เมื่อวันที่ 8 พ.ค.น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ หรือ จิ๊บ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 16 ได้ให้สัมภาษณ์ทาง
FM 96.5 รายการ ห้องรับแขก ประเด็น สตรี 2 ใน 6 จาก ผู้สมัคร 31 คน มีแนวคิดอย่างไร โดย น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า วันนี้สังคมเริ่มเปิดกว้างมากขึ้น ตนได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากการเป็นผู้สมัครผู้หญิง แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังเปิดไม่สุด คงต้องใช้ความพยายามอีกสักนิด ซึ่งในฐานะนักการเมืองหน้าใหม่ ตนเชื่อมั่นว่า ความรู้ ความสามารถของตนไม่เป็นรองใคร ถ้าจะเป็นรองก็คงเรื่องเงินงบประมาณในการหาเสียงมากกว่า
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวต่อว่า ตนไปลงพื้นที่ตลาดได้รับการตอบรับที่ดีมากจากบรรดาแม่ค้า ที่ชื่นชอบนโยบายความปลอดภัยทางด้านชีวิต ทรัพย์สินและสุขภาพ ซึ่งกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร 64,000 ตัวจะต้องใช้ได้ทุกกล้อง เราจะจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ที่เป็นศูนย์กลางเรียกดูข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปติดต่อ ส.น.หรือสำนักงานเขต แล้วรออีกสามวันถึงจะได้ภาพซึ่งถือว่าช้าเกินไป ศูนย์นี้จะทำให้กล้องทุกตัวใช้ได้ และเก็บสถิติ ประวัติหน้าตาคนร้าย และแจ้งเตือนเมื่อคนร้ายปรากฏในที่อื่น ๆ นี่คือนโยบายที่เขารู้สึกว่า กทม.จะเป็นเมืองที่ปลอดภัยมากขึ้น
"กลุ่มเป้าหมายของจิ๊บ คือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมถึง สตรี กลุ่ม LGBTQ ผู้สูงอายุ และคนด้อยโอกาส ซึ่งมีถึง 50 % ของชาว กทม.จิ๊บเชื่อว่า คนเหล่านี้เบื่อการเมืองที่มีแต่การสาดโคลนใส่กัน พวกเขาต้องการน้ำสะอาดที่เข้าไปชะล้างให้เกิดการแก้ปัญหาได้จริง ๆ"
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวต่อว่า อีกปัญหาหนึ่งที่สำคัญคือ การล่วงละเมิดทางเพศ เมื่อกระบวนการยุติธรรมล่าช้า เหยื่อจะเกิดความเสียหายไปเรื่อย ๆ ควาามอับอายเกิดขึ้นกับเหยื่อ แต่ไม่เกิดขึ้นกับผู้กระทำ อย่างเช่น คนไร้บ้านที่เป็นเพศหญิง อาศัยท้องถนนเป็นที่หลับนอน วันดีคืนดีเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นมา ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ นโยบายพวกนี้คือส่วนเล็กๆ ของเมือง ปัญหาใหญ่ๆเช่น น้ำท่วม รถติด ตนไม่พูด เพราะเป็นหน้าที่ของผู้ว่า กทม.ที่ต้องแก้ปัญหาอยู่แล้ว กรุงเทพฯจะดี จะแข็งแรงได้อย่างไร ถ้าเราไม่ใส่ใจเรื่องเล็ก ๆ
"หากจิ๊บไม่ได้รับเลือกจากประชาชนให้เข้าไปทำหน้าที่ผู้ว่า กทม.จิ๊บก็ยินดีที่จะนำนโยบายของจิ๊บไปเสนอให้กับผู้ว่า กทม.คนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนก็ตาม เพราะจิ๊บอยากให้นโยบายที่มีประโยชน์กับประชาชนได้ถูกเอาไปใช้"