มหาดไทย เวียนปรับแนวทางใหม่ เพิ่มสิทธิ “ประชาสังคม/ภาคประชาชน” ยื่นขอเปลี่ยนชื่อ “จังหวัด/อำเภอ/ตำบลหมู่บ้าน/อบต./เทศบาล /วัด/สถานที่ราชการอื่น” ปรับปรุง 13 หลักเกณฑ์ ยึดหลักการ รักษาชื่อเดิม หากเป็นเหตุผลไม่สมควร จะไม่อนุมัติให้เปลี่ยนแปลง
วันนี้ (31 พ.ค.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อต้นสัปดาห์ กระทรวงมหาดไทย เวียนหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ทั่วประเทศ
เพื่อซักซ้อมแนวทางการปฏิบัติในการขอเปลี่ยนแปลงชื่อ จังหวัด อำเภอ และตำบลหมู่บ้านหรือสถานที่ราชการอื่นๆ ให้หน่วยงานต่างๆ ทราบ และถือเป็นแนวทางปฏิบัติ
แนวทางดังกล่าว ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงชื่อ “องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และเทศบาล”
ตามมติ เมื่อต้นปี 2565 ของคณะกรรมการพิจารณาเรื่องการขอเปลี่ยนแปลงชื่อฯ ที่เห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติในการขอเปลี่ยนแปลงชื่อฯ ให้เป็นปัจจุบัน
หลักเกณฑ์ดังกล่าว นอกจากจะต้องไม่ขัดกับ กฎหมาย หรือระเบียบเฉพาะของสถานที่นั้นๆ และควรดำเนินการเท่าที่จำเป็น ยังมีองค์ประกอบ 13 ข้อ ที่น่าสนใจ เช่น
ชื่อเดิมมีความหมายไม่ดี ไม่สุภาพ หรือไม่เป็นมงคล หรือเขียนไม่ถูกหลักไวยากรณ์ ทำให้ความหมาย เปลี่ยนแปลงหรือไม่มีความหมาย
ชื่อที่เสนอต้องไม่ขัดต่อวัฒนธรรมและศีลธรรมอันดีของประชาชน และเป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี และต้องไม่ใช่เปลี่ยนแปลงตามชื่อผู้สร้าง ซ่อมแซม หรือผู้อุปถัมภ์
การขอเปลี่ยนกลับไปใช่ชื่อเดิม ซึ่งมีความหมายดี ประชาชนนิยมเรียกขาน เป็นระยะเวลายาวนาน และ เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไปด้วย
ขอเปลี่ยนเป็นกรณีพิเศษโดยได้รับพระราชทานชื่อใหม่ กรณีของ “วัด” เมื่อเห็นชอบอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงแล้ว ไม่เป็นการสมควรอย่างยิ่งที่จะเสนอขอเปลี่ยนแปลงชื่อวัดอีกในภายหลัง เป็นต้น
ส่วนวิธีการขอเปลี่ยนแปลงชื่อ กรณีหมู่บ้าน ต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาคมราษฎรภายในหมู่บ้าน จำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของประชากรในหมู่บ้าน กรรมการหมู่บ้าน สภาองค์การบริหารส่วนตำบลหรือสภาเทศบาลตำบล นายอำเภอ และผู้ว่าราชการจังหวัด
กรณีเปลี่ยนชื่ออำเภอ เพิ่มความเห็นของสภาองศ์การบริหารส่วนจังหวัด ส่วนการขอเปลี่ยนแปลงชื่อจังหวัด ต้องผ่านความเห็นจาก กรมการจังหวัด และสภาองศ์การบริหารส่วนจังหวัด
ขณะที่การขอเปลี่ยนแปลงชื่อวัด นอกจากผ่านเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด และเจ้าคณะภาค ชื่อวัดที่ตั้งใหม่ ต้องมีอายุไม่เกิน 5 ปี หรือไม่เกิน 50 ปี เสนอกลั่นกรองผ่าน “มหาเถรสมาคม” ก่อนนำเสนอกระทรวงมหาดไทยพิจารณา
ส่วนวัดที่ตั้งมามีอายุเกิน 50 ปี ให้นำเสนอคณะกรรมการของกระทรวงมหาดไทยพิจารณา ก่อนแล้วนำเสนอมหาเถรสมาคม รับทราบ
กรณี อบต. ประสงค์จะจัดตั้งเป็น “เทศบาล” พร้อมไปกับการเปลี่ยนแปลงชื่อ ให้นำเสนอคณะกรรมการพิจารณาชุดนี้ ก่อนเสนอต่อคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทยตรวจพิจารณา
ในการนี้ กระทรวง กรมต่าง ๆ และรัฐวิสาหกิจ เจ้าของเรื่องควรแจ้งให้ผู้ที่เสนอขอเปลี่ยนแปลงชื่อ ได้ทราบหลักเกณฑ์ดังกล่าวช้างต้น เพื่อถือปฏิบัติ และให้ส่งเอกสารหลักฐานต่างๆ ประกอบการพิจารณา
“กรรมการชุดนี้ จะพยายามรักษาชื่อเดิม ชื่อประวัติศาสตร์ของสถานที่ต่างๆ ไว้ เพราะฉะนั้น หากเหตุผล ที่เสนอขอเปลี่ยนแปลง ไม่สมควรและมีเหตุผลไม่เพียงพอแล้ว คณะกรรมการ จะไม่อนุมัติให้เปลี่ยน”