xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ยินดีไทยและซาอุดีอาระเบียมีพัฒนาการความร่วมมือทางเศรษฐกิจและท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ยินดีไทยและซาอุดีอาระเบีย มีพัฒนาการความร่วมมือทางเศรษฐกิจและท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำคณะภาคเอกชนเดินทางเยือนซาอุดีฯ สานต่อความร่วมมือ

วันนี้ (18 พ.ค.) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีต่อความสัมพันธ์ไทยและซาอุดีอาระเบียที่มีพัฒนาการและความคืบหน้าในการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรมอย่างมาก โดยเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2565 นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะผู้แทนภาคเอกชนเดินทางเยือนซาอุดีฯ เพื่อกระชับความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำคณะผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย ทำการตลาดการท่องเที่ยวไทยในซาอุดีฯ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินทางครั้งนี้นับเป็นการเดินทางอย่างเป็นทางการของรัฐร่วมกับเอกชนครั้งแรกในรอบ 32 ปี ซึ่งประกอบไปด้วย คณะผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐจำนวน 78 คน จาก 28 หน่วยงาน และภาคธุรกิจ จำนวน 57 คน จากสาขาธุรกิจที่มีศักยภาพกว่า 39 บริษัท อาทิ สาขาสินค้าอุปโภคบริโภค เกษตรและอาหาร พลังงานและเคมีภัณฑ์ เทคโนโลยีและดิจิทัล อัญมณีและเครื่องประดับ ท่องเที่ยวและบริการ ธุรกิจสุขภาพ เป็นต้น

เชื่อมั่นว่า การเดินทางเยือนซาอุดีฯ ครั้งนี้ จะทำให้สัดส่วนส่งออกของไทยไปซาอุดีฯ ดีขึ้น โดยหอการค้าไทยประเมินว่าสัดส่วนการส่งออกจะเพิ่มกลับมาอยู่ที่ร้อยละ 2.2 ใกล้เคียงกับในปี 2532 จากเดิมก่อนหน้านี้ที่มีมูลค่าประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท คิดเป็นเพียงร้อยละ 0.6 ของการส่งออกทั้งหมด รวมทั้งคาดว่าหลังจากการเดินทางเยือนจะทำให้ปริมาณการค้ารวมสองประเทศขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1.5 แสนล้านบาท

โดย นายธนกร ระบุว่า รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ใช้โอกาสการเดินทางครั้งนี้หารือเพื่อซื้อปุ๋ยเคมีจากซาอุดีฯ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทย แก้ไขปัญหาการขาดแคลนปุ๋ยเคมีของไทย พร้อมร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจการจัดตั้งสภาความร่วมมือไทย-ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจะปูทางการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจเอกชนของทั้งสองฝ่าย และจะกล่าวถ้อยแถลงในงาน Saudi-Thai Investment Forum 2022 ซึ่งเป็นงานที่ภาครัฐและภาคเอกชนของไทยและซาอุดีฯ จะได้มาจับคู่ธุรกิจ รวมทั้งแลกเปลี่ยนนโยบายและข้อมูลเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างกัน รวมทั้งจะร่วมพิธีเปิดงานเทศกาลอาหารฮาลาลไทย ปี 2565 ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมการเปิดตลาดผลิตภัณฑ์ฮาลาลของไทย โดยเฉพาะอาหารในซาอุดีอาระเบีย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากคณะผู้แทนไทยซึ่งนำโดยรองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแล้ว นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังนำคณะผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยจำนวน 67 ราย จาก 47 บริษัท ไปยังเมืองเจดดาห์ และกรุงริยาด ของซาอุดีฯ เพื่อบุกตลาดการท่องเที่ยวเป็นครั้งแรกของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทยในตลาดซาอุดีฯ อีกด้วย โดยในวันที่ 15 พฤษภาคม 2565 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เป็นสักขีพยานในการลงนามความร่วมมือระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และบริษัท Almosafer ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการท่องเที่ยวออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของตลาดซาอุดีฯ และคูเวต และครองส่วนแบ่งการตลาดติด 1 ใน 3 ของภูมิภาคตะวันออกกลาง และแอฟริกาทางตอนเหนือ เพื่อส่งเสริมประเทศไทยในตลาดซาอุดีฯ และตลาดตะวันออกกลาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มตลาดคนรุ่นใหม่

นอกจากนี้ วันที่ 16 พฤษภาคม 2565 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬายังเป็นสักขีพยานในการลงนามความร่วมมือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสายการบิน SAUDIA ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติซาอุดีฯ และใหญ่เป็นลำดับที่ 3 ของภูมิภาคตะวันออกกลางในเชิงรายได้ โดยภายใต้บันทึกข้อตกลงนี้ ททท. และสายการบิน SAUDIA จะร่วมกันหารือขยายความร่วมมือส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีฯ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นต่อการท่องเที่ยวไทย

“นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า ความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-ซาอุดีฯ ยังมีศักยภาพ และโอกาสเพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศอีกมาก และการเยือนซาอุดีฯ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครั้งนี้ จะสามารถสานต่อและขับเคลื่อนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวระหว่างกัน และแสดงถึงความมุ่งมั่น สะท้อนเจตนารมณ์ของไทยในการผลักดันร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนไทย-ซาอุดีฯ สร้างโอกาสในการการค้าและการลงทุนผ่านการจับคู่ทางธุรกิจ ขยายการส่งออกสินค้าไทยไปยังซาอุดีฯ และส่งเสริมการไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนผ่านการท่องเที่ยว รวมทั้งเป็นโอกาสให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหาเรื่องปุ๋ยเคมีให้กับเกษตรกรไทย ท่ามกลางปัญหาขาดแคลนปุ๋ย ผ่านการแสวงหาพันธมิตรใหม่อย่างซาอุดีฯ อีกด้วย” นายธนกร กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น