“ศุภชัย” วอนผู้ค้ากัญชาอย่าวางขายโจ่งครึ่ม
แนะวางขายในที่ไม่โจ่งแจ้ง หลังพบวางขายเกลื่อนย่านถนนข้าวสาร
ตร.รับปากช่วยสอดส่อง รับคาดการณ์ล่วงหน้าเกิดสุญญากาศไว้แล้ว ระหว่างรอ กม.ประกาศใช้
คาดเข้าสภาสิ้น ก.ค.นี้ ก่อนบังคับใช้ ส.ค.
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่รัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชากัญชง กล่าวถึงกรณีที่มีขายกัญชาอย่างเสรีอย่างโจ่งแจ้งในย่าน ถ.ข้าวสารโดยไม่มีการควบคุมจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ว่า ในร่างกฎหมายที่กำลังพิจารณาอยู่ในชั้น กมธ. เรายึดหลักสำคัญ คือ ให้นำกัญชามาใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และในทางเศรษฐกิจเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ครอบคลุมหรือกำหนด หรือให้มีเรื่องนันทนาการ การนำไปม้วนเพื่อมาสูบ หรือจำหน่ายในที่สาธารณะ ต้องเข้าใจว่า กฎหมายอยู่ระหว่างการพิจารณา ฐานะที่ตนเป้นประธาน กมธ.ชุดนี้ จะดำเนินการร่างให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ค.นี้ ช่วงต้นเดือน ส.ค.จะเสนอร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่สภาต่อไป ยืนยันว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับฟังความเห็นทุกภาคส่วน เพื่อให้กฎหมายมีประโยชน์มากสุด นำปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้มาใส่ในร่างกฎหมายเพื่อกำหนดแนวทางป้องกันและให้สังคมมีความปลอดภัยมากที่สุด
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า เราคาดการณ์ไว้แล้วว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิด โดยบรรยากาศที่เกิดขึ้นมี 2 ลักษณะ คือ 1. การเปิดเป็นร้านค้าอาคารที่มีคนเข้าแถวไปซื้อกันตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงช่วงดึก และ 2. การเปิดขายในลักษณ์พ่อค้าเร่ตั้งโต๊ะขาย แต่เมื่อกฎหมายออกมาสิ่งเหล่านี้ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นต่อไปได้ เพราะการนำสินค้าเกี่ยวกับกัญชาต้องมีการขออนุญาตทั้งสิ้น ยอมรับว่า ช่วงนี้เป็นสุญญากาศที่เราควบคุมได้ พร้อมกันนี้ ตนประสานตำรวจสน.ชนะสงคราม สอดส่องในพื้นที่ ถ.ข้าวสาร ว่า มีการจำหน่ายในลักษณะที่ว่าหรือไม่ และขอให้ดูแลต้องไม่จำหน่ายให้บุคคลที่อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร เพราะมีโทษจำคุกทางคดีอาญา อย่าทำเป็นเล่น ซึ่งเจ้าหน้าที่รับปากจะดูแลสอดส่อง และยืนยันว่าไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น
นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ตนต้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง หากปรากฏว่า มีพฤติการณ์ให้กับกลุ่มบุคคลดังกล่าวต้องมีการดำเนินคดีแน่นอน อีกทั้งฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศดูแลเรื่องนี้ด้วย ตนคิดว่าบรรยากาศเหล่านี้จะคลี่คลายไป เหมือนที่ประเทศแคนาดา และรัฐต่างๆ ในประเทศสหรัฐฯ ระหว่างนี้ขอฝากสังคมและครอบครัวช่วยกันดูแลให้ผ่านช่วงเวลานี้ไป ตนไม่อยากให้กัญชาที่มีประโยชน์ต้องมาสะดุด จึงขอท่านที่ทำการค้าการขายเรื่องนี้อยู่ขอให้ลดความโจ่งครึ่มลงไปให้ไปอยู่ในที่เหมาะสมไม่ต้องโจ่งแจ้งเกินไป
เมื่อถามว่า กรณีที่มีการกังวลการกัญชาไปผสมกับอาหาร นายศุภชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมา กรมอนามันมีประกาศแล้วถึงเรื่องการนำส่วนประกอบกัญชานำไปประกอบอาหารว่าห้ามอะไรบ้าง และแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบรับทราบแล้ว อะไรก็ตามที่นำไปปรุงอาหารขอให้ประกาศด้วยว่าอาหารประเภทไหนใส่กัญชา เพราะผู้ไม่เคยใช้อาจมีผลต่อร่างกาย