วันนี้(30 มิ.ย.)น.ส. ศิชดา ภาจิตรภิรมย์ รองหัวหน้าพรรคแนวทางใหม่ กล่าวว่า เมื่อหลายวันก่อนตนได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นเคย ปลายสายอ้างตัวว่าเป็นบริษัทขนส่งแห่งหนึ่งและมีการอธิบายเพื่อหลอกล่อให้โอนเงินโดยกล่าวอ้างว่ามีสินค้าที่สั่งถูกอายัดไว้ ต้องมีการชำระภาษีนำเข้าเพื่อเอาสินค้าออกมา ซึ่งทันทีที่รับสายตนก็ทราบแล้วว่าเป็นมิจฉาชีพที่หากินบนความเดือดร้อนของประชาชน แต่สิ่งที่ตนแปลกใจคือ มิจฉาชีพกลุ่มนี้มีข้อมูลส่วนตัวของเป้าหมายที่ติดต่อไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเลขบัตรประชาชน13หลัก ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน สิ่งเหล่านี้ไม่ต่างจากภัยไซเบอร์ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย
"เหตุใดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมไม่มีมาตรการป้องกันข้อมูลส่วนตัวของประชาชนจากมิจฉาชีพเหล่านี้เลย ทั้งที่มีการบังคับใช้กฎหมายกฎหมาย "PDPA" หรือ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 แล้ว แต่เหตุใดยังปล่อยให้กลุ่มฉวยโอกาสบนความทุกข์ร้อนของผู้อื่นระบาดไปทั่วเช่นนี้"
น.ส. ศิชดา กล่าวต่อว่า เหตุการณ์แบบนี้หากเกิดขึ้นกับคนที่ติดตามข่าวสารอยู่แล้วคงไม่เสียหายมากนักเพราะจะรู้ทันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลักษณะนี้ แต่หากมิจฉาชีพกลุ่มนี้โทรหาประชาชนที่ไม่ได้ติดตามข่าวการระบาดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาจตกเป็นเหยื่อสูญเสียเงินทองได้ สิ่งที่รัฐและกระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องจัดการคือการป้องกันข้อมูลส่วนตัวของประชาชนไม่ให้หลุดไปสู่การกระทำการที่ส่งผลต่อความมั่นคงของชีวิตพี่น้องประชาชนเช่นนี้ อย่าผลักภาระให้ประชาชนต้องระวังตัวกันเองทุกเรื่องแบบนี้ อีกทั้งในสถานการณ์ที่ประชาชนหากินยากลำบาก รัฐควรทำหน้าที่ปกป้องประชาชนและใช้กฎหมายPDPAให้เกิดประโยชน์จริงๆเสียที