ข่าวปนคน คนปนข่าว
** “หมอหนู” แฉขบวนการค้าสารพิษเกษตรล็อบบี้ยัดไส้วาระทบทวนแบน จับได้แจ้ง “ลุงตู่” ไล่ทัน สั่ง “สุริยะ” ถอนทันที!!
เผลอเป็นไม่ได้จริงๆ สำหรับขบวนการค้าสารพิษภาคเกษตรที่มีความพยายามจะขอให้รัฐบาลทบทวน ยกเลิกการใช้ “พาราควอต-คลอร์ไพริฟอส” สารพิษอันตรายที่สร้างผลกระทบต่อชีวิตเกษตรกรและประชาชนมาช้านาน ซึ่งแน่นอนว่า คำสั่งยกเลิกใช้สารพิษดังกล่าว ทำให้ธุรกิจการค้าสารพิษ สูญเสียผลประโยชน์มหาศาล
มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) คณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่มี “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาทบทวนการยกเลิกการใช้สารเคมี พาราควอต และคลอร์ไพริฟอส โดย ชมรมคนรักแม่กลอง ซึ่งเรียกร้องให้มีการทบทวนมาตลอด และเรียกร้องให้กลับมาใช้สารพิษ 2 ตัวนี้ได้ ผลักดันผ่านกระทรวงอุตสาหกรรม จนเข้าสู่วาระการประชุมได้
เรื่องนี้ปิดไม่ลับ พอ “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ทราบเรื่อง ก็ได้แจ้งให้ “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ของพรรคภูมิใจไทย ตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะ “มนัญญา” และ พรรคภูมิใจไทย สู้เรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น และแจ้ง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี ทราบว่า มีความพยายามจะให้การพิจารณาผ่านวาระนี้ ในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย เพื่อให้มีการนำสารพิษ 2 ตัว ที่ยกเลิกไปแล้ว กลับมาใช้อีก ซึ่งจะเป็นอันตรายกับเกษตรกร และประชาชนได้อีก
เดชะบุญ หลังจากได้รับแจ้งจาก “มนัญญา” แล้ว “ลุงตู่” นายกรัฐมนตรี ก็ไม่เอาด้วย จึงได้สั่งการให้ “สุริยะ” ในฐานะประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย ถอนวาระการพิจารณาทบทวนยกเลิกมติการใช้ พาราควอต และ คลอร์ไพริฟอส ออกไป พร้อมกับสั่งเข้ม “ห้าม” นำกลับมาเข้าที่ประชุมอีก
งานนี้หมูกำลังจะหาม เกือบปิดดีลกันได้อยู่แล้วเชียว ดีที่ “หมอหนู” จับได้ ส่ง “มนันญา” ชง “ลุงตู่” ห้ามได้ทัน ไม่งั้นมีหวังสารพิษกลับมามีชีวิตใหม่... ส่งให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร กลับไปอยู่ในวังวน “ตกนรกทั้งเป็น” เหมือนเดิม ใครที่จะได้ประโยชน์จากขบวนการค้าสารพิษ ก็รู้ๆ กัน ช่างไม่สำนึก
ไหนๆ ก็ไหนๆ เรื่องนี้ “ลุงตู่” ไม่ควรหยุดอยู่แค่สั่ง “สุริยะ” ถอนวาระ หรือห้ามทบทวน แต่ควรสั่งตั้งกรรมการสอบ จัดให้หนัก ใครเอี่ยวมีผลประโยชน์สอยกราวรูดไปเลยลุง !!
**“สร้างอนาคตไทย” เตรียมพร้อมเลือกตั้งเต็มสูบ ขอเวลา 1 เดือน เปิดตัว “สมคิด” แคนดิเดตนายกฯ
หลังจาก“สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” อดีตรองนายกรัฐมนตรี รับเชิญให้มาปาฐกถาพิเศษ ปิดหลักสูตรผู้นำ-นำการเปลี่ยนแปลง (LFC) รุ่น 12 ซึ่งจัดโดยมูลนิธิสัมมาชีพ ที่โรงแรมรามา การ์เด้นส์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา
เป็นการออกมาบรรยาย แสดงความเห็นในเชิงวิชาการ ให้ความรู้ด้านการเมืองและเศรษฐกิจ เป็นครั้งแรกในรอบสองปี นับตั้งแต่พ้นจากตำแหน่งรองนายกฯ... แม้จะไม่ตอบคำถามเรื่องจะรับเป็น “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” ของพรรคสร้างอนาคตไทย ที่มี “อุตตม สาวนายน” อดีต รมว.คลัง และ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” อดีต รมว.พลังงาน เป็นแกนนำก่อตั้งพรรค หรือไม่ ... แต่ก็เป็นที่รู้กันว่า “สมคิด-อุตตม-สนธิรัตน์” ลงเรือลำเดียวกันแล้ว ไม่มีแยกจากกัน
“พรรคสร้างอนาคตไทย” เป็นพรรคใหม่ที่เอาแน่ !!
อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมา แกนนำพรรคก็ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหา ข้อเสนอแนะจากประชาชน ผู้นำชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อมาจัดทำนโยบายพรรค และมีการเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ของพรรค ในบางพื้นที่บ้างแล้ว
ล่าสุด เมื่อเช้าวานนี้ (17 พ.ย.) “สร้างอนาคตไทย” ได้จัดพิธีทำบุญ ณ ที่ทำการพรรค ย่าน ถ.ศรีนครินทร์ นิมนต์ “สมเด็จพระมหาธีราจารย์” เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร เป็นประธาน เจริญพระพุทธมนต์
จากนั้น ในช่วงบ่าย ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อจัดโครงสร้าง วางตัวบุคคล เตรียมพร้อมสู่สนามเลือกตั้งเต็มสูบ... มีการตั้ง “คณะกรรมการนโยบายพรรค” 10 คน ประกอบด้วย...กำพล ปัญญาโกเมศ, สันติ กีระนันทน์, นริศ เชยกลิ่น, วิรัช วิฑูรย์เธียร, บุญส่ง ชเลธร, ทิพย์พาพร ตันติสุนทร, จรุง เมืองชนะ, โอฬาร วีระนนท์, อาสา วัฒนญานกุล และ แก้ว สังข์ชู
พร้อมกันนี้ ก็มีการตั้ง “ที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบาย” อีก 7 คน ได้แก่ อุตตม, สนธิรัตน์, สุพล ฟองงาม, นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ, วิเชียร ชวลิต, สุรนันทน์ เวชชาชีวะ และ วัชระ กรรณิการ์
“คณะกรรมการนโยบายพรรค” จะเป็นเสมือนเวทีรวบรวมชุดความคิดของทุกคนในพรรค เชื่อมโยงกับทุกภาคส่วน ทั้งผู้ประกอบการ สังคมภายนอก ระดมสมองให้ตกผลึกออกมาเป็นนโยบายของพรรคอย่างเป็นรูปธรรม แบบทำได้ทันที
“สนธิรัตน์” บอกว่า การจะเข้าสู่สนามเลือกตั้ง พรรคต้องพร้อมใน 3 ส่วน คือ นโยบาย, การคัดเลือกบุคลากร และการรณรงค์หาเสียงในพื้นที่
ขณะนี้พรรคได้ทำคาราวานเพื่อพบปะประชาชนแต่ละภาคทั่วประเทศ และจะทยอยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในแต่ละพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยปัญหาที่พบในขณะนี้ คือ ในการจัดสรรผู้สมัคร ส.ส.เริ่มมีปัญหาทับซ้อนในแต่ละพื้นที่ เพราะมีผู้ที่สนใจเข้ามาร่วมงานกับพรรคจำนวนมาก จำเป็นต้องคัดผู้สมัครที่ดีที่สุดมาให้ประชาชนเลือก
ส่วนตำแหน่งที่สำคัญที่ทุกคนรอความชัดเจน คือ “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” นั้น “สนธิรัตน์” บอกว่า จะเชิญ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” แน่นอน เพียงแต่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการพูดคุย นำข้อมูลที่ “สมคิด” ได้ปาฐกถา มากลั่นกรอง ตกผลึกเป็นนโยบายพรรค และรอเวลาเหมาะสมที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ...
ขอเวลาอีก 1 เดือนเท่านั้น!!
จุดเด่นของพรรคอีกประการที่ต้องสื่อสารออกไปให้สังคมได้รับรู้ คือ จุดยืนของพรรคที่ไม่แบ่งขั้ว แบ่งฝ่าย เพราะเราต้องการเข้าไปแก้ไขปัญหา ให้ประเทศมีทางออก เราจะไม่เป็นปฏิปักษ์กับใคร ดังนั้น นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยในอนาคต ต้องมาจากพรรคสร้างอนาคตไทย...
ส่วนที่มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ การปาฐกถาของ “สมคิด” พร้อมแนะนำให้กลับไปเลี้ยงหลานนั้น “อุตตม” มองว่าเป็นแค่ความเห็นในเชิงสีสัน ...พร้อมอธิบายแบบบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น ว่า ที่ผ่านมา “สมคิด” ก็ทำงานไป เลี้ยงหลานไปพร้อมกันอยู่แล้ว เพราะเป็นคนมีความสามารถ ทำได้หลายอย่าง
ก็ต้องติดตามดูความเติบโตของพรรคการเมืองใหม่อย่าง “พรรคสร้างอนาคตไทย” กันต่อไป