วันนี้ (11 มิ.ย.) นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่อง “ลงพื้นที่บึงหนองบอน ดูแนวทางการเปิดเชื่อมกับสวนหลวง ร.9” ว่า วันนี้ผมลงพื้นที่บึงหนองบอน เพื่อหารือแนวทางการเชื่อม 2 สวน ระหว่าง บึงหนองบอน และ สวนหลวง ร.9 ที่มีรั้วติดกัน จากที่ได้รับการร้องเรียนจาก ปชช.ผู้ใช้สวน เบื้องต้นทางผมได้ประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือเพิ่มเติม โดยจะเป็นทางเชื่อมสำหรับ คนเดิน คนวิ่ง และ คนปั่นจักรยาน เท่านั้น
ซึ่งผมได้ร่วมพูดคุยกับพี่ตั้มและพี่ชาย ตัวแทนประชาชนที่มาใช้บริการ ท่านหัวหน้าเผชิญ (หัวหน้าสวน) และหัวหน้าชัยรัตน์ (หัวหน้าสันทนาการ)
โดยบึงหนองบอน ถือว่าเป็นสวนสาธารณะเดียวของกรุงเทพฯ ที่มีบริการกีฬาทางน้ำสำหรับประชาชน กลางสวน มีระยะทางปั่นจักรยานและทางวิ่งอยู่ที่ 3.8 กิโลเมตร (เนื่องจากบางส่วนปิดเพื่อก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำ) โดยกำแพงติดกัน คือ สวนสาธารณะที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดในกทม. คือ สวนหลวง ร.9 (500 ไร่)
นอกจากประเด็นการเปิดประตูเชื่อมกันของ 2 สวนผมมองว่ามีอีก 2 ประเด็น ที่เป็น quick win ที่จะต้องขับเคลื่อนอีก
1. การพิจารณาแบ่งเลนระหว่างจักยานกับคนวิ่งเดิน พบว่ามีพื้นที่บริเวณสวนเก่า (ฝั่งด้านในของสวนที่ติดกับคลองมะขามเทศ) ที่มีต้นไม้แบ่งเลนส์ออกเป็น 2 ส่วนแล้ว เหลือแค่ทำให้ชัดเจนมากขึ้น เช่นการแยกสี
2. การระบุแนวทางการใช้สวนร่วมกันของทุกคน ผมได้รับข้อมูลว่ามีผู้ใช้สวนที่เป็นชาวต่างชาติสูง แต่ยังมีปัญหาเรื่องของป้ายที่ยังขาดข้อมูลภาษาอังกฤษ การเพิ่มข้อมูลนี้ในป้ายจะทำให้การสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่สวนกับผู้ใช้ต่างชาติสะดวกมากขึ้น
การพัฒนาพื้นที่พักผ่อน พื้นที่สีเขียว ให้กับประชาชนได้เข้ามาใช้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งภารกิจหลักของทีมผู้บริหาร กทม. เพื่อสร้างความสุข พื้นที่พักผ่อนฟอกอากาศ ให้คนกรุงครับ
