หน.พลังธรรมใหม่ คาด กมธ.กม.ลูก พิจารณาสูตรคำนวณ ส.ส. วันที่ 11 พฤษภาคม พร้อมสู้ ดันสูตรหาร 500 เชื่อ กมธ.เสียงข้างมากสนับสนุน ชี้ แนวทางที่ถูกเห็นชอบ ปลายทางคือส่งศาล รธน.ตีความ
วันนี้ (3 พ.ค.) นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ... รัฐสภา กล่าวถึงการประชุม กมธ. วันที่ 5 พฤษภาคม ว่า ที่ประชุมจะพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ให้แล้วเสร็จก่อน เบื้องต้นยังค้างอยู่ 4 มาตรา ส่วนตัวคิดว่าคงใช้เวลาพอสมควร และไม่ทันที่จะพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่..) รัฐสภา ที่มีประเด็นการพิจารณาสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และคาดว่าจะได้พิจารณา วันที่ 11 พฤษภาคม
นพ.ระวี กล่าวด้วยว่า ส่วนประเด็นสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่มี กมธ.ให้ความเห็นว่าต้องใช้ตัวเลข 100 หาร เพื่อหาคะแนนเฉลี่ยของ ส.ส.พึงมี 1 คน ส่วนตัวมองว่าเป็นความเห็นของ กมธ. 2-3 คนเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่สนับสนุนให้ใช้ตัวเลข 500 หาร อย่างไรก็ดี ในรายละเอียดนั้น ตนฐานะผู้เสนอหลักจะขอไปต่อสู้ในชั้น กมธ.
เมื่อถามถึงกรณีการใช้ 500 หาร อาจมีคนยื่นตีความต่อศาลรัฐธรรมนูญ นพ.ระวี กล่าวว่า ไม่ว่าแนวทางที่ถูกเห็นชอบ จะเป็นหารด้วย จำนวน 100 หรือ 500 ต้องถึงศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมด เนื่องจากขัดต่อเจตนารมณ์และบทหลักของรัฐธรรมนูญ กล่าวคือ หากหารด้วยจำนวน 100 จะขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญว่าด้วย ส.ส.พึงมี รวมถึง มาตรา 93 และมาตรา 94 ส่วนกรณีหารด้วยจำนวน 500 แม้จะขัดกับมาตรา 91 แต่สอดคล้องกับมาตรา 93 มาตรา 94 และสอดคล้องกับเจตนารมณ์ ส.ส.พึงมี ดังนั้น ไม่ว่าสูตรคำนวณจะออกมาอย่างไร ล้วนไม่ตรงกับข้อกฎหมาย ต้องถูกส่งไปศาลรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามถึงกรณีการส่งตีความรัฐธรรมนูญอาจส่งผลให้ยื้อเวลาใช้กฎหมายลูก และเป็นปัญหากับรัฐบาลได้ นพ.ระวี กล่าวว่า ไม่เกี่ยว เพราะกฎหมายลูกเป็นเรื่องของรัฐสภา ที่กำหนดกรอบทำงานไว้แล้ว คือ 6 เดือน ดังนั้น กฎหมายลูกเดินไปปกติ ส่วนปัญหาของรัฐบาลที่จะมีประเด็นต่อการยุบสภา หรือสถานภาพรัฐบาล จะเป็นเรื่องอื่น เช่น ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ, พระราชกำหนดกู้เงิน หรือ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ