โฆษกพรรคกล้า ชี้ แนวโน้มคนจนเพิ่มสูงขึ้น มองขีดเส้นแก้ปัญหายากจนภายใน 30 ก.ย. ทำยาก! ต้องทำกลุ่มบัตรคนจนให้รายได้สูงกว่าปีละ 1 แสน ตั้งข้อสังเกตข้อมูลสับสน ระบุ ทำไม่ได้กระทบความเชื่อมั่นรัฐ
วันนี้ (8 พ.ค.) นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลขีดเส้นแก้ปัญหาความยากจนภายใน 30 ก.ย. 2565 ว่า ข้อมูลที่โฆษกรัฐบาลแถลง บอกว่า ครัวเรือนที่เข้าข่ายยากจน 647,139 ครัวเรือน ตกประมาณ 2 ล้านคน สวนทางกับข้อมูลในระบบบัตรคนจน (บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) ที่สูงถึง 13.45 ล้านคน ซึ่งกระทรวงการคลังเตรียมอัดงบอีก 60,000 ล้านบาท ในร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2566 เก็บตกคนส่วนที่เหลือ คาดว่า จะสูงถึง 17 ล้านคน ภายในปีนี้ นั่นหมายความว่า คนจนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น สวนทางกับความเป็นไปได้ที่จะแก้ไขปัญหาความยากจนภายใน 5 เดือนนี้
นายแสนยากรณ์ กล่าวอีกว่า สมัยรัฐบาล คสช. เคยสัญญามารอบนึงแล้วว่า ปี 2561 คนจนหมดประเทศ มาครั้งนี้ยากกว่าเก่า เพราะโควิดทำช้ำมา 2 ปี คนตกงานเพิ่ม นายจ้างไม่ไหว รายได้ไม่เข้า แบกภาระหนี้สินท่วมหัว งานนี้ถ้าสัญญาแล้วทำไม่ได้อีก กระทบต่อความเชื่อมั่นในรัฐบาลแน่นอน
“หากจะแก้ไขปัญหาความยากจนให้ได้ภายใน 5 เดือน นั่นหมายความว่า หลังจากเดือน ก.ย. ต้องทำให้คนจนมีรายได้มากกว่า 100,000 บาทต่อปี จะต้องไม่มีคนจนเข้าโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีก แต่มองแล้วเป็นไปได้ยาก เพราะประชาชนจำนวนมากยังรอคอยความช่วยเหลือจากรัฐ ยังฟื้นตัวเองไม่ไหว” นายแสนยากรณ์ ระบุ