โฆษกรัฐบาล เผย กบน.ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 32 บาท/ลิตร ถึง 29 พ.ค. ลดผลกระทบประชาชน-ผู้ปกครองช่วงเปิดเทอม ตามนโยบายรัฐบาล “นายกฯ” ย้ำ ขอคนไทยช่วยกันประหยัดพลังงาน ใช้รถยนต์ส่วนตัวเท่าที่จำเป็น
วันนี้ (25 พ.ค.) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เฝ้าติดตามสถานการณ์พลังงานส่งผลกระทบต่อประชาชน ยิ่งโดยเฉพาะช่วงนี้มีการเปิดเทอมของนักเรียน ทำให้มีการเดินทางมากขึ้น ซึ่งล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้มีมติตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 31.94 บาทต่อลิตร ต่อไปอีกจนถึง 29 พ.ค. นี้ และจากนั้นจะพิจารณากำหนดราคาใหม่อีกครั้ง โดยการตรึงราคาดังกล่าวเป็นการตรึงต่อเนื่องหลังเริ่มปรับราคาดีเซล 2 บาทต่อลิตร จาก 29.94 บาทต่อลิตร เป็น 31.94 บาทต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา สำหรับสาเหตุการตรึงราคาครั้งนี้ มาจากสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ยังสามารถรับมือได้ ซึ่งราคาดีเซลตลาดโลกอยู่ในกรอบ 130-138 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล สำหรับฐานะกองทุนน้ำมัน ล่าสุดวันที่ 22 พ.ค. 65 ติดลบแล้ว 76,291 ล้านบาท คาดว่า สัปดาห์หน้าจะติดลบถึง 8 หมื่นล้านบาท โดยกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุนดีเซลอยู่ลิตรละ 5.73 บาทต่อลิตร
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า สำหรับราคาน้ำมันเฉลี่ยในอาเซียน ณ วันที่ 23 พ.ค. 65 มีดังนี้ น้ำมันเบนซิน สิงคโปร์ อยู่ที่ 81.11 บาท/ลิตร ลาว อยู่ที่ 61.68 บาท/ลิตร ฟิลิปปินส์ อยู่ที่ 48.42 บาท/ลิตร กัมพูชา อยู่ที่ 47.90 บาท/ลิตร เวียดนาม อยู่ที่ 44.58 บาท/ลิตร ไทย อยู่ที่ 42.95 บาท/ลิตร ขณะที่น้ำมันดีเซล สิงคโปร์ อยู่ที่ 75.62 บาท/ลิตร ฟิลิปปินส์ อยู่ที่ 48.32 บาท/ลิตร ลาว อยู่ที่ 47.13 บาท/ลิตร กัมพูชา อยู่ที่ 46.63 บาท/ลิตร อินโดนีเซีย อยู่ที่ 43.89 บาท/ลิตร เมียนมา อยู่ที่ 42.16 บาท/ลิตร เวียดนาม อยู่ที่ 39.63 บาท/ลิตร ไทย อยู่ที่ 31.94 บาท/ลิตร โดยราคาขายน้ำมันแต่ละประเทศ มีปัจจัยทางด้านราคา คือ 1) แต่ละประเทศสมาชิกมีมาตรการภาษี และระบบการเก็บเงินเข้ากองทุนหรืออุดหนุนราคาพลังงานที่แตกต่างกัน 2) ในหลายประเทศเพื่อนบ้านยังมีการอุดหนุนราคากันอยู่ 3) ประเทศไทยสนับสนุนการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ ให้การอุดหนุนราคาโดยกองทุนน้ำมันฯ จึงทำให้ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ถูกกว่าเบนซิน
“การที่ กบน. พิจารณาตรึงราคาน้ำมันดีเซล ก็เพื่อต้องการลดผลกระทบประชาชน ผู้ปกครอง จากการเปิดเทอมซึ่งมีภาระค่าครองชีพสูงขึ้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลก คาดว่า จะยังคงมีทิศทางปรับขึ้นหลังจากที่จีนคลายล็อกดาวน์ อีกทั้งสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังคงยืดเยื้อ ซึ่งสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นรายวันนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่ารัฐบาลจะพยายามคลี่คลายสถานการณ์ให้ได้มากที่สุด จะบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด ในเกณฑ์ที่รัฐบาลสามารถรองรับได้และตามงบประมาณที่มีอยู่ พร้อมย้ำว่าสิ่งสำคัญที่สุดในวันนี้ ขอให้คนไทยทุกคนช่วยกันประหยัดพลังงานให้ได้มากที่สุด ใช้รถยนต์ส่วนตัวเท่าที่จำเป็น เพราะราคาน้ำมันสูงขึ้นทุกวัน ทุกคนต้องเตรียมตัวให้พร้อมรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในโลก ที่มีผลกระทบกับประเทศไทยและทั่วโลก” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว