โฆษกรัฐบาล ไม่สนฝ่ายค้าน เปิดยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” ชี้ โหมโรงอยู่นาน แต่หาหลักฐานไม่ได้ จึงเปลี่ยนแผนใช้อภิปรายแบบหว่านแหแทน เชื่อใบเสร็จทางการเมืองล้มรัฐบาล แค่ราคาคุย แจงถ้ามีจริงฟ้องหน่วยงานเกี่ยวข้องไปนานแล้ว ไม่ดองไว้แน่
วันนี้ (9 มิ.ย.) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน มีมติว่าจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในวันที่ 15 มิ.ย. ภายใต้ยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” โดยรัฐมนตรีที่จะถูกยื่นอภิปรายรวมทั้งสิ้น 10 คน ว่า เมื่อโหมโรงอยู่พักใหญ่ แต่ก็ยังหาข้อมูลข้อเท็จจริงไม่ได้ตามที่อ้างไว้ เพราะรัฐบาลไม่ได้ทำอะไรผิด จึงหันมาใช้การอภิปรายแบบหว่านแหแทน เพื่อหวังฟลุ๊คว่า การอภิปรายจะเข้าตาประชาชนเข้าสักคน สุดท้ายก็เข้าอีหรอบเดิม คือ ขอเวลาอภิปราย 4-5 วัน เน้นจำนวนวันให้มากเข้าไว้ ถ้าอภิปรายครบทุกคนได้ ฝ่ายค้านก็คงทำไปแล้ว ซึ่งเท่านี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าฝ่ายค้านยุคนี้ ประชาชนหวังพึ่งไม่ได้ เสียเวลาแก้ปัญหาให้กับประชาชนของสภาไปเปล่าๆ โดยที่ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย นอกจากประชาชนต้องมานั่งทนฟังวาทกรรมเสียดสีและการบิดเบือนข้อเท็จจริงอยู่เป็นอาทิตย์ ขณะที่รัฐบาลเองก็ต้องมาคอยชี้แจงข้อบิดเบือนต่างๆ เพื่อไม่ให้ประชาชนสับสน แทนที่จะได้เอาเวลาไปเร่งแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับประชาชน ซึ่งไม่แน่ใจว่าการอภิปรายครั้งนี้ฝ่ายค้านทำเพื่อรักษาประโยชน์ของประชาชน หรือเพื่อรักษาหน้าของตัวเองกันแน่
“การอ้างว่าจะเป็นการอภิปรายเพื่อเด็ดหัวนายกฯ และ ครม.เป็นรายบุคคลนั้น ไม่แน่ใจว่า ฝ่ายค้านไปเอาความมั่นใจมาจากไหน และที่อ้างว่ามีใบเสร็จทางการเมืองที่จะชี้ให้เห็นนั้น ก็เห็นอ้างแบบนี้มาทุกครั้ง แล้วสุดท้ายก็เป็นฝ่ายค้านเองที่ถูกท่านนายกฯ และรัฐมนตรีที่ถูกซักฟอกฉีกหน้ากลางสภา ว่า มั่วข้อมูล ทำการบ้านแบบลวกๆ เหมือนกลัวว่าจะไม่ได้อภิปราย อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเชื่อว่า ถ้าฝ่ายค้านมีใบเสร็จทางการเมืองที่ชัดเจนจริง คงเอาไปฟ้องหน่วยงานต่างๆ นานแล้ว คงไม่รอถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน ทั้งนี้ มั่นใจว่า ท่านนายกฯ และรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายนั้น จะสามารถชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจจนประชาชนหายสันสนได้อย่างแน่นอน” นายธนกร กล่าว