วันที่ 18 พ.ค.น.ส.ภัทรพร ชุติชวาลนันท์ ผู้สมัครส.ก.เขตคลองสาน เบอร์7 พรรครวมไทยยูไนเต็ด โพสต์ เฟสบุ๊คส่วนตัวเรื่อง "เลิกส่วยเพิ่มพื้นที่ค้าขายที่มั่นคง"ว่า เสียงจากพ่อค้าแม่ขายส่วนใหญ่ในกทม. ที่ค้าขายบนทางเท้า ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า “จ่ายเงินให้เขตแล้ว จ่ายเงินให้เทศกิจแล้ว” นี้แหละคือสาเหตุที่ทำให้กทม. ไม่สามารถจัดการทางเท้าและพ่อค้าแม่ขายหาบเร่เหล่านี้ นุ่นจึงคิดว่ามันจะดีกว่านี้แน่ถ้าเราจริงใจที่จะช่วยพ่อค้าแม่ขายและประชาชนเดินทางเท้า “เราต้องเลิกการส่งส่วยหรือจ่ายเงินนอกระบบให้หน่วยงานบางหน่วยงาน และ จัดพื้นที่ค้าขายที่มั่นคงให้พ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้”
ในปัจจุบัน เราปฎิเสธไม่ได้ว่าปัญหาเศรษฐกิจและปากท้อง ได้ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พ่อค้าแม่ค้าต่างหาที่ทำกินยาก เพราะกำลังซื้อลดลง ค้าวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น ร่วมถึงค่าแผงขายของที่ต้องจ่าย บางที่ก็ถูกกฎหมายบางที่ก็ไม่ถูกกฎหมาย
การลดปัญหาการเก็บส่วยจากองค์กรบางหน่วย ก็เป็นอีกปัญหาที่ควรจะหมดไป เนื่องจากปัจจุบันพ่อค้าแม่ขายหาบเร่แผงลอยต้องจ่ายเงิน 300 - 500 บาทต่อเดือนในการตั้งแผงขายตามทางเท้าใกล้ย่านคนพลุกพลาน เพื่อหวังจะขายของได้เงินมา แต่คำถามคือ “ใครมีอำนาจให้คนมาตั้งของขายขวางทางเท้า?” และ “เงิน300 หรือ 500 บาทนั้นไปอยู่ที่ใคร เงินนั้นได้กลับมาพัฒนาอะไรให้พ่อค้าแม่ขายเหล่านี้บ้าง?”
สิ่งที่เกิดขึ้นคือการจ่ายส่วยจากประชาชนเพื่อขอให้ได้ที่ทำมาหากิน คิดว่าเรื่องดังกล่าวควรหมดไป เราควรที่จะสนับสนุน และ ให้โอกาสพ่อค้าแม่ค้าให้มีสิทธิ์ในการขาย รวมถึงพื้นที่ทางเท้าต้องอำนวยให้ตั้งขายได้ คนเดินสัญจรก็สวนได้ รวมทั้งต้องมีการปรับเวลาเปิดปิดเพื่อขยายโอกาส ขยายช่องทาง ในการทำมาหากิน
การสร้างโอกาสให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้ามีที่ทำกิน การขายของได้ทุกวัน ไม่มีวันหยุดโดยจะต้องสร้างการมีส่วนร่วมในการรักษาความสะอาดในแต่ละพื้นที่ และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการกำหนดรูปแบบการค้าด้วยตัวเอง ผ่านเงินที่พวกเขาจ่ายอย่างถูกต้อง และสามารถติดตามการเดินทางของเงินดังกล่าวได้โดยใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามาช่วยติดตาม
การสร้างพื้นที่เศรษฐกิจ ย่อมนำมาสู่เศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชน นำเอกลักษณ์ของตลาดที่มีอยู่แล้วมาทำเป็นจุดแลนมาคแห่งใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว ที่สำคัญจะต้องมีบริการห้องนำ้อำนวยความสะดวกแก่พ่อค้าแม่ค้าและนักท่องเที่ยว