ร่าง พ.ร.บ.กบข. สะดุด หลังเสียงข้างมากกลับมติขวาง ขรก.นำเงิน 30 เปอร์เซ็นต์ ไปใช้ประโยชน์ เจอ “ฝ่ายค้าน” ขู่นับองค์ประชุม จนต้องยอมถอยถอนร่างกลับไปทบทวนใหม่ ด้าน ก้าวไกล ชี้ สร้างความผิดหวังให้ ขรก. จี้ถาม รบ.ยึดประโยชน์ใคร
วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ในวาระ 2-3 ตามที่ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญ พิจารณาแล้วเสร็จ โดยที่ประชุมลงมติเสียงข้างมาก ไม่เห็นด้วยกับมาตรา 4/1 ที่ กมธ.แก้ไขเพิ่มเติมให้สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) สามารถนำเงินสะสมในกองทุน 30% มาใช้ในวัตถุประสงค์การจัดหาที่อยู่อาศัยได้ ทำให้ต้องกลับไปใช้เนื้อหาร่างเดิมที่ไม่ให้สมาชิก กบข.นำเงินสะสมไปใช้เพื่อที่อยู่อาศัยได้ สร้างความไม่พอใจให้ ส.ส.ฝ่ายค้าน รุมท้วงติงอย่างหนักที่ใช้เสียงข้างมากตัดประโยชน์ที่ข้าราชการควรได้ทิ้งไป ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาในข้อสังเกตของ กมธ.วิสามัญฯ ที่ระบุให้แก้ไขมาตรา 4/1 เรื่อง การนำเงินสะสม 30% ไปใช้เพื่อที่อยู่อาศัยได้ จะขัดมติที่ประชุมสภาที่ไม่เห็นชอบในเรื่องดังกล่าวหรือไม่
โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภา ขอให้ประธาน กมธ.ถอนร่าง พ.ร.บ.ไปทบทวนใหม่ และส่งกลับมาพิจารณาอีกครั้ง มิเช่นนั้น ฝ่ายค้านจะไม่อยู่ร่วมเป็นองค์ประชุม แม้ นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธาน กมธ. ยืนยันให้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวในมาตราที่เหลือต่อไป โดยขอให้ลงมติคว่ำเฉพาะข้อสังเกต แต่จะไม่ขอนำกลับไปทบทวนใหม่ แต่ฝ่ายค้านไม่ยอม บรรยากาศตึงเครียดมากขึ้น เมื่อ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ขู่เสนอนับองค์ประชุม
ขณะที่ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะวิปรัฐบาล เสนอให้ประธาน กมธ.ถอนเรื่องกลับไปทบทวนใหม่ ในที่สุด นายวีระกร ยอมถอนร่าง พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญ กลับไปทบทวนใหม่ ก่อนที่จะมีการสั่งปิดประชุม
ด้าน พรรคก้าวไกล นำโดย นายวรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.พรรคก้าวไกล และคณะ แถลงข่าวว่า พรรคก้าวไกลรู้สึกผิดหวังกับมติของสภาในการลงมติดังกล่าว เพราะได้มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นระยะเวลาหลายเดือน และกรรมาธิการเสียงข้างมาก มีมติเห็นควรให้มีการเพิ่มมาตรา 43/1 สาระสำคัญคือ การให้สมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หรือข้าราชการสามารถนำเงินสะสมหรือเงินสมทบ กบข. มาดาวน์บ้านได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ซึ่งนับเป็นความหวังของข้าราชการจำนวนมาก ที่จะมีบ้านเป็นของตนเองจากเงินสะสมใน กบข. และ กมธ.เสียงข้างมากทุกคนก็เห็นพ้องต้องกันว่านี่คือประโยชน์ของสมาชิก กบข. และเป็นประโยชน์ของราชการที่ควรเกิดขึ้นจากร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ แต่จากการลงมติมาตราดังกล่าวในวันนี้ ที่มีที่มาจากมติของวิปรัฐบาลที่ให้โหวตสวนทางกับมติของ กมธ.เสียงข้างมาก คือ การกลับไปคงตามร่างเดิม
“ถือเป็นการตัดสิทธิของสมาชิก กบข. ที่จะได้มีโอกาสนำเงิน กบข. ของตนเองออกมาดาวน์บ้าน เปิดโอกาสให้สามารถเป็นเจ้าของบ้านจากเงินสะสมของตนเอง ผลการลงมติดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่สร้างความผิดหวังแก่ข้าราชการและข้าราชการชั้นผู้น้อย เพราะกว่าจะสามารถสะสมเงินเก็บออกมาดาวน์บ้านและมีบ้านเป็นของตนเองได้นั้น มีความเป็นไปได้ค่อนข้างยาก ซึ่งหากให้นำเงินสะสมใน กบข. ออกมากระทำการดังกล่าวได้ จะถือว่าเป็นที่น่ายินดี อย่างไรก็ตาม กฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่มีความสำคัญมาก และเป็นสิทธิประโยชน์ของข้าราชการ จึงขอตั้งคำถามกลับไปยังรัฐบาลชุดนี้ ว่า คำนึงถึงประโยชน์ของใครเป็นสำคัญ” ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าว