นายกฯ มอบนโยบายเกษตรกร ย้ำ ชาวนากับรัฐบาล คือ ครอบครัวเดียวกัน ต้องเป็นพลังให้กันและกัน ชาวนาพร้อมจับมือนาแปลงใหญ่ หวังส่งออกไม่ผ่านคนกลาง มีรายได้เพิ่มยั่งยืน
วันนี้ (8 มิ.ย.) เวลา 13.30 น. ณ ห้องม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มอบนโยบายให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2565 โดยมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2565 เข้ารับมอบนโยบาย เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสม
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดผยว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัลพร้อมชื่มชมเกษตรกรดีเด่น ขอให้นำความรู้ประสบการณ์ไปต่อยอดพัฒนาสร้างมูลค่า สร้างรายได้มากยิ่งขึ้น เป็นกระดูกสันหลังของชาติที่มีเกียรติ ช่วยขับเคลื่อนภาคการเกษตรให้มีความมั่นคง ยืนยันรัฐบาลเข้าใจปัญหา เข้าใจถึงความเดือดร้อนของเกษตรกร ที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉย พยายามแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องบางเรื่องต้องใช้เวลาในการดำเนินการ อะไรที่สามารถแก้ไขได้รัฐบาลพร้อมจะแก้ไขทันที เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดี สำหรับการจัดทำ Zoaning และแผนที่การเกษตร (Agri map) ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทำข้อมูลพื้นที่เพาะปลูกข้าวอยู่ขณะนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการบริหารพื้นที่เพาะปลูกข้าวให้เหมาสมกับสภาพดินและแหล่งน้ำ และปริมาณความต้องการสำหรับบริโภค และการใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ และสินค้าแปรรูปที่มีมูลค่าอื่นๆ
ส่วนเรื่องพันธุ์ข้าว นายกรัฐมนตรีขอให้กำหนดและพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด รวมทั้งการรับรองพันธุ์ข้าว โดยพิจารณากำหนดพื้นที่สำหรับทดลองเพาะปลูกพันธุ์ข้าวใหม่สำหรับบริโภค และใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์ รวมทั้งส่งเสริมให้เกษตรผู้ปลูกข้าวสามารถพัฒนาสายพันธุ์ข้าวใหม่ ส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมีความรู้ในเรื่องการแปรรูป การวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์และใช้ประโยชน์จากข้าวให้มากที่สุด เพื่อนำไปเป็นข้อมูลในการทำตลาดที่ตรงกับความต้องการ ขอให้ส่งเสริมระบบเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตต่อหน่วย ส่งเสริมการสร้าง Smart Farmer และเกษตรกรรุ่นใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีมาต่อยอดองค์ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นต่อไป
และในงาน นายกฯได้รับฟังข้อคิดเห็นจากเกษตรกรผู้ได้รับรางวัลในปีนี้ ซึ่งสะท้อนออกมาว่า นโยบายการรวมกลุ่มเกษตรกรนั้นเป็นสิ่งที่ดีมาก และมีหลายกลุ่มสามารถจดทะเบียนเป็นกลุ่มนาแปลงใหญ่ เพิ่มศักยภาพในการผลิตและจำหน่าย ขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนการเพาะปลูกได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ยังมีอุปสรรคในเรื่องการส่งออกอยู่บ้าง ซึ่งทางกระทรวงเกษตรฯรับไปดูแลแล้ว โดยในอนาคตจะเห็นเกษตรกรที่รวมกลุ่มฯ สามารถส่งออกข้าวไปยังผู้ซื้อต่างประเทศได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลาง มีรายได้เพิ่มอย่างยั่งยืน
“นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ชาวนากับรัฐบาล คือ ครอบครัวเดียวกัน ต้องเป็นพลังให้กันและกัน” นางสาวรัชดา กล่าว