รมว.สธ. ลงพื้นที่อ่างทอง ปลุกพลัง อสม. ชื่นชมทุ่มเท เป็นกลจักรสำคัญ พาไทยก้าวข้ามวิกฤตโควิด-19 เผย วางนโยบาย ขึ้นค่าตอบแทน ให้ 1.5 พันบาทต่อเดือน พร้อมมั่นใจ เศรษฐกิจไทย กลับมาเข้มแข็งหลังยุคโรคระบาด
วันนี้ (29 พ.ค.) ที่อาคารสำนึกรักบ้านเกิด องค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทอง อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย คณะผู้บริหารกระทรวง และคณะผู้บริหารฝ่ายปกครองในพื้นที่ อาทิ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง, นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย, นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมในพิธีลงนามข้อตกลง (MOU) การดำเนินและการบริหารจัดการระบบการแพทย์ฉุกเฉินจังหวัดอ่างทอง ซึ่งเป็นความร่วมมือของฝ่ายปกครองในจังหวัด และกระทรวงสาธารณสุข ภายในงาน ได้มีการมอบอุปกรณ์ฟื้นฟูสภาพผู้พิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส แก่ศูนย์ยืมอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการ อบจ.อ่างทอง พร้อมไปกับการมอบเสื้อแก่ประธาน อสม. 7 อำเภอ ภายในงานมีประชาชน และ อสม.เข้าร่วมกว่า 3 พันคน
นายอนุทิน กล่าวว่า พี่น้อง อสม.มีคุณูปการต่อระบบสาธารณสุขไทยเสมอมา ความสำคัญดังกล่าวยิ่งเด่นชัดเมื่อประเทศไทย ต้องเผชิญกับโควิด-19 แล้วพี่น้อง อสม. คือ กลไกที่สำคัญ ทำให้เราก้าวผ่านวิกฤตนั้นมาได้ มาถึงตอนนี้ เราชาวกระทรวงสาธารณสุข จะต้องเข้ามาดูแลเรื่องสุขภาพแก่ทุกท่าน นำมาซึ่งการผลักดันทั้งเรื่องค่าตอบแทนพิเศษ 500 บาทต่อเดือน จากเงินที่ได้ประจำ เรื่องของฌาปณกิจสงเคราะห์ สวัสดิการด้านการรักษาพยาบาล ไปจนถึงประกันโควิด-19 เป็นต้น เป็นเครื่องยืนยันว่า เราไม่เคยหลงลืมท่าน ขณะนี้ ประเทศไทยกำลังมุ่งหน้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น เราไปในทิศทางนั้นทุกขณะ อสม.ต้องช่วยกันรณรงค์ให้ประชาชนมารับวัคซีน เพื่อลดความรุนแรง ยามติดเชื้อด้วย ไปจนถึงการให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องการป้องกันตนเอง เรายังต้องพึ่งพาพลังของนักรบชุดเทา
ที่ผ่านมา จังหวัดอ่างทอง ในส่วนของท้องถิ่น มีปัญหาเรื่องรถพยาบาลไม่เพียงพอ เราได้จัดหาให้แล้ว จะทยอยนำส่งมาให้ทันความต้องการ ส่วนการที่ รพ.สต.จะแยกตัวไปไปอยู่ใต้สังกัดของท้องถิ่น ทางกระทรวงสาธารณสุข ไม่ขัดขวาง ขอให้การบริการประชาชน ยังรักษามาตรฐานได้ดีก็พอ กลับไปที่ อสม. ตอนนี้ เป็นหมอคนแรกแล้ว บทบาทของท่านคือ จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชน และยังช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล โดยท่านต้องทำงานประสานกับหมอที่โรงพยาบาล ผ่านเทคโนโลยีการสื่อสาร และ เพื่อให้การทำงานของท่านมีประสิทธิภาพสูงสุด เราได้มีการเปิดอบรม อสม.ให้มีความรู้เพิ่มขึ้น ด้วยการไปศึกษาวิชาที่ สถาบันพระบรมราชชนก ซึ่งเป็นสถาบันผลิตพยาบาล เมื่อจบออกมาแล้ว อสม.จะมีความรู้ ความสามารถเพิ่มขึ้น นี่เอง จะช่วยให้ระบบสาธารณสุขพื้นฐานเราเข้มแข็งขึ้นไปอีก
เราเปิดประเทศแล้ว จะมีโอกาสมากมายตามมา การสาธารณสุขที่ยอดเยี่ยมของไทย ทำให้นานาชาติ ยังคงต้องการลงทุนในประเทศเรา มีคนมาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องเศรษฐกิจ นี่คือโอกาส อ่างทอง เป็นจังหวัดที่มีสถานโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย เลยไปถึงสิงห์บุรีชัยนาทล้วนแล้วแต่มีเสน่ห์ น่าท่องเที่ยว เมื่อมีคนเดินทางมาที่จังหวัดท่านมากขึ้น การสุขอนามัย ก็ต้องทำให้ดีด้วย ซึ่ง อสม. นี่เอง ที่จะเข้ามาเติมเต็มตรงจุดนี้ เราต้องช่วยกัน แล้วเศรษฐกิจในพื้นที่ จะดีขึ้นอย่างแน่นอน อย่างไรเสีย ต้องกราบขอบพระคุณพี่น้อง อสม. ตอนนี้ ท่านได้ค่าตอบแทนประจำที่ 1 พันบาทต่อเดือน ในช่วงโควิด-19 ท่านได้เพิ่มอีก 500 บาทต่อเดือน สำหรับตนเองในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แน่นอน ว่า ต้องการให้ท่านได้ค่าตอบแทน 1,500 บาทตลอดไป ไม่ใช่กลับไปที่ 1,000 บาทอีก และเรากำลังผลักดันเรื่องนี้อยู่ ส่วนตัวเข้าใจชีวิตของ อสม. เพราะก็เป็น อสม.เหมือนกัน
มากันที่เรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ที่จังหวัดอ่างทอง เป็นจังหวัดที่ประชาชนประกอบอาชีพเกษตรกรกันจำนวนมาก นี่คือ โอกาส เพราะสถานการณ์โลกตอนนี้ มีสงคราม หลายประเทศมีปัญหาเรื่องขาดแคลนอาหาร หลายประเทศ ห้ามส่งออกอาหาร เพื่อสำรองไว้ดูแลประชากรในประเทศ กลับมาดูที่ประเทศไทย กลับมาดูที่จังหวัดอ่างทอง เรายังผลิตอาหารได้อีกมาก ในอนาคต เราจะสามารถขายสินค้าเกษตร ได้ในราคาที่สูงขึ้นกว่าปัจจุบันอย่างแน่นอน ปัญหาคือ ถึงราคาสูงขึ้น มันก็อาจจะไปตกกับคนอื่น ที่ไม่ใช่เกษตรกร มันต้องหาทางทำให้เงิน มันถึงพี่น้องเกษตรกร ที่กล่าวมาทั้งหมด ล้วนเป็นโอกาสของเรา ที่จะทำให้ประเทศไทยของเราพลิกกลับมาเป็นประเทศที่มีความเจริญมั่นคงทางเศรษฐกิจอีกครั้งหนึ่งภายหลังสถานการณ์โควิด-19