นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกหน่วยงานร่วมดูแลเปิดประเทศเต็มรูปแบบวันแรกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คมนาคมรายงานผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรเกือบทั้งหมดเป็นผู้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์หรือมีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบก่อนเดินทาง เผยแนวโน้มนักท่องเที่ยวเพิ่มต่อเนื่อง กพท.ประเมินปริมาณเที่ยวบินปลายปีนี้เข้าใกล้ช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด
วันนี้ (2 พ.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ติดตามและสนับสนุนการดำเนินงานของหน่วยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้การเดินทางเข้าราชอาณาจักร ซึ่งเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2565 ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ กระทรวงคมนาคมได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบถึงการดูแลผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรทางอากาศยานในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ในส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิซึ่งเป็นท่าอากาศยานหลักที่มีการเดินทางเข้าประเทศในขณะนี้ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยพบเพียงจุดบริการบางจุดที่เป็นคอขวดในช่วงมีเที่ยวบินหนาแน่น เช่น จุดตรวจ Thailand Pass ซึ่งบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) จะได้ประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องจัดเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ประจำจุด เปิดเคาน์เตอร์บริการเพิ่ม และเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลให้ผู้โดยสารมีการเว้นระยะห่างระหว่างรอคิวตรวจ Thailand Pass ต่อไป ส่วนบริเวณโถงผู้โดยสารขาเข้าจะไม่มีปัญหาความความแออัด หลังจากยกเลิกข้อกำหนด Test&Go ส่วนการนัดพบระหว่างผู้โดยสารกับโรงแรมที่พักจะมีเฉพาะผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือรับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์และไม่มีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบ 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งมีจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับผู้โดยสารทั้งหมด
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม รายงานว่า ท่าอากาศยานที่มีเที่ยวบินระหว่างประเทศเข้ามามากนับตั้งแต่รัฐบาลทยอยเปิดประเทศ คือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งในส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันที่ 1 พ.ค. มีผู้โดยสารจากต่างประเทศเดินทางเข้า 16,868 คน จาก 96 เที่ยวบิน โดยเกือบทั้งหมดเป็นผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือไม่ได้รับวัคซีน/รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์แต่มีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบ 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง กลุ่มนี้สามารถเดินทางเข้าประเทศได้ตามปกติ ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีน/ได้รับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ และไม่มีผลตรวจ RT-PCR 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางมีเพียง 11 คน ซึ่งได้เข้าระบบ AQ ตามข้อกำหนดของทางการต่อไป
ส่วนท่าอากาศยานภูเก็ต วันที่ 1 พ.ค. จะมีเที่ยวบินระหว่างประเทศขาเข้า 27 เที่ยวบิน ผู้โดยสาร 4,400 คน โดยในจำนวนนี้เป็นกลุ่มที่ต้องเข้าระบบ AQ จำนวน 18 คน ส่วนที่เหลือเข้าประเทศได้ตามระบบปกติ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมรายงานว่าแนวโน้มของผู้เดินทางจากต่างประเทศเข้าประเทศจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังยกเลิก Test&Go โดยข้อมูลของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ระบุว่าหลังจากการทยอยเปิดประเทศจนถึงขณะนี้มีเที่ยวบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศของทุกท่าอากาศยานรวมกันอยู่ที่ประมาณ 44,500 เที่ยวบินต่อเดือน เป็นเที่ยวบินในประเทศ 33,500 เที่ยวบิน และระหว่างประเทศ 11,000 เที่ยวบิน พร้อมกับประเมินว่าในปลายปี 2565 จะเพิ่มเป็น 83,500 เที่ยวต่อเดือน เป็นเที่ยวบินในประเทศ 53,000 เที่ยวต่อเดือน เที่ยวบินระหว่างประเทศ 30,000 เที่ยวบิน ซึ่งเข้าใกล้ปริมาณเที่ยวบินในช่วงปี 2562ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
“นายกรัฐมนตรีรับทราบการดำเนินงานของหน่วยต่างๆ และให้การสนับสนุนในกรณีที่เกิดปัญหาข้อติดขัด พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ร่วมกันเตรียมการทั้งในส่วนของระบบงานและกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อรองรับการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบให้เป็นไปอย่างราบรื่น” น.ส.ไตรศุลี กล่าว