รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาลผ่อนปรนเดินทางข้ามพรมแดน คุมเข้มลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย เปิดเพิ่มด่านไทยลาว “ช่องเม็ก” วันนี้
วันนี้ (23 พ.ค.) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ ศบค. ได้ออกมาตรการผ่อนปรนการเดินเข้าประเทศ ซึ่งครอบคลุมการเดินทางผ่านด่านทางบก จะเริ่มบังคับใช้ 1 มิ.ย.นี้ เช่นกัน โดยไม่มีการกักตัว แต่ยังคงการคัดกรองอาการ และตรวจสอบเอกสารการฉีดวัคซีน เพื่อลงระบบเข้าประเทศ ทั้งนี้ ผู้เดินทางที่ไม่มีสัญชาติไทย และข้ามพรมแดนด้วยบัตรผ่านแดน ต้องเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนครบถ้วนเท่านั้น ส่วนคนไทย (ใช้หนังสือเดินทางหรือบัตรผ่านแดน) และต่างชาติที่ใช้หนังสือเดินทาง หากไม่มีผลการฉีดวัคซีน ให้แสดงผลตรวจ Pro ATK อย่างไรก็ตาม การเฝ้าระวังการลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย ยังคงเป็นไปอย่างเข้มงวด เพื่อให้การเปิดประเทศเป็นไปอย่างปลอดภัยตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
กระทรวงกลาโหมในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบหลัก ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย รายงานว่า ยอดสะสมผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายตั้งแต่ 1 ม.ค. 65 จนถึงปัจจุบัน มีผู้ถูกจับกุม ณ พื้นที่ชายแดนและพื้นที่ติดชายแดน จำนวน 5.8 หมื่นราย จำนวนผู้นำพา 1,351 ราย เฉพาะช่วง 1-18 พ.ค. จำนวนผู้ถูกจับกุม เกือบหนึ่งหมื่นราย ผู้นำพา 244 ราย
นางสาวรัชดา กล่าวต่อว่า นับตั้งแต่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ศบค.ได้อนุญาตให้เปิดด่านชายแดนถาวรอย่างเป็นทางการ จำนวน 17 จังหวัด 31 ด่าน โดยขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละด่าน ซึ่งด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย เช่นที่ สงขลา และสตูล มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจอย่างมาก ส่งผลต่อเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม อาจมีบางจุดที่ยังไม่คึกคักเหมือนช่วงก่อนหน้าโควิด-19 เพราะต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของประเทศเพื่อนบ้านด้วย สำหรับในวันจันทร์ที่ 23 พ.ค.นี้ จะมีการเปิดด่านช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซามาอย่างยาวนาน และข่าวการเปิดด่านนี้ทางพื้นที่รายงานว่า ได้สร้างความดีใจให้กับชาวลาวที่ต้องการเดินทางเข้ามาซื้อสินค้าและเยี่ยมญาติฝั่งไทยอีกด้วย