วันนี้(27 เม.ย.)น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ หรือ จิ๊บ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 16 ลงพื้นที่สำนักงานเขตใน กทม. เพื่อรับฟังการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆในสำนักงานเขตถึงปัญหาในการทำงาน โดยเจ้าหน้าที่เทศกิจ เปิดเผยว่า ปัญหาผู้ค้า หาบเร่ แผงลอย ที่จะต้องผลักดันให้ออกจากทางเท้า ต้องใช้วิธีอะลุ่มอล่วยและการประชาสัมพันธ์ให้ทั่วถึง ทั้งนี้ยังพบปัญหารถมอเตอร์ไซค์ใช้ทางเท้าในการสัญจร ด้วยสภาพเมือง วิถีชีวิตของประชาชน จะมาปรับการใช้กฎหมายทันทีก็อาจจะเกิดการกระทบกระทั่งระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่โดยไม่จำเป็น เรื่องนี้ก็ถือว่าเจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความยากลำบาก ภาพลักษณ์ของเทศกิจจะดูไม่ดีในสายตาของประชาชน แต่ความจริงแล้วเทศกิจเพียงแค่ปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ที่ผ่านมาเทศกิจทำได้เพียงประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือให้ประชาชนเข้าใจเท่านั้น
โดย น.ส.ศศิกานต์ มองว่า การปฎิบัติงานกับกฎหมายบางอย่างมันไม่สอดคล้องกัน ในเรื่องอำนาจหน้าที่ อย่างเช่น เจ้าหน้าที่กวาดถนนก็ถือว่าเป็นงานที่มีความเสี่ยง อุปกรณ์เมื่อใช้ไปนาน ๆ โดยเฉพาะพื้นที่ ๆ มีขยะเยอะ ๆ คุณภาพของอุปกรณ์การกวาดก็จะลดน้อยลง จิ๊บต้องการพัฒนาอุปกรณ์ตรงนี้ ให้สามารถลดแรงในการกวาดขยะลงไปได้ ส่วนเจ้าหน้าที่เทศกิจก็มีปัญหาเรื่องอัตรากำลัง ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ หรือชั่วคราว ถือว่าขาดแคลน เพราะคนออกมากกว่าคนเข้า
นอกจากนี้ ยังพบว่า ปัญหาที่สำคัญที่สุดที่เจ้าหน้าที่ในสำนักงานเขตเห็นตรงกัน คือปัญหาอัตรากำลังไม่เพียงพอกับปริมาณงาน และการรวมศูนย์การตัดสินใจในการปฎิบัติงานบางเรื่อง ซึ่งส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อทั้งคุณภาพงาน และความรวดเร็วในการปฎิบัติงาน
"จิ๊บเชื่อว่า ปัญหาของ กทม.สามารถแก้ไขได้โดยการประสานงาน เช่น การแบ่งงานที่ยังซ้ำซ้อน หรือการรวมศูนย์ไว้ที่ใดที่หนึ่ง ทำให้ประสิทธิภาพงานทำได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นการประสานงานที่ดี การยุบรวมหน่วยงานซ้ำซ้อน การให้ความสำคัญกับบุคลากรทั้งในเรื่องตัวเนื้องาน ค่าตอบแทน รวมถึงสวัสดิการต่างๆของพนักงานในกทม.จะทำให้กทม.สามารถบริหารงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ สิ่งที่จิ๊บจะทำ หากได้รับโอกาสเข้ามาทำหน้าที่ ผู้ว่า กทม.ก็คือ การบริหารบุคลากรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ที่ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าบุคลากรภายในองค์กรเองยังแก้ไขไม่ได้ จะไปแก้ปัญหาภายนอกของประชาชนในกทม.ได้อย่างไร" น.ส.ศศิกานต์ กล่าว
ส่วนกรณีที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ระบุว่า การใช้งบของ กทม.มีการเปิดเผยรายละเอียดน้อย และปัญหาใหญ่คือ การใช้อำนาจที่ไม่ตรงไปตรงมา จนทำให้นักลงทุน นักธุรกิจ ประชาชนเดือดร้อนนั้น น.ส.ศศิกานต์ กล่าว่า ตนเห็นด้วยกับสิ่งที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันกล่าวมา และตนมองว่า การใช้งบประมาณใด ๆ ที่มาจากภาษีของประชาชน ต้องมีความชัดเจน ตรวจสอบได้ ไม่ใช่การหมกเม็ด เพราะการกระทำเช่นนี้ก็คือ การคอร์รัปชั่น ดังนั้น การใช้งบประมาณ กทม.ในยุคของตน จะต้องโปร่งใส ประชาชนทุกคนสามารถตรวจสอบได้จริง