รมว.ยธ. เผย กม.ใหม่ปราบยาเสพติดสัมฤทธิ์ผล รอบขนยาทะลักไทยน้อยลง ชี้วัดจากคดีจับกุม ยึดทรัพย์
วันนี้ (30 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวภายหลังร่วมพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่น ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2565 ว่า ในเรื่องยาเสพติดที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดฟื้นฟูและในรายละเอียดต่างๆ จากกระบวนการของประเทศ เราที่มีการปรับเปลี่ยนกฎหมาย โดยยกเลิกกฎหมายยาเสพติดฉบับเก่าทั้งหมด 24 ฉบับ และมีประมวลกฎหมายยาเสพติดที่เขียนขึ้นมาใหม่โดยมีผลใช้บังคับในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา สถิติการจับกุมมากขึ้น ในเรื่องของทรัพย์สินสามารถยึดทรัพย์ได้มากขึ้น ซึ่งในอดีตยึดได้ไม่เกิน 600 ล้านบาทต่อปี แต่วันนี้ตัวเลขล่าสุดยึด อายัด ได้ถึงกว่า 9,200 ล้านบาท โดยเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10,000 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้อยากประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนทราบ เงินสินบนที่ประชาชนทั่วไปแจ้งเบาะแส จะได้รับส่วนแบ่ง 5% ถ้า 10,000 ล้านบาท ก็ได้ 500 ล้านบาท และในส่วนราชการที่บูรณาการจับกุมทุกหน่วยงานมีส่วนร่วมจะได้ 25% ก็เท่ากับ 2,500 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เป้าหมายในการดำเนินคดีต่างๆ ในอดีตใช้เวลาถึง 8 ปี จึงจะยึดทรัพย์สินได้ แต่ประมวลกฎหมายยาเสพติดจะใช้เวลาไม่ถึง 2 ปี และส่วนแบ่งสินบนต่างๆ ทั้งประชาชน ราชการ จะได้ภายใน 2 ปี ในรูปแบบของคดีความต่างๆ ผู้ค้ายาจะย้อนหลังไป 10 ปี หากการประเมินของคณะกรรมการคิดว่าบุคคลพวกนี้มีรายได้เท่าไหร่ก็ยึดทรัพย์สินตามจำนวนนั้น ถ้าทรัพย์สินในส่วนที่ค้ายาเสพติดหมดก็สามารถยึดทรัพย์สินอื่นทดแทน ทั้งนี้ เป็นการดำเนินการในส่วนของกระทรวงยุติธรรมที่มีคณะกรรมการเฉพาะกิจที่เรียกว่าพาลีปราบยา ซึ่งบูรณาการหน่วยงาน ทั้ง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และหน่วยงานอื่นอีก
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับสถิติคดีการจับกุมยาเสพติด ยาที่ออกมาจากสามเหลี่ยมทองคำลดลง ในส่วนของผู้ต้องหาจากเดิมที่เคยถึง 356,000 คน ขณะนี้ 8 เดือนกว่าเหลือ 188,000 คน ในส่วนของจำนวนคดีจากเดิมที่เคยมี 341,000 คดี ปัจจุบันเหลือแค่ 182,000 คดี ถือเป็นตัวเลขที่ลดลงมากจากจำนวนยาเสพติด และข้อหาสำคัญๆ ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ขอเรียนว่า นโยบายของรัฐบาลที่มีกฎหมายใหม่เรื่องประมวลกฎหมายยาเสพติดสัมฤทธิ์ผล
