กมธ.วิสามัญ กยศ. มีมติให้คงดอกเบี้ย ค่าปรับ ผู้ค้ำประกัน ด้าน กมธ.เสียงข้างน้อยทั้ง พท.- ปช.- ภท. ค้านสุดตัวแม้แพ้ในชั้น กมธ. แต่ขอสงวนความเห็นสู้ต่อวาระ 3 ลั่น อย่ารีดเลือดกับปู
วันนี้ (27 เม.ย.) นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) แถลงว่า วันนี้ที่ประชุมคณะ กมธ.ได้พิจารณาประเด็นดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และผู้ค้ำประกัน กรณีการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา ซึ่งการลงมติของ กมธ. ปรากฏว่า ฝ่ายที่เห็นด้วยกับการให้มีดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และผู้ค้ำประกันกับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย มีจำนวน 13 เสียงเท่ากัน ทำให้ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะประธานคณะ กมธ.วิสามัญ ต้องลงมติชี้ขาด ซึ่ง นายสันติ เห็นด้วยกับการให้มีดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และผู้ค้ำประกัน ทำให้หลังจากนี้ กมธ.เสียงข้างน้อย ประกอบด้วย กมธ.จากพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ และพรรคภูมิใจไทย จะสงวนความเห็นไว้ในการอภิปราย วาระ 3 ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง โดยเราจะคัดค้านอย่างถึงที่สุดเพื่อความอยู่ดีกินดีของพี่น้องประชาชน และเมื่อมีการลงมติจะมีการแสดงรายชื่อ ว่าผู้แทนคนใดทรยศต่อประชาชนที่ได้รับความทุกข์
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ในฐานะ กมธ. กล่าวว่า จากการพิจารณาหลักกฎหมาย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย จึงเสนอกฎหมายว่าจะต้องไม่มีดอกเบี้ย แต่เมื่อเป็นหนี้จะต้องใช้หนี้ คือ เงินต้น เนื่องจากการสนับสนุนทางการศึกษาเป็นหน้าที่ของรัฐตามรัฐธรรมนูญกำหนด กรณีผู้ยากไร้จะต้องให้รัฐมีกองทุนเพื่อให้ได้รับการศึกษา และเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา รัฐต้องส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนมีความรู้ แม้ว่าปัจจุบันมีช่องทางที่รัฐจะช่วยเหลือ แต่เมื่อมีดอกเบี้ย เราคิดว่าจะเป็นภาระของนักศึกษา เพราะวันนี้ปัญหาที่พบ คือ ดอกเบี้ย เบี้ยปรับ มากกว่าเงินต้นจำนวนมาก คนกลุ่มนี้เป็นคนยากไร้ แต่จะต้องนำเงินมาให้รัฐบาล ดังนั้น เมื่อการพิจารณาวาระ 2 ในที่ประชุม กมธ.เป็นแบบนี้ การพิจารณาวาระ 3 ทั้ง 3 พรรคที่เห็นค้านคงแสดงความไม่เห็นด้วย
ขณะที่ นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะ กมธ. กล่าวว่า เรื่องการงดดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และผู้ค้ำประกัน เป็นนโยบายหลักของพรรค เราจะแก้กฎหมายนี้เพื่อให้ทุกคนมีโอกาสศึกษาเล่าเรียน ไม่ใช่รีดเลือดกับปู กฎหมายที่ออกมาต้องให้ประชาชนมีความสุข อยู่เย็นเป็นสุข