xs
xsm
sm
md
lg

“ทนายเชาว์” เตือน “โรม” หยุดคุกคามสั่นคลอนอำนาจศาล หลังออกมาโวย ให้เปิดเผยชื่อผู้พิพากษาที่สั่งคดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เตือน “โรม” หยุดคุกคามสั่นคลอนอำนาจศาล หลังออกมาโวย ให้เปิดเผยชื่อผู้พิพากษาที่สั่งคดี ชี้ เข้าข่ายขัดมาตรฐานจริยธรรมผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฐานบิดเบือนข้อมูล จงใจปลุกปั่นให้ ปชช.หลงผิด ลั่น ทำอีกครั้งเจอร้อง ป.ป.ช.ทันที

วันนี้ (22 เม.ย.) นายเชาว์ มีขวด ทนายความอาสา อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก เรื่อง คำเตือนสุดท้ายถึง “รังสิมันต์ โรม” หยุดคุกคามอำนาจตุลาการทันที มีเนื้อหาระบุว่า เป็นเรื่องที่น่าเอือมระอามากสำหรับพฤติกรรมของ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่ยังคงมีเจตนาคุกคามอำนาจตุลาการ ทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรที่ทำหน้าที่ธำรงความยุติธรรมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ออกมาเปิดประเด็นให้เปิดเผยชื่อผู้พิพากษา ในคำสั่งไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาในคดีต่างๆ พร้อมปลุกระดมว่า ทำไมประชาชนจะตรวจสอบอำนาจศาลบ้างไม่ได้ ซึ่งผมคิดว่านอกจากเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ขัดจริยธรรมแล้ว ยังแสดงถึงความจงใจที่จะสั่นคลอนอำนาจตุลาการ ด้วยการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงกับประชาชนด้วย

เริ่มจากที่ข้อเรียกร้องให้เปิดเผยชื่อผู้พิพากษา เป็นเรื่องที่นายโรม ซึ่งนอกจากจบกฎหมาย ยังเป็นกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎรด้วย พึงต้องรู้อยู่แล้วว่าคดีความต่างๆ คู่ความที่เกี่ยวข้องย่อมทราบดีอยู่แล้วว่าผู้พิพากษาท่านใดเป็นเจ้าของสำนวนหรือลงชื่อในคำพิพากษาหรือคำสั่งใด เพราะจะปรากฏชื่ออยู่ที่ปกสำนวนและในคำพิพากษาหรือคำสั่งและในรายงานกระบวนพิจารณาทุกครั้ง แต่ไม่ใช่ว่าเอาชื่อนั้นไปเผยแพร่ต่อสาธารณะ เพื่อนำไปสู่การล่าแม่มด กดดัน คุกคามผู้พิพากษา ให้กระทบกระเทือนต่อกระบวนพิจารณาคดีต้องเสียไป

นายเชาว์ ระบุด้วยว่า การกระทำของนายโรมผิดมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างชัดเจน ตามจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ในข้อ 15 ที่ให้นำมาบังคับ ระบุว่า ต้อง “ให้ข้อมูลข่าวสารตามข้อเท็จจริงแก่ประชาชนหรือสื่อมวลชนอันอยู่ในความรับผิดชอบ ของตน ถูกต้องครบถ้วนและไม่บิดเบือน” แต่นายโรมกลับบิดเบือนข้อมูลให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด จงเกลียดจงชังต่อการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษา และยังมีความพยายามที่จะทำให้หลักการถ่วงดุลอำนาจตามระบอบประชาธิปไตยเสียไปด้วย เพราะการปลุกระดมว่า ประชาชนจะตรวจสอบอำนาจศาลบ้างไม่ได้หรือ ทั้งๆ ที่นายโรมซึ่งเป็น ส.ส.ย่อมรู้ดีว่า ในส่วนของอำนาจตุลาการ มีระบบตรวจสอบถึง 3 ศาล นอกจากนี้ ยังคณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) เป็นผู้ดูแล ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของตุลาการอีกชั้นหนึ่ง หากพบมีใครทำไม่ถูกต้อง สามารถร้องเรียน ก.ต.ให้จัดการได้อยู่แล้ว

“นี่เป็นเสียงเตือนครั้งสุดท้ายจากผมถึงนายโรม ถ้ายังไม่หยุดพฤติกรรมซ้ำซากเช่นนี้ ผมจะไปยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.สอบมาตรฐานทางจริยธรรมเกี่ยวกับกรณีนี้ เพราะคิดว่าเข้าข่ายขัดจริยธรรมอย่างร้ายแรงตามที่กำหนดไว้ในข้อ 15 แล้ว และอยากฝากไปถึง ป.ป.ช.ด้วยว่า เรื่องนี้ถือว่าความปรากฏแล้ว เหตุใดไม่มีการหยิบยกมาพิจารณา ท่านไม่ต้องรอให้มีคนไปร้องเรียน ท่านทำเองได้เลย แต่ถ้าท่านยังไม่ทำ และนายโรมยังไม่สำนึก มีพฤติกรรมทำผิดซ้ำซาก ผมจะไปร้อง ป.ป.ช.ด้วยตัวเอง” นายเชาว์ ระบุ
กำลังโหลดความคิดเห็น