วันนี้(9 พ.ค.)น.ส.สายรุ้ง ปิ่นโมรา ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ทุก ๆ วันที่ตนลงพื้นที่หาเสียงและพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขตคลองสานก็จะพบเด็ก ๆ วิ่งเล่นไปมาในชุมชนเพราะยังเป็นช่วงปิดเทอม ทำให้ตนนึกถึงข่าวปัญหาการเรียนออนไลน์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่ภาครัฐผลักภาระค่าใช้จ่ายในการเรียนออนไลน์ให้กับคุณครู นักเรียน และผู้ปกครอง ไม่ว่าจะเป็นค่าอุปกรณ์การเรียนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอินเตอร์เน็ต ค่าเทอมและค่าบำรุงการศึกษา ค่าไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการซ้ำเติมปัญหาในครอบครัวที่นอกจากจะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจแล้วยังต้องมาแบกรับค่าใช้จ่ายของบุตรหลานเพิ่มขึ้นด้วย จึงเป็นเหตุให้นักเรียนหลายคนหลุดออกจากระบบการศึกษา และอีกหลายคนเป็นโรคซึมเศร้า โรคเครียด และเริ่มมีปัญหาสุขภาพตามมา ทำให้กระบวนพัฒนาเยาวชนเพื่อให้เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพสะดุดหยุดลงไปด้วย
น.ส.สายรุ้ง กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยเห็นความสำคัญของการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนในทุกชุมชนของกรุงเทพฯที่จะกลายมาเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนสังคมต่อไป จึงมีนโยบาย “โรงเรียนดีใกล้บ้าน” ที่ต้องการเห็นเด็กๆทุกคนได้รับการศึกษาด้วยมาตรฐานเดียวกัน เพราะเราเชื่อว่าโรงเรียนที่ดีที่สุดคือโรงเรียนใกล้บ้าน ดังนั้น หน้าที่ของ กทม.คือพัฒนาโรงเรียนในสังกัดที่มีมากกว่า 437 แห่งให้มีคุณภาพ มีมาตรฐานทัดเทียมกัน มีการเรียนการสอนภาษาที่ 2 โดยเจ้าของภาษา การให้บริการอินเตอร์เน็ตฟรีสำหรับนักเรียนและชุมชนรอบข้างเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ มีการผสมผสานการเรียนออนไลน์และการเรียนที่โรงเรียนโดยไม่สร้างภาระให้ผู้ปกครอง และจะช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครองในการดูแลบุตรหลานให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ และเป็นผู้ใหญ่ที่ดีของสังคม
“ เด็กและเยาวชนคืออนาคตของชาติที่พวกเราต้องช่วยกันบ่มเพาะให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ การผลักภาระทางการศึกษาให้เด็กและผู้ปกครอง นอกจากจะไม่เป็นการสนับสนุนการเข้าถึงบริการทางการศึกษาซึ่งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญแล้ว ยังเป็นการผลักเด็กบางส่วนออกจากระบบการศึกษาเพราะภาระค่าใช้จ่ายที่มากเกินรับไหว และสร้างปัญหาสุขภาพให้แก่ผู้เรียนในระยะยาว ซึ่งพวกเราเห็นว่า การใช้งบประมาณพัฒนาสถานศึกษาให้รองรับการเปลี่ยนแปลง มีอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือที่พร้อมและทันสมัย มีมาตรฐานเดียวกัน และที่สำคัญอยู่ในชุมชนหรือใกล้บ้าน น่าจะเป็นทางออกที่ช่วยลดภาระผู้เรียน และลดภาระผู้ปกครอง เพื่อให้ทุกคนยังสามารถยิ้มได้ในสถานการณ์แบบนี้ “ น.ส.สายรุ้ง กล่าว