ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตรวจติดตามโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน พร้อมเร่งรัดควบคุมการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงาน และกำชับให้หน่วยงานรับผิดชอบควบคุมดูแลลดผลกระทบต่อการจราจรและคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี
วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน 2565 เวลา 14.00 น. ที่สถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง ฉลองรัชธรรม สถานีแยกนนทบุรี 1 และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ช่วงแคราย – มีนบุรี) ณ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี และสถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการให้ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน การก่อสร้างและบำรุงรักษาถนนในเขต กทม. ปริมณฑลและทุกจังหวัด ต้องดำเนินการให้มีผลกระทบต่อการจราจรน้อยที่สุดและให้มีความปลอดภัยกับประชาชนตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบ รฟม. และประธานคณะอนุกรรมการการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ พร้อมด้วยนายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการตรวจสอบ รฟม. นายวิชญายุทธ บุญชิต รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และนายสุรพงษ์ รัตนภูวลักษณ์ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบ รฟม. ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานในการให้บริการประชาชนของรถไฟฟ้า สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ณ สถานีแยกนนทบุรี 1 และ ติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย – มีนบุรี ณ สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี และ สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ
เจ้าหน้าที่ รฟม. ได้รายงานการให้บริการประชาชนของรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาว่า มีจำนวนผู้โดยสารลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 แต่ปัจจุบันตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 เป็นต้นมา จำนวนผู้โดยสารเริ่มเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่รัฐบาลได้ควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ได้และเปิดให้ดำเนินกิจกรรมต่างๆได้เพิ่มขึ้น
จากนั้น คณะตรวจติดตามฯ ได้เดินทางไปยังสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เพื่อติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างสถานีและจุดเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงและโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ และติดตามความก้าวหน้าการก่อสร้างสถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ มีความก้าวหน้างานโยธา 90.06% ความก้าวหน้างานระบบรถไฟฟ้า 87.02% และความก้าวหน้าภาพรวม 88.51% (ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2565) ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดเดินรถไฟฟ้าได้ภายในปี 2566
พร้อมกันนี้ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ตรวจสอบการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูฯ โดยเร่งรัดการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงาน และกำชับให้ควบคุมการก่อสร้าง โดยลดผลกระทบต่อการจราจร และคำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก รวมทั้งมีข้อแนะนำเพิ่มเติมว่าในแต่ละช่วงเวลาของการก่อสร้าง ต้องเพิ่มมาตรการลดฝุ่น PM2.5 ดูแลการระบายน้ำช่วงฤดูฝน อำนวยความสะดวกด้านการจราจรและดูแลความปลอดภัยประชาชนที่สัญจรไปมาให้ดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ รฟม. ได้รายงานว่าได้กำกับให้ผู้รับสัมปทานและผู้ก่อสร้างฯ ดำเนินการตามมาตรการที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด โดยจัดรถดูดฝุ่นล้างพื้นถนนบริเวณแนวก่อสร้างอยู่เสมอ ปิดคลุมกระบะรถบรรทุกให้มิดชิด ตรวจสอบสภาพเครื่องจักรและรถบรรทุกที่ใช้ในงานก่อสร้างไม่ให้มีควันดำ/ควันขาว ห้ามไม่ให้ติดเครื่องยนต์ทิ้งไว้หากไม่มีการปฏิบัติงาน และปิดคลุมกองวัสดุก่อสร้างให้มิดชิด ดูแลระบบระบายน้ำในบริเวณที่ก่อสร้าง ตลอดจนพิจารณาคืนผิวจราจรให้เร็วที่สุด
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับทุกหน่วยงานที่ดูแลการก่อสร้างและบำรุงรักษาถนนทั้งใน กทม. และทั่วประเทศ ต้องดำเนินการให้มีผลกระทบต่อการจราจรน้อยที่สุดและคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก จึงได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีติดตามเรื่องนี้ในทุกจังหวัดและรายงานให้ทราบทุก 15 วันด้วย