 ฝ่ายต้องมี เราท้วงไปว่าอย่างไร เขาตอบมาแบบไหนต้องให้ชัด นายกฯพูดง่ายๆ แค่ไม่มีอะไร จะยิ่งทำให้ชาวโลกมองว่ารัฐบาลไทย มีอะไรกับรัฐบาลเผด็จการเมียนมาหรือไม่

ยึดอำนาจเสร็จมาเยือนไทยเป็นที่แรก หลังจากนั้น 2 รัฐบาลไปมาหาสู่ แล้วมาเกิดเรื่องแบบนี้ นัยทางการเมืองระหว่างประเทศเหมือนไทยเลือกข้าง และเป็นข้างรัฐบาลเผด็จการซึ่งสวนทางกับนานาอารยประเทศ เลขา สมช.ซึ่งกำลังทำหน้าที่แก้วิกฤตเศรษฐกิจ ควรมีบทบาทต่อเรื่องนี้อย่างไร

ประชาชนเดินขบวน ตู้คอนเทนเนอร์มาล่วงหน้าเป็นวัน ทั้งแก๊ส น้ำ ปืนกระสุนยาง เต็มอัตราศึก ไล่ยิงไล่ตีแทบเป็นแทบตาย พอเครื่องบินเมียนมาล้ำแดน เครื่องบินเรามาเหมือนตำรวจในหนังไทย แถมนายกฯอธิบายแทนว่าแค่มายูเทิร์น ทำเหมือนปฏิบัติการนี้ พล.อ.ประยุทธ์ รู้เห็นเป็นใจ?

ภาพ รัศม์ ชาลีจันทร์ หรือ ทูตนอกแถว ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊กการเมืองไทย ในกะลา
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพจเฟซบุ๊ก ทูตนอกแถว The Alternative Ambassador Returns โพสต์ระบุว่า

“เก่งกับลาซาด้า เจอพม่าแล้วหงอย?

ผู้แทนพิเศษด้านพม่าที่กระทรวงต่างประเทศตั้งมานั้นทำอะไรบ้าง?
-
ได้อ่านรายงานข่าวเมื่อวานนี้เรื่องพม่าส่งเครื่องบินรบรุกล้ำดินแดนไทยเข้ามาถึงห้ากิโลเมตรนานร่วมสิบห้านาทีเพื่อบินวกเข้าไปโจมตีกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า ที่ได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนไทย ลูกเด็กเล็กแดงต้องหนีหลบภัยกันจ้าละหวั่น (ที่ก่อนหน้าก็มีรายงานข่าวการสู้รบจากฝั่งพม่าที่กระทบและสร้างความเสียหายทรัพย์สินและการทำมาหากินอย่างต่อเนื่อง) ก็มีหลายคำถามเกิดขึ้นที่ล้วนแต่บ่งชี้ถึงความล้มเหลวของทั้งด้านการป้องกันประเทศและโยบายของไทยที่มีต่อพม่าอย่างชัดแจ้ง
-
จากการชี้แจงของโฆษก ทอ. ที่ออกมายืนยันว่า “เครื่องบิน F16 ของไทยขึ้นบินถึงที่หมายภายใน 5-10 นาที ชี้เครื่องบินรบเมียนมาไม่เป็นภัยคุกคาม เพราะไม่ได้พุ่งปักหัวเข้ามาในเขตไทย แต่ได้ใช้อาวุธกับชนกลุ่มน้อย แล้วม้วนตัวออก-ทางกองทัพอากาศได้เฝ้าระวัง และติดตามอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง จากการวิเคราะห์และดูจากสถานการณ์ ไม่พบว่าจะมีการบินเข้ามาในลักษณะของภัยคุกคาม เพราะเจตนาไม่ได้พุ่งตรงปักหัวมาทางทางเรา เพราะหากว่าเขายังไม่ล้ำแดน เข้ามาเราก็ยังไม่สามารถปฏิบัติการใดๆ ได้ เพราะจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อกัน”

ยิ่งฟังดูเป็นการแก้ตัวที่คือการยอมรับโดยปริยายในความล้มเหลวของการป้องกันประเทศนะครับ
-
คือถ้าในจอเรดาร์ก็เห็นอยู่แล้วว่ามีเครื่องบินรบพม่าบินวนประชิดชายแดนอยู่นานขนาดนั้น ที่จะรุกล้ำเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้ ก็ยังปล่อยให้เขารุกล้ำเข้ามาได้อีก โดยไม่คิดทำอะไรก่อนหน้า แทนที่จะส่งเครื่องบินของเราขึ้นไปเป็นเชิงป้องปรามแต่แรก ถ้าเขายังบินวนได้ เราบินในเขตเราเองไม่ได้หรือ? ต้องรอให้เขาบุกเข้ามาก่อนหรือ?

แล้วจะมาบอกว่า ดูแล้วไม่คุกคาม แต่นี่มันเป็นเรื่องอธิปไตยและความปลอดภัยชีวิตทรัพย์สินคนไทยนะครับ มันไม่มีความสำคัญเลยหรืออย่างไร?
การแถลงแบบนี้ก็เท่ากับยอมรับเองถึงการปล่อยปละละเลย ความหละหลวมในการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศชาติ

และที่อ้างกลัวกระทบความสัมพันธ์อะไรนั่น คือตลกมาก ก็แล้วทางทหารพม่าเขากลัวหรือเกรงใจเราบ้างไหมล่ะครับ?

หรือว่าเก่งแต่กับลาซาด้าแต่เจอพม่าแล้วหงอย?
-
ในส่วนของด้านนโยบายต่างประเทศของไทยต่อพม่านั้น สิ่งนี้ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ถามว่าที่ตั้งผู้แทนพิเศษอะไรมานั่น ที่ไปคุยกับเขามา ฝ่ายพม่าเขาเกรงใจ ยินยอมลดความรุนแรง หยุดยิงหรือยุติการสู้รบอย่างที่เป็นมติของอาเซียนที่ร้องขอบ้างไหม? และต่อความรุนแรงที่มีผลกระทบต่อประเทศชาติและประชาชนไทยตามชายแดนทุกวันนี้มีท่าทีลดลงหรือเพิ่มขึ้นกันแน่ จนเขารุกล้ำอธิปไตยของเราอย่างจงใจและชัดแจ้งแบบนี้?

และช่วยตอบให้ชัดๆทีครับว่า นโยบายไทยต่อพม่าทุกวันนี้มัน serve ปกป้องส่งเสริมผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนไทยอย่างไร??
-
ก่อนหน้านี้ ก็เห็นคนของกระทรวงต่างประเทศออกมาบอกว่าการ engage มีปฏิสัมพันธ์กับรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งผมอยากจะเรียนว่ากับคนที่สั่งการให้เข่นฆ่าประชาชนตนเองอย่างโหดร้ายทารุณ เช่นเผาคนทั้งเป็น ฆ่าไม่เว้นแม้แต่เด็กและผู้หญิงก็ตาม คนส่วนใหญ่ในโลกเขามีแต่รุมประณามความชั่วช้าและไม่อยากเข้าไปเกลือกกลั้วด้วย

ถามว่าคนเช่นนี้เขาจะมาเคารพกฎเกณฑ์คำพูดความถูกต้องอะไรไหม?

นอกเสียจากจะเป็นคนที่มีความคิดและจิตใจคล้ายกัน จัดเป็นคนประเภทเดียวกัน ถึงจะได้คอยเข้าใจและเห็นใจเขานะครับ”

แน่นอน, การโหนกระแสเรื่องนี้ หนีไม่พ้น การแสดงออกของ “สองขั้วขัดแย้ง” ในประเทศไทย คือ ฝ่ายรัฐบาล กับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล โดยเฉพาะกลุ่ม “3 นิ้ว” ที่ “หนุนหลัง” การลุกฮือของประชาชนพม่าต่อต้านการทำรัฐประหารในพม่า และรัฐบาลทหารพม่า

ในขณะรัฐบาลไทย เลือกดำเนินนโยบายไม่สร้างความขัดแย้งกับรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งไม่แทรกแซงกิจการภายในประเทศเพื่อนบ้าน

ด้วยเหตุนี้ การประนีประนอมในเรื่องเครื่องบินพม่ารุกล้ำเข้ามาในประเทศไทย และเห็นว่า ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนแล้ว ไม่มีปัญหาตามมา ก็ถือว่า เชื่อฟังและปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศ

ประเด็นก็คือ รัฐบาลไทย โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ ถูกต่อต้านจากฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลอยู่แล้ว ดังนั้น เรื่องนี้จึงเท่ากับมาเข้าทางพอดี และพวกเขาก็ไม่พลาดที่จะโหนกระแสโจมตีดังกล่าว

ยิ่งกว่านั้น ยังเท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะถือโอกาสต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าไปในตัวด้วย จากสาเหตุที่ทำรัฐประหารในพม่า และยังปราบปรามประชาชนที่ลุกฮือประท้วง ซึ่งทราบกันดีว่า มีคนไทยบางกลุ่มเคลื่อนไหวหนุนหลังประชาชนพม่าด้วย
เหนืออื่นใด การเมืองระหว่างประเทศ ถือว่า ละเอียดอ่อน การไม่สร้างศัตรูกับประเทศเพื่อนบ้านก็นับว่าสำคัญ จึงไม่ควรใช้อารมณ์ เหนือเหตุผล หรือไม่จริง!?


กำลังโหลดความคิดเห็น