ปรากฏการณ์ “ชัชชาติ” ยังไม่จบ “สมชัย” ชี้ ได้คะแนน “ปันใจ” กว่า 2 แสน “ไพศาล” เย้ย “กองเชียร์ลุง” ไล่บี้แก้หนี้ กทม. 2 ก้อน เตือนระวังถูกไล่เช็กบิล “พี่ศรี-ดร.อานนท์” เอาผิดป้ายหาเสียงสัญญาว่าจะให้หรือไม่?
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (24 พ.ค. 65) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สมชัย ศรีสุทธิยากร ระบุว่า
“คะแนน 1,386,215 คะแนน ของชัชชาติมาจากไหน
ในเมื่อ คะแนน ส.ก. เพื่อไทย ทั้งหมดมีเพียง 620,009 คะแนน แปลว่า มีคะแนนไหลมาจากที่อื่นถึง 766,206 คะแนน
คำตอบคือ ได้จากคนที่เลือก ส.ก.พรรคอื่น แต่มาเลือกผู้ว่าฯ เป็นชัชชาติ
คะแนน ส.ก. ก้าวไกล มี 482,832 คะแนน แต่คะแนนวิโรจน์ มี 253,851 คะแนน แปลว่า มีคนรักก้าวไกล รักวิโรจน์ แต่ลงให้ชัชชาติ 228,981 คน
คะแนน ส.ก. ปชป. มี 348,853 คะแนน แต่คะแนนสุชัชวีร์ มี 254,647 คะแนน แปลว่า FC ปชป. ยังไปเทใจให้ชัชชาติถึง 94,206 คะแนน
คะแนน ส.ก. ไทยสร้างไทย มี 241,945 คะแนน แต่คะแนนศิธา มีแค่ 73,720 คะแนน แปลว่า รักสุดารัตน์ แต่ลงชัชชาติ 168,225 คะแนน
และสนุกสุด เมื่อเอาคะแนนของ พปชร.+กลุ่มรักษ์กรุงเทพ ซึ่งชูอัศวินทั้งสองกลุ่ม ได้คะแนน ส.ก.รวมกัน 464,450 คะแนน แต่คะแนนบิ๊กวิน มาแค่ 214,692 คะแนน เป็นพวกปันใจแอบไปให้ชัชชาติ ถึง 249,758 คะแนน
คะแนนปันใจเหล่านี้ รวมกันได้ 741,170 คะแนน พร่องไปจากตัวเลขที่ว่าเป็นคะแนนไหลมาจากที่อื่นแค่ 25,036 คะแนน ซึ่งหากบวกคะแนนจากส่วนอื่นย่อยๆ ก็จะได้เป็นจำนวนใกล้เคียงคะแนน 1.38 ล้านที่ชัชชาติได้รับครับ
ทั้งหมดเป็นการทดลองทางตัวเลขเล่นๆ สนุกๆ แต่ถ้าทำให้ลุงบางคนเครียด ขออภัยด้วย”
ขณะเดียวกัน นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมายอิสระโพสต์ เฟซบุ๊กระบุว่า
“คงจะมึนกับความพ่ายแพ้เลือกตั้งอย่างยับเยิน
กองเชียร์ลุงแห่กดดัน ให้ชัชชาติแก้ปัญหา หนี้ของกรุงเทพมหานคร 2 ก้อน 40,000 ล้าน กับ 60,000 ล้าน!!!
เมาหมัดแล้ว!!!
ไม่รู้หรือว่าขณะนี้ ชัชชาติยังไม่ทันเข้าดำรงตำแหน่ง จะมาเรียกร้องกดดันอะไร
และเรื่องนี้ บอกไว้ล่วงหน้าก็ได้ว่า ไม่เป็นปัญหาเลย!!!
รับตำแหน่งวันไหนเขาก็ “จะตั้งคณะตรวจข้อเท็จจริง 2 ชุด” ว่า หนี้ 2 รายการนี้เกิดขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ถ้าเกิดขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมายก็ต้องหาทางเจรจาชำระ จะเบี้ยวเอกชนไม่ได้!!!
แต่ถ้าเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายกรุงเทพมหานครก็ไม่มีหน้าที่ต้องชำระหนี้นั้น!!!!
จะต้องดำเนินการเช็กบิล กับผู้สร้างหนี้สินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น และอาจจะต้องเช็กบิลตลอดสายขึ้นไปด้วย
คอยดูก็แล้วกันว่าจะเป็นดังพยากรณ์หรือไม่!!!!”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ศรีสุวรรณ จรรยา ระบุถึง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. ปมป้ายหาเสียง ว่า
“ก่อนหน้านี้ ท่านชัชชาติพูดโพสต์และอธิบายมาโดยตลอดว่า “ทางทีมงานเพื่อนชัชชาติ ไม่อยากให้ป้ายเหล่านี้กลายเป็นขยะหลังการเลือกตั้ง เราทำ Pattern ไว้ เพื่อเราสามารถเก็บกลับมา นำไปตัดและเย็บกระเป๋า หรือผ้ากันเปื้อน ไว้ใช้ต่อในทีมของเราเองได้เลยในอนาคต”
ซึ่งเราท้วงติงมาโดยตลอดว่า ทำ Pattern ไว้เยี่ยงนี้ (ซึ่งผู้สมัครคนอื่นๆ ไม่มีใครทำ) อาจถือได้ว่า เป็นการทำให้ หรือสัญญาว่าจะให้ อันส่อไปในทางฝาฝืนกฎหมายเลือกตั้งฯ 2562 ซึ่งพอปิดหีบเลือกตั้ง ปั๊บ ก็เป็นไปตามคาด มีคนมากรีดเอาป้ายหาเสียงของท่านจนหมดภายในเย็นค่ำของวันเลือกตั้ง
แต่ทว่า ท่านกลับปล่อยให้ผู้คนซึ่งก็คือ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาเอาป้ายหาเสียงของท่าน ที่ถือว่าเป็นทรัพย์สินของท่านไปตัดเย็บทำกระเป๋า-ผ้ากันเปื้อนตาม Pattern ที่ท่านกำหนดไว้ โดยที่ท่านมิได้ออกมาปกป้องสิทธิในทรัพย์สินของท่านแต่อย่างใด
การให้ลิ่วล้อทั้งหลายมาประโคมข่าวว่า ห้ามเอาป้ายไป หากเอาไปแล้วขอให้ส่งคืนตามที่อยู่ที่ได้เตรี้ยมกันไว้นั้น มันไม่แนบเนียนครับ คน กทม.ที่มีสิทธิเลือกตั้ง 4.4 ล้านคน เขาไม่ได้กินแกลบ กินหญ้านะครับ
ผมรอจนจะครบ 3 วันแล้ว ไม่เห็นท่านไปแจ้งความดำเนินคดีเอากับคนลักขโมยป้ายหาเสียงของท่านไปเลย เยี่ยงนี้จะให้คิดเป็นไปอย่างอื่นมิได้ นอกจากที่พูดโพสต์อธิบายมาก่อนหน้านี้ คือ “การเสแสร้งแกล้งทำ” งั้นเดี๋ยวเจอกัน!!”
ส่วน ผศ.ดร. อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุทำนองเดียวกันว่า “ป้ายหาเสียงชัชชาติ ปรุไว้ให้ฉีกไปต่อเป็นกระเป๋า ได้กล่าวเชิญชวนให้ชาวบ้านไปเก็บมาทำกระเป๋าตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง ถือว่าเป็นสัญญาว่าจะให้ กกต. ต้องให้ใบแดง แพ้ฟาล์วเพราะทำผิดกติกาเลือกตั้งกฎหมายเลือกตั้ง ถ้า กกต. ไม่ทำอะไรก็เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่”
แน่นอน, นี่คือควันหลงที่เกิดขึ้น ซึ่งมีอยู่สองส่วนที่น่าสนใจ
ส่วนแรก คือ คะแนนที่เกิดปรากฏการณ์ “ชัชชาติ” ขึ้น โดยไม่มีใครคาดคิดว่า จะได้คะแนนถล่มทลาย “แลนด์สไลด์” ถึงเพียงนี้ จนทำให้การวิเคราะห์สาเหตุ หรือหาที่มาของคะแนน กระทั่งวันนี้ก็ยังถกเถียงกันไม่จบ
บ้างวิเคราะห์กันแบบตื้นๆ ว่า ฝ่ายเผด็จการ พ่ายแพ้ให้กับฝ่ายประชาธิปไตย คน กทม.ไม่เอารัฐบาล “ลุงตู่” ฯลฯ ซึ่งหนีไม่พ้น “เกมการเมือง” เข้าข้างตัวเอง
แต่ถ้าวิเคราะห์เจาะลึกลงไป ก็จะเห็นได้ชัดว่า คะแนนนิยม “ชัชชาติ” ต่างหากที่ทำให้ผลเลือกตั้งออกมาเช่นนี้
อย่างที่ “สมชัย” ชี้ให้เห็น ว่า “คะแนนปันใจ” มีมากแค่ไหน ก็ลองคิดดูก็แล้วกัน
ส่วนที่สอง คือ การร้องเอาผิด การทำผิดกฎหมายเลือกตั้งของ “ชัชชาติ” ปมป้ายหาเสียง ซึ่งเรื่องนี้ แท้จริงแล้วเข้าข่ายทำผิดหรือไม่ โดยเฉพาะ กกต. ต้องเร่งออกมาชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนว่า เข้าข่ายหรือไม่
และเมื่อมีผู้ร้องเอาผิด จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไรหรือไม่
เพราะที่สำคัญเหนือคะแนนเสียงที่ได้รับเลือกตั้ง ก็คือ การได้มาด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมหรือไม่ ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ นั่นเอง