xs
xsm
sm
md
lg

ศาลปกครองสูงสุด ยืนสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ “ไทยคม” มีสิทธิเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม 7, 8 ต่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศาลปกครองสูงสุด ยืนสั่งคุ้มครองชั่วคราวให้ “ไทยคม” มีสิทธิเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม 7, 8 ต่อ หลัง กสทช. อุทธรณ์แย้งคำสั่งคุ้มครอง กระทบแผนจัดส่งดาวเทียมดวงใหม่-ประสิทธิภาพการให้บริการ

วันนี้ (1 มิ.ย.) ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลางที่จะให้คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวที่ให้ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) มีสิทธิเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม 7, 8 ต่อไป จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น โดยยกคำอุทธรณ์ ของกสทช.ที่ขอให้ศาลปกครองสูงสุดระงับคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองกลาง

ทั้งนี้ ศาลปครองสูงสุดให้เหตุผลว่า ว่า คำสั่งของศาลปกครองกลางที่สั่งทุเลาการบังคับตามมติของ กสทช.ในการประชุมครั้งที่ 10/2564 เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 64 ในส่วนที่ให้ บริษัท ไทยคม ใช้ข่ายงานดาวเทียมที่มีการใช้งานโดยดาวเทียมไทยคม 7 เเละ 8 ได้ถึงวันที่ 10 ก.ย. 64 อันเป็นวันสิ้นสุดสัญญาสัมปทานไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น มีผลทำให้บริษัท ไทยคม ยังคงมีสิทธิเข้าใช้ ข่ายงานดาวเทียม THAICOM-A3, THAICOM-A3B, THAICOM-N3 และ THAICOM-Q2 ที่มี การใช้งานโดยดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 ทำให้การให้บริการดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 ที่บริษัท ไทยคม ทำสัญญากับหน่วยงานต่างๆ อันเป็นกิจการโทรคมนาคม ดำเนินได้ต่อไปเท่านั้น มิได้มีผลเป็นการลบล้างอำนาจหน้าที่ของกสทช.ในการกำกับดูแล หรือบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมที่ประเทศไทย หรือหน่วยงานของรัฐได้รับหรือมีอยู่ ในการส่งดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรตามข้อบังคับวิทยุของสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ แต่อย่างใด จึงถือว่า การทุเลาการบังคับตามมติของผู้ถูกฟ้องคดีที่พิพาท มิได้เป็นอุปสรรคแก่การ บริหารงานของรัฐหรือแก่บริการสาธารณะ

ส่วนกรณีที่ กสทช.อุทธรณ์ว่า ตามนโยบายและแผนระดับชาติ ว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (พ.ศ. 2561-2580) กสทช.มีหน้าที่ดำเนินการให้ได้มาและรักษาไว้ซึ่งสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมและการ สละสิทธิดังกล่าว และมีหน้าที่จัดทำแผนการบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม พิจารณา อนุญาตให้ผู้ที่ประสงค์ประกอบกิจการดาวเทียมได้เข้าใช้วงโคจรดาวเทียม จัดให้มีการดำเนินกิจการดาวเทียมในประเทศให้เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป เพื่อส่งเสริมศักยภาพการพัฒนาดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการดำเนินกิจการดาวเทียม ต้องดำเนินการทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ และการดำเนินการต้องใช้ระยะเวลาในการเตรียมการ เพื่อให้กิจการดาวเทียมของประเทศมีความต่อเนื่องตามลำดับสิทธิ์ในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม จึงต้องมีระยะเวลาสิ้นสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมที่แน่นอนชัดเจน หากมีการ ชะลอการนําสิทธิใช้วงโคจรดาวเทียมในบางพิกัด ย่อมกระทบต่อการบริหารจัดการกิจการ ดาวเทียมของประเทศ เพราะต้องจัดหาพิกัดตำแหน่งที่ตั้งของวงโคจรดาวเทียมอื่นๆ มาใช้ ทดแทน ซึ่งตำแหน่งที่ตั้งของวงโคจรดาวเทียมของแต่ละดวงมีประสิทธิภาพการใช้งานที่แตกต่าง ไม่เท่าเทียมกัน ทำให้อาจมีผลต่อประสิทธิภาพการให้บริการดาวเทียม และหากไม่มีการกำหนด ระยะเวลาที่แน่นอนชัดเจนย่อมเป็นปัญหาต่อการบริหารจัดการกิจการดาวเทียมที่ส่งผลกระทบ ต่อการให้บริการสาธารณะด้านกิจการโทรคมนาคมของประเทศ และส่งผลกระทบต่อนโยบาย และแผนระดับชาติ ว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

และการมีค่าสั่ง ทุเลาการบังคับตามมติของ กสทช.ก่อให้เกิดอุปสรรคแก่การดำเนินกิจการดาวเทียมในการจัดส่งดาวเทียมดวงใหม่ที่มีประสิทธิภาพเพื่อการให้บริการดาวเทียมรวมทั้งกิจการโทรคมนาคมที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิมและรองรับการใช้งานได้มากขึ้นทำให้การให้บริการสาธารณะที่ดีขึ้น ต้องล่าช้าออกไปโดยไม่มีกำหนด นั้น เห็นว่า ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในรายงานการประชุม ของ กสทช. ระบุว่า หากในภายหลังได้มีคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการหรือคำสั่งศาลในประเด็นทางกฎหมาย ที่เกี่ยวกับการดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศที่อยู่ในคดีพิพาทภายใต้สัญญาสัมปทาน ซึ่งทำให้ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญของการพิจารณาอนุญาตสิทธิเปลี่ยนแปลงไป สำนักงาน กสทช. จะนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เพื่อพิจารณาทบทวนประเด็นการอนุญาตสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมและการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการอนุญาตดังกล่าว ตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการ อนุญาตให้ใช้สิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น กสทช.ย่อมคาดหมาย ได้ว่า สิทธิของบริษัท ไทยคม ในการใช้จ่ายงานดาวเทียมที่มีการใช้งานโดยดาวเทียมไทยคม 7 และ 8 ยังมีความไม่แน่นอนและอาจเปลี่ยนแปลงได้หากอนุญาโตตุลาการหรือ ศาลปกครองวินิจฉัยให้บริษัท ไทยคม ชนะคดี และแม้ กสทช.มีอำนาจหน้าที่จัดทำแผน การบริหารสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนระดับชาติ ว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมตามที่ กสทช.กล่าวอ้าง แต่ กสทช.ย่อมไม่อาจปฏิเสธที่จะไม่ปฏิบัติตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ หรือคำพิพากษาของศาลในกรณีที่วินิจฉัยให้บริษัท ไทยคม เป็นฝ่ายชนะคดีได้ อุทธรณ์ของกสทช.ดังกล่าวจึงฟังไม่ขึ้น คำสั่งทุเลาการบังคับตามมติ กสทช.ของศาลปกครองชั้นต้น จึงชอบด้วยกฎหมาย

เมื่อคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงไม่มีเหตุที่ศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งระงับคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นที่ทุเลาการบังคับ ตามมติของ กสทช.ไว้เป็นการชั่วคราวก่อนการวินิจฉัยอุทธรณ์ตามคำขอของ กสทช. การที่ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติของ กสทช. ส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมของดาวเทียมไทยคม 7 และ 4 ไว้เป็นการชั่วคราว ซึ่งหมายความรวมถึงให้บริษัท ไทยคม มีสิทธิเข้าใช้ข่ายงานดาวเทียม THAICOM-A3, THAICOM-A3B, THAICOM-N3 และ THAICOM-Q2 ที่มีการใช้งานโดยดาวเทียมไทยคม7เเละ8 ได้ต่อไป จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น นั้น ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น