“ส.ส.ธนภร” โต้ “เสรีพิศุทธ์” ไม่ได้ชิงลาออกจากรองหัวหน้าพรรค แต่ยื่นลาออกตั้งแต่ 18 เม.ย.แล้ว หลังถูกบีบให้ลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อให้นายทุนพรรคได้เป็นแทน ซัดหัวหน้าพรรคไม่ใช่ลูกผู้ชาย บังคับ ส.ส.-กก.บห.เซ็นใบลาออกไว้ล่วงหน้า ผิดรัฐธรรมนูญ ซ้ำกล่าวหาใส่ร้ายยักยอกค่าสมาชิกพรรค
วันนี้ (23 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. นางสาวธนภร โสมทองแดง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ตามที่พรรคเสรีรวมไทยได้จัดประชุมใหญ่สามัญในวันนี้ ตนไม่ได้เข้าร่วม เพราะได้ยื่นหนังสือลาออกในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยแล้ว แต่สงวนสิทธิ์ความเป็นสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2565 โดยยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง สำนักทะเบียน กกต.แล้ว อันมีผลทางกฎหมายสมบูรณ์แล้ว โดยส่งสำเนาให้พรรคทราบ ยืนยันว่า ไม่ได้ชิงลาออก อย่ามโน ในช่วงปี 2562 ภายหลังได้รายงานตัว เป็น ส.ส.ที่อาคารรัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรค ให้เจ้าหน้าที่ลงนามลายมือชื่อในหนังสือไว้ล่วงหน้า คือ หนังสือลาออกจาก ส.ส. หนังสือลาออกจาก กก.บห.และหนังสือลาออกจากสมาชิก โดยไม่ได้ลงวันที่ล่วงหน้า อันเป็นการขัดต่อความเป็นอิสระของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และเป็นโมฆะ เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญ
นางสาวธนภร กล่าวอีกว่า ต่อมาในช่วงปลายปี 2564 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ต้องการให้ตนลาออก เพื่อตอบแทนนายทุนพรรคซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อคนหนึ่ง โดยพยายามให้รองหัวหน้าพรรคบางคนมาพูดคุยให้ลาออก แต่ตนเห็นว่า กระทำไม่ถูกต้อง ขาดความเป็นสุภาพบุรุษ ไม่สมกับวีรบุรุษนาแก และต้องการที่จะพระราชทานเพลิงศพมารดาในเดือนมีนาคม 2565 ให้เสร็จสิ้นก่อนจะให้คำตอบ ตนเองมีพยานหลักฐาน เก็บข้อมูลไว้ทั้งหมด ทั้งมีการเรียกไปคุยในห้องประชุมแห่งหนึ่งในอาคารรัฐสภา เพื่อต้องการให้ตนเองลาออกจาก ส.ส.โดยไม่มีความผิด
นางสาวธนภร กล่าวว่า ส่วนในการประชุมใหญ่ ประจำปี 2565 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ฐานะประธานที่ประชุม ได้ขอมติจากที่ประชุม เพื่อปลดตนจากรองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค ตนขอยืนยันว่า การลาออกมีผลทางกฎหมายแล้ว นับตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2565 เป็นต้นไปนับตั้งแต่ยื่นหนังสือต่อ กกต.แล้ว มีผลทางกฎหมายสมบูรณ์แล้ว ไหนว่า ท่านเก่งกฎหมาย อดีต ผบ.ตร. อย่าเก่งแต่รังแกสุภาพสตรี ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย ให้เป็นลูกผู้ชายหน่อย ให้หัดอ่านข้อกฎหมาย พ.ร.ป.พรรคการเมือง, ระเบียบ กกต.ว่าด้วยพรรคการเมืองและข้อบังคับพรรคด้วย หากถามว่า โกรธเสรีหรือไม่ ยืนยันว่า ไม่โกรธ ให้มีสติ เพราะไม่อยากให้ใครมาว่า เผาบ้านตนเอง เพราะพรรคนี้ ตนเองเป็นผู้ก่อตั้งพรรค สร้างมากับมือ
นางสาวธนภร กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ช่วงที่ดำรงตำแหน่งรักษาการหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ก่อนปี 2562 ที่มีการหาและเก็บค่าสมาชิกพรรค น.ส.ธนภร เป็นคนที่ดำเนินการดังกล่าว แต่ภายหลังพบข้อร้องเรียนจากผู้ที่สมัครเป็นสมาชิก ว่า ไม่ได้รับบัตรสมาชิกพรรค ตนจึงตรวจสอบพบว่า บุคคลที่สมัครเป็นสมาชิกพรรคกับ น.ส.ธนภร นั้น ไม่ส่งเงินค่าสมาชิกพรรคให้กับพรรค ขอยืนยันว่า ได้รับรายงานจาก ส.ส.ด้วยกันในพรรค ว่า มีการขอมติพรรคเพื่อดำเนินคดีกับตนเอง ในขณะเดียวกัน ให้คนในพรรคบางคน มาขอให้ลาออก ตนเองเก็บหลักฐานไว้หมดเพื่อบีบบังคับให้ตนเองลาออก ข่มขู่ต่างๆ นานา ในส่วนสมัครสมาชิกพรรค กระทำในขณะ คสช.มีคำสั่งห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง ในขณะที่ยังไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค แต่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ฯ แอบลักลอบรับสมัครสมาชิก ซึ่งกระทำผิดกฎหมาย แล้วนำเงินมาฝากตนเองไว้ โดยไม่แจ้ง กกต. ถามว่า การกระทำลักษณะนี้ ผิด พ.ร.ป.พรรคการเมือง หรือไม่ อย่างไร ทั้งยืนยันว่า ทุกรายที่นำมากล่าวหา มีใบเสร็จยืนยันและมีหลักฐานเลขที่ใบเสร็จตรวจสอบได้ที่สำนักทะเบียนพรรคการเมือง กกต.
“พร้อมนำหลักฐาน พยานเอกสาร ยืนยันความบริสุทธิ์ว่าตนไม่ได้เบียดบังยักยอกเงินค่าสมัครสมาชิกพรรคต่อพนักงานสอบสวน แล้วจะหงายเงิบ พร้อมพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม อย่ากลั่นแกล้งกัน ทุกอย่างมีหลักฐานหมด และไม่ได้เป็นไปตามข้อกล่าวหา การไม่ตรวจสอบให้ดี การใส่ร้ายต่อสมาชิกพรรค ทั้งที่ไม่ได้มีพฤติกรรมตามที่กล่าวหาทุกเรื่อง ทำให้สังคมสับสนเข้าใจผิด โดยไม่ผ่านการพิสูจน์ เป็นการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาหรือไม่ แจ้งความเท็จโดยกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นต้องรับโทษหรือไม่ เป็นการกระทำละเมิดหรือไม่ ทำให้เกิดความเสียหาย กำลังให้ทีมกฎหมายตรวจสอบรายละเอียด หากกระทำผิดอาญาและกระทำละเมิดสิทธิ จะใช้สิทธิทางกฎหมายดำเนินคดีกับทันที ให้แมนๆ หน่อยวีรบุรุษนาแก” นางสาวธนภร กล่าว