ยิ่งนาฬิกานับถอยหลังสู่โหมดเลือกตั้ง สถานการณ์การเมืองก็ยิ่งคึกคัก ข้นคลั่ก
ทั้งเปิดตัวพรรค ปิดอนาคตนักการเมืองที่โดนสอยร่วงลงดิน
ไหนจะความปั่นป่วนในแต่ละก๊วน ที่ “ทิ่ม” กันเอง หรือมรสุมจากภายนอก ใครจะปักหลักหรือทิ้งพรรคมีให้เห็นทุกวัน
แต่พรรคที่ “นิ่งๆ” มีคนวิ่งมา “ซบ” ถี่ๆ อยู่ในสถานะ “หล่อเลือกได้” นาทีนี้หนีไม่พ้น “พรรคภูมิใจไทย”
จน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สธ. เคยครวญเพลง “หนูเปล่านะ เค้ามาเอง”
ก็ต้องบอกว่าเป็นธรรมดาโลก เพราะท่ามกลางความวุ่นวายของการเมือง
“ภูมิใจไทย” กลับไม่มีข่าวมาก “มุ้ง” ทั้งพรรคร่วมกันเป็นหนึ่ง
สถานการณ์เหมือนกับกระทรวงหมอในยุคที่มีวิกฤตโรคระบาดหนักหนาที่สุด แต่กลับเป็นปึกแผ่นที่สุด รวมพี่น้องชาวสาธารณสุขได้เป็นใจเดียว
ทั้ง “พรรคภูมิใจไทย” ทั้ง “กระทรวงสาธารณสุข” มีผู้นำ คือ “เสี่ยหนู”
ที่คุมงาน “การบ้าน การเมือง” ได้อย่างมีเสถียรภาพ
ผลงานพรรค ก็ว่าไปตามเนื้อผ้า จัดการค่าโง่ทางด่วน เปิดเส้นทางคมนาคมรถไฟสารพัดสี กัญชา มะเร็ง หมอ ยา โควิด เคยประกาศอะไรไว้ เก็บทำได้ “ตามที่พูด”
ที่เห็นชัดๆ คือการทำงานสาธารณสุขจน “เข้าเนื้อ” พูด ตอบ อภิปราย ได้อย่างคนรู้จริง อันนี้ต้องเอ่ยชม
การขึ้นเหนือล่องใต้ เพื่อไปดู ไปแล คนหน้างาน ช่วยเหลือรับฟัง ตั้งแต่ช่วงแรกที่เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรี จนถึงทุกวันนี้
มันทำให้ “หมอหนู” ได้ “เข้าใจ” และ “ได้ใจ” คนสาธารณสุข
ส่วนลีลาการเมือง อันนี้ไม่ต้องพูดถึง โดนจ่อไมค์สัมภาษณ์ทีไร ก็พลิ้วไหวทุกครั้ง
ไม่หาศัตรู ไม่ตีกับใคร ไม่ต้องส่ง สส. ลงเลือกตั้งซ่อมพื้นที่ไหน
แต่มีตัวเลข สส. ของพรรคเพิ่มเรื่อยๆ
แถมช่วงนี้จะเห็นว่า “เสี่ยหนู” ลงพื้นที่จนโดน “บ่มแดด” กลายเป็น “หนุ่มผิวแทนนิดๆ”
เรียกว่าอยู่ในช่วงเดินหน้า “เก็บคะแนน” จาก “ผลของงานที่ทำ”
แต่ “การเมือง” ก็เหมือน “ชีวิต” ที่หาความแน่นอนไม่ได้
อะไรก็พลิกผันได้ทั้งนั้น
ก็ได้แต่ขอให้ “นายอนุทิน” ยึดมั่นกับคำที่บอกว่า “พูดแล้วทำ” อย่าให้ประชาชนผิดหวังแล้วกัน