“อนุทิน” เปิดงาน “บูรพารวมกัญ มหัศจรรย์กัญชา” เขตสุขภาพที่ 6 จว.จันทบุรี สุดบูม !!! ผู้เข้าร่วมงาน 3 วัน 67,107 คน มูลค่าจำหน่ายสินค้าที่มีส่วนผสม กัญชา กัญชง ทั้งหมด 710,000 บาท
วันนี้ (8 พ.ค.) ที่ จ.จันทบุรี นพ.อภิรักษ์ พิศุทธ์อาภรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) จันทบุรี เปิดเผยว่า หลังจากที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ได้เป็นประธานในพิธีเปิดประชุมวิชาการทางการแพทย์ เขตสุขภาพที่ 6 “บูรพารวมกัญ มหัศจรรย์กัญชา” ที่จัดระหว่างวันที่ 6-8 พฤษภาคม ที่ อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาลัยราชภัฏรำไพพรรณี จ.จันทบุรี ปรากฏว่า ได้สร้างคุณูปการเกี่ยวกับการนำกัญชามาแปรรูปผลิตภัณฑ์กัญชาทางด้านวิชาการ ทั้งมิติที่เป็นยารักษาโรคในรูปแบบต่างๆ และในมิติของการนำไปเป็นส่วนผสมของอาหารหรือเครื่องดื่ม
นพ.อภิรักษ์ กล่าวว่า ตลอด 3 วันที่ผ่านมา มีหน่วยงานของ สสจ.ที่อยู่ในเขตสุขภาพที่ 6 นำความก้าวหน้าทางด้านวิชาการกัญชา กัญชง มานำเสนอผ่านการเสวนาทางวิชาการบนเวทีและการเปิดบูธแสดง ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีนำผลิตภัณฑ์กัญชามาประยุกต์ใช้เป็นยารักษาโรคจำนวนมาก เห็นได้จากสิ่งที่อาจารย์เดชา หรือ นายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิขวัญข้าว นำความรู้มาเล่าสู่บนเวทีและเผยแพร่ไปตามบูธต่างๆ ซึ่งประชาชนที่เข้ามาร่วมงานมารับฟังได้รับความรู้ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ สามารถนำไปต่อยอดในกระบวนการเรียนรู้ต่างๆ ของวงการแพทย์และผู้ประกอบการที่สนใจนำผลิตภัณฑ์กัญชาไปทำเป็นยารักษาโรค และอีกกลุ่มหนึ่งนำไปเป็นส่วนประกอบของอาหารและเครื่องดื่ม เห็นได้จากผลิตภัณฑ์ที่นำมาแสดงและจำหน่าย มีทั้งผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ครีมทาผิว รวมทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม
“ทั้งหมดนี้ หลังวันที่ 9 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป จะเกิดกระแสการเปลี่ยนแปลง ประเทศไทยจะเกิดการนำความรู้ทางวิชาการกัญชา และกัญชงเข้ามาสู่วงการแพทย์แผนปัจจุบัน มีการต่อยอดจากการประชุมทางวิชาการ ซึ่งประชาชนจะนำความรู้ทางวิชาการและการนำผลิตภัณฑ์กัญชาไปประยุกต์ใช้ในวงการอาหาร เครื่องดื่มเพิ่มขึ้น จะเป็นระบบมีแบบแผนที่ดี ซึ่งภาครัฐกำลังออกข้อระเบียบให้เป็นรูปธรรม ต้องยอมรับว่า สารสกัดจากกัญชาสามารถรักษาโรคลมชัก หรืออาการปวดปลายเส้นประสาทบริเวณส่วนหุ้มปลายประสาท รวมทั้งกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็ง หากนำไปใช้จะมีอาการที่ดีขึ้น เช่น กินได้นอนหลับ ส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยโรคอื่นๆ ที่กำลังมีการศึกษาวิจัยเรื่องการนำมารักษาโรคพากินสัน จากการนำมาใช้พบว่ามีอาการลดลง เมื่อมีการปลดล็อคแล้วจะทำให้ผู้สนใจใกัญชาหรือปราชญ์ชาวบ้านที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา อย่างผิดกฎหมายในอดีต จะนำองค์ความรู้เหล่านี้ที่เคยอยู่อย่างผิดกฎหมาย นำมาใช้อย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ เช่น ใช้เป็นยานอนหลับ อย่างไรก็ตาม ยาที่มีส่วนผสมของกัญชาต้องอยู่ในสาระบบของวงการแพทย์ปัจจุบัน ที่ต้องมีการสั่งจ่าย วิธีการใช้ วิธีการรักษา อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการของแพทย์ ส่วนสารสกัดจากกัญชา ยังถือว่าเป็นสารเสพติด ถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมายอยู่” นพ.อภิรักษ กล่าว
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) จันทบุรี กล่าวว่า สำหรับมิติเรื่องการนำผลิตภัณฑ์กัญชา กัญชง ไปเป็นส่วนประกอบของอาหารและเครื่องดื่มนั้น ส่วนใหญ่จะนำใบกัญชาไปเป็นส่วนผสมของอาหารหรือเครื่องดื่มซึ่งจะเป็นการกระตุ้น ความอยากกินมากกว่า แต่ส่วนใหญ่ใช้เพียงส่วนน้อย แต่หากใช้มากเกินไปอาจเกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น อาการเคลิ้ม หรือ ปวดหัว ปากแห้ง มึนหัว โดยเฉพาะผู้กินใบกัญชาจำนวนมาก ส่วนเรื่องการสูบ ยังเป็นสิ่งต้องห้าม เป็นการกระทำผิดกฎหมาย หากจะมองมูลค่าเชิงพาณิย์ของผลิตภัณฑ์กัญชา ด้านวิชาการที่นำความรู้มาต่อยอดใช้เป็นยารักษาโรค หรือทำเป็นส่วนผสมในอาหารและเครื่องดื่ม ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีมูลค่าเพิ่มในเชิงพาณิชย์มากน้อยเพียงใด เพราะคงต้องมองที่ความต้องการของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์กัญชา หลังจากวันที่ 9 มิถุนายน จะมีการปลดล็อก ทั้งนี้ สสจ.แต่ละจังหวัดจะต้องนำไปต่อยอด ขยายความรู้ ขยายผลิตภัณฑ์ของกัญชา ทั้งในด้านการวิจัย หรือส่งเสริมในเรื่องการนำกัญชา และกัญชงมาใช้เชิงพาณิชย์ รวมทั้งสร้างเป็นองค์ความรู้ใหม่ๆ ในแต่ละชุมชนของแต่ละจังหวัด
จากการจัดงานประชุมวิชาการกัญชาทางการแพทย์ พบว่า มีผู้ร่วมงานรวมทั้ง 3 วัน จำนวน 67,107 คน มูลค่าการจำหน่ายสินค้าที่มีส่วนผสม กัญชา กัญชง ทั้งหมด 710,000 บาท และ คลินิกกัญชาทางการแพทย์ จำนวน 599 ราย มีการจ่ายยากัญชา 1,526 ขวด ยาแก้ลมแก้เส้น 6,060 แคปซูล ยาศุไสยาสน์ 3,360 แคปซูล ยาทำลายพระสุเมรุ 3,790 แคปซูล สารสกัดน้ำมันกัญชา สูตร THC 21 ขวด
