เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 9 มิ.ย.ที่รัฐสภา กลุ่มสามัคคีสร้างชาติ ประกอบด้วย พรรคการเมืองจำนวน 20 พรรค ได้ยื่นคำร้องเรื่องการคำนวณจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 หรือ 500 ผ่าน นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ โดยในหนังสือคำร้องความเห็นของพรรคเล็ก ระบุว่า ในการจัดทำร่างแก้ไขกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.และกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง เกี่ยวกับระบบการเลือกตั้ง โดยกลุ่มพรรคเล็กเสนอให้ใช้การนับคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบหาร 500 เพราะคำว่า ส.ส.พึ่งมีต้องหมายถึง ส.ส.ทั้งสองระบบ คือ ทั้งระบบเขต และระบบบัญชีรายชื่อ จึงจะเป็นธรรม เพราะการหารด้วย 100 ไม่สามารถอธิบายให้ชอบด้วยกฏหมายรัฐธรรมนูญว่าด้วยนิยาม ส.ส.พึงมีได้ หรือเจตนารัฐธรรมนูญแปลผิดกฎหมาย รวมถึงมาตรา 91 ระบุถึงการเอาคะแนนมาคิดหา ส.ส.บัญชีรายชื่อโดยตรง แต่ไม่ได้กำหนดว่าหารด้วย 100 อาจเพราะเกรงว่าระบุเช่นนั้นจะผิดกหมายได้ และการหารด้วย 500 ก็แปลได้ว่าเอาคะแนนมาหาจำนวน ส.ส.โดยตรงเช่นกัน สอดคล้องกับคำว่า ส.ส.เพิ่งมีในกฎหมายแปลว่าชอบด้วยกฎหมาย
ขณะเดียวกัน การคิด ส.ส.พึงมีที่เอาคะแนนจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อไปเทียบหาค่า เพื่อหายอด ส.ส.เขตทำได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย เพราะเป็นคะแนนโดยตรงจากทุกพรรค แต่ละพรรคก็สามารถได้คะแนน โดยไม่ได้มีเหตุปิดกั้นใดๆ ทั้งนี้ ที่สำคัญ ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยว่ารัฐธรรมนูญปี 60 มีเจตนารมณ์ไม่ต้องการให้คะแนนเสียงตกน้ำ ดังนั้น พรรคเล็กทั้งหมดจึงเห็นด้วยว่าควรหาร 500.
ด้าน นพ.ระวี กล่าวขอบคุณกลุ่มพรรคเล็กที่อยู่นอกสภา สำหรับข้อคิดเห็น ตนมองว่า การปัดเศษเป็นการทำลายพรรคเล็ก และเป็นการทำลายรัฐธรรมนูญ พรรคปัดเศษจะมี ส.ส. ได้ ต้องได้คะแนน 40,000-50,000 คะแนน แล้วจะมองข้ามเสียงตกน้ำหลบหนีไปได้อย่างไร ส่วนการเลือกตั้งด้วยการใช้บัตรเลือกตั้งสองใบ ตั้งแต่รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา การคิดจำนวน ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ก็เป็นการปัดเศษเช่นกัน ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ออกแบบให้มีการเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนจากทุกชนชั้นได้มีโอกาสเข้ามาเป็น ส.ส. การหาร 100 เป็นจงใจทำลายพรรคเล็ก เพื่อให้พรรคใหญ่เกิดการผูกขาดในสภา