xs
xsm
sm
md
lg

“อนุทิน” ลั่นกวาด 5 เก้าอี้ ส.ส.อยุธยา พร้อมเปิดตัว “พิมพฤดา” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเก่า เขต 3 ชู นโยบายฟื้นฟู ศก.ประเทศกลับมา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อนุทิน” ลั่นกวาด 5 เก้าอี้ ส.ส.อยุธยา พร้อมเปิดตัว “พิมพฤดา” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเก่าเขต 3 ชู นโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศกลับมา ยัน ภท.เป็นหนึ่งเดียว ส่งชื่อ “หัวหน้าพรรค” ชิงแคนดิเดตนายกฯ บอก เลือกตั้งครั้งหน้า พรรคใหญ่ไม่ใหญ่อยู่ที่ประชาชนตัดสินใจ

วันนี้ (23 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศูนย์การค้าอยุธยา ซิตี้ พาร์ค จ.พระนครศรีอยุธยา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการจัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ของพรรคภูมิใจไทย ว่า สาเหตุที่เลือกจ.พระนครศรีอยุธยาจัดงานประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ครั้งนี้ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่สำคัญและเป็นจังหวัดที่จะได้ประสานงานร่วมกับสมาชิกพรรคและผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในพื้นที่ภาคกลาง อีกทั้ง ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา ยังได้ไว้วางใจให้พรรค ภท. มี ส.ส.จำนวน 2 คน จากที่พรรคเราไม่เคยมีมาก่อน และวันนี้เราจะมาเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา เขต 3 อีก 1 คน คือ น.ส.พิมพฤดา ตันจรารักษ์ ยืนยันว่า เรามีความตั้งใจรับใช้ประชาชนเพื่อให้จ.พระนครศรีอยุธยาขับเคลื่อนไปในมิติทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม เพื่อปากท้องของพี่น้องประชาชน จ.พระนครศรีอยุธยามีเขตเลือกตั้ง 5 เขต มี ส.ส.5 คนซึ่งนั่นคือเป้าหมายของพรรค ภท.ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าตั้งเป้ากวาด 5 เก้าอี้ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า แม่ทัพคือนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล และ นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคภูมิใจไทย ที่บอกแล้วว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะลงพื้นที่ทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ ส่วนพรรค ภท.ก็จะสร้างนโยบายให้ประชาชนมั่นใจและเชื่อใจ เพื่อให้เราได้ส.ส.ยก จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าไปทำงานให้กับบ้านเมือง ซึ่งจะไม่ได้ก่อให้เกิดความเจริญให้กับ จ.พระนครศรีอยุธยา เท่านั้น แต่ ส.ส.ทั้งหมดจะช่วยกันผลักดันนโยบายและการออกกฎหมายต่างๆ ของพรรค ภท. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและส่งผลดีต่อประเทศโดยรวม หลังจากการเลือกตั้งครั้งหน้าเราจะต้องเริ่มมาฟื้นฟู สร้างให้ประเทศกลับมามีความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ทางสังคม โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพของประชาชน ซึ่งประเทศไทยจะต้องมีความเข้มแข็งทุกมิติพร้อมเดินหน้าเพื่อให้ประเทศกลับมาแข็งแกร่งในภูมิภาคนี้ และสามารถพึ่งพาตัวเองได้โดยการยืนอยู่บนขาตัวเองและยืนอยู่บนเวทีโลกได้สมศักดิ์ศรี

เมื่อถามว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ภท.ตั้งเป้าไว้เท่าไหร่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่ได้หวังว่า ส.ส.เท่าไหร่ แต่หวังว่าจะได้ส.ส.ครบทุกเขตที่พรรคส่ง ซึ่งเชื่อว่าจะได้เกิน 100 คนอย่างแน่นอน เพราะพรรค ภท.จะต้องส่งผู้สมัครที่มีความทุ่มเท เสียสละ มีคุณภาพ เข้าใจและเข้าถึงประชาชน มีความซื่อสัตย์สุจริต โดยเป็นแพกเกจรวม ส่วนคนไม่ดียืนยันว่าพรรคจะไม่ส่ง ต่อให้มีความแข็งแกร่งในพื้นที่มากแค่ไหนก็ตาม หากจะเข้ามาเพื่อกอบโกยเราก็ไม่สนับสนุน เพราะพรรค ภท.เน้นประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก เนื่องจากกว่า 3ปีที่ผ่านมา เราได้วางรากฐานสร้างความน่าเชื่อถือให้กับประชาชน หากติดตามก็จะเห็นว่าผลงานของพรรค ภท.ที่ให้นโยบายเราก็ทำด้วยความสำเร็จด้วยการพูดแล้วทำ และสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งหากจะทำอะไรต่อไปก็ไม่มีอุปสรรค เพราะเราตั้งใจทำงาน

เมื่อถามว่า พรรค ภท.ยืนยันส่งชื่อนายอนุทินเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรค ภท.เสนอชื่อนายกฯ หนึ่งคน ซึ่งเป็นใครก็ได้ที่มีตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค ภท. เราไม่เฉพาะเจาะจงคนนั้นคนนี้ แต่ข้อปฏิบัติที่พรรค ภท.ยึดถือ และมีความมั่นคงตั้งแต่ก่อตั้งพรรคมา ไม่ใช่เฉพาะตอนเป็นรัฐบาล เพราะสมัยเป็นพรรคเล็กๆ เราก็มีความเป็นปึกแผ่นและยังดำรงเรื่องนี้มาจนถึงทุกวันนี้ ทำให้เราทำงานได้สำเร็จและไม่มีความแตกแยก

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า แม้ในพรรคจะมีความเห็นต่างในความคิด แต่เราก็จบในห้องประชุมและเคารพกติกาว่าพรรคต้องไปในทางเดียวกัน มีเอกลักษณ์เป็นความสามัคคีและผลักดันทุกอย่างให้ไปได้เพื่อประชาชน และเราแสดงให้เห็นถึงการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ บางครั้งอาจจะมีผลทางการเมืองหรืออาจทำให้ พรรค ภท.เป็นรัฐบาลก็ได้ แต่หากเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเราก็ต้องทำ ไม่ใช่คิดถึงแต่ตัวเอง การที่เราเอาหลังพิงกับประชาชน เพราะมั่นใจว่าประชาชนให้ความเชื่อมั่นกับเราในการทำงานให้กับทุกคน ดังนั้น เราต้องพร้อมในการทำสิ่งที่ถูกต้อง

เมื่อถามว่า พรรค ภท.พร้อมเป็นพรรคขนาดใหญ่แล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใหญ่แบบไหนจะเป็นแบบรวมกันแล้วใหญ่ หรือว่าอยู่กันแบบนี้ที่เป็นปึกแผ่นและมีความสามัคคี เราจะใหญ่ตรงที่ไปทำงานอะไรก็สำเร็จ เน้นตรงนี้มากกว่า พรรคจะใหญ่จะเล็กอยู่ที่ประชาชน

“หากเห็นว่าเราตั้งใจทำงานก็เลือกพรรคภูมิใจไทย แต่ถ้าเราไม่ตั้งใจทำงาน ทำให้ประชาชนเห็นว่าเราไม่ตั้งใจทำตามที่เราสัญญาไว้ ประชาชนก็จะลงโทษเรา โดยการทำให้พรรคเราเล็กลง ดังนั้น มั่นใจว่า3ปีที่ผ่านมา เราทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ หายใจเข้าหายใจออกก็เป็นเรื่องของประชาชนและชาติบ้านเมือง มั่นใจว่าผลงานจากการพูดแล้วทำเกิดขึ้น และจับต้องได้ จึงหวังว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้ได้ทำงานเป็นตัวแทนต่อไป” นายอนุทิน กล่าว

ด้าน นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า พรรค ภท.ส่งชื่อนายอนุทินเป็นแคนดิเดตนายกฯเพียงคนเดียวอย่างแน่นอน เพราะมีความพร้อมทุกอย่าง






กำลังโหลดความคิดเห็น