“ยุทธพงศ์” เผย คุยกลุ่ม 16 ส.ส.ถกประเด็นซักฟอก ไม่หวั่นข้อสอบรั่ว เชื่อประเด็นท่อส่งน้ำอีอีซีผ่านทำแตกหัก กั๊ก “บิ๊กป้อม” ขัดตาทัพหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง บอกไม่เกี่ยว พท.ใครเป็นนายกฯก็เป็นไป มีหน้าที่ล้ม รบ.ประยุทธ์
วันนี้ (29 เม.ย.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม ฐานะรองหัวหน้าพรรค กล่าวถึงกรณีปรากฏภาพนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) และตนเอง ร่วมรับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ร่วมกับ นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 ส.ส. นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ (ศม.) และ นายดล เหตระกูล ส.ส.บัญชรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ว่า พรรคเล็กได้มาสอบถามความพร้อมของพรรคเพื่อไทย ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยตนยืนยันว่า มีความพร้อม และก่อนที่จะไปกินข้าวเย็น พรรคเพื่อไทยได้มีการประชุมกัน และได้พูดคุยกันถึงเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า มีความพร้อม โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ จากประเทศจีน ที่ไม่มีเครื่องยนต์ และเรื่องการลงนามในสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก และเรื่องร่างสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ซึ่งอยากรู้ว่าพรรคการเมืองบางพรรคจะยกมือกันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจกันอย่างไร
ส่วนการพูดคุยกับพรรคเล็ก และมี นายพิเชษฐ ซึ่งเป็น ส.ส.พรรค พปชร.จะทำให้ข้อสอบรั่วหรือไม่ นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ข้อสอบจะรั่วได้อย่างไร ในเมื่อยังไม่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยืนยันว่า เมื่อเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งนี้ การพูดคุยดังกล่าวในทางการเมือง คงไม่มีการเปิดเผยข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งหมด มีเพียงการพูดคุยประเด็นเรื่องการลงนามในสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก เพราะถือเป็นเงื่อนไขสำคัญหลัก และเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่เคยอภิปราย ซึ่ง นายพิเชษฐ ยืนยันว่า ถ้าเรื่องการลงนามในสัญญาโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกผ่าน จะทำให้เป็นประเด็นแตกหัก เพราะเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำ และการต่อสัญญาสัมปทานสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวฝ่ายค้านเคยอภิปรายไปแล้ว
ส่วนการพูดคุยดังกล่าวได้มีการพูดคุยถึงสถานการณ์ทางการเมือง ว่า กลุ่ม 16 ส.ส.จะยังสนับสนุนรัฐบาลต่อไปหรือไม่ในอนาคต นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในเรื่องนี้ พูดคุยกันแต่เพียงแต่เรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เรื่องการยกมือหรือไม่ยกมือสนับสนุน แต่หากไม่ยกมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ก็ต้องไป และหากจะถามว่าวันนี้สนับสนุนหรือไม่สนับสนุนก็อยู่ที่ตอนยกมือ
เมื่อถามว่า มีข้อเสนอว่า หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองจะให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาเป็นนายกฯขัดตาทัพ ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของรัฐบาล พรรคเพื่อไทยมองอย่างไร นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน มีหน้าที่เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจและการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ต้องโชว์ผลงานให้ประชาชนเห็นว่าต้องโค่น พล.อ.ประยุทธ์ ให้ได้ ส่วนใครจะเป็นนายกฯก็เป็นขั้นตอนทางกฎหมาย ล้มก็ต้องว่ากันไป แต่พรรคเพื่อไทยมีหน้าที่ล้มรัฐบาล ล้มพล.อ.ประยุทธ์ ส่วนช่วงเวลาที่เหลือ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ รับได้หรือไม่ นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร จะเป็นนายกฯได้อย่างไร และยังไกลเกินไป เพราะตามรัฐธรรมนูญรายชื่อนายกฯต้องมาจากแต่ละบัญชีที่พรรคการเมืองเสนอ ส่วนหากจะเสนอนายกฯคนนอกนั้น ย้ำว่า ก็จะต้องมาจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองเช่นกัน และก็ต้องรอให้คนในบัญชีพรรคการเมืองไม่ผ่านก่อน จึงจะค่อยมาถามกันเรื่องนี้
