วันนี้ (18 เม.ย.)นายธันย์ชนน ศรีอัษฎาวุธกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตดุสิต พรรคก้าวไกล กล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนในเขตดุสิตอย่างต่อเนื่อง ได้รับเสียงตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆ ขอขอบคุณทุกการสนับสนุนที่มีให้มาตลอด หากมีโอกาสได้รับเลือกเป็นตัวแทนไปนั่งในสภากรุงเทพ จะทำงานอย่างเต็มที่ให้สมกับที่ทุกคนฝากความหวังไว้
นายธันย์ชนน กล่าวต่อว่า ตนเชื่อว่าคนที่จะบอกได้ดีที่สุดว่า สิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่ถูกทางหรือไม่ ก็คือประชาชนในพื้นที่ นโยบายไม่มีทางตอบโจทย์หากออกแบบมาจากห้องแอร์โดยไม่ผ่านการรับฟังจากพื้นที่จริง การออกไปทำงานในพื้นที่เปรียบเสมือนเป็นห้องเรียนได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมาย แม้มีความเหน็ดเหนื่อยบ้างเทียบไม่ได้เลยกับความหวังของหลายคนที่ได้พบซึ่ง ที่มักจบประโยคทิ้งท้ายว่า "ฝากด้วยนะ"
"ถ้อยคำนี้ อาจจะสั้นๆ แต่ผมรู้ดีว่าแฝงไปด้วยความอึดอัดคับข้องใจต่อปัญหาที่ได้รับและต้องอดทนกันมานานโดยมองไม่เห็นทางออก สำหรับผมถ้อยคำนี้จึงยิ่งใหญ่และมีความหมายมาก เป็นแรงกระตุ้นให้ไม่สามารถนิ่งเฉยได้ เพราะการทำงานของพวกเราพรรคก้าวไกลคือการขับเคลื่อนไปด้วยความหวังเสมอ พวกเรามีความหวังที่จะตอบแทนผู้สูงอายุให้ได้รับการดูแล มีคุณภาพชีวิตที่ดี ให้สมกับที่เคยทำงานมาอย่างหนักตั้งแต่สมัยวัยที่ยังมีแรงมาจนเกือบค่อนชีวิต จึงสมควรมีช่วงเวลาเกษียณที่มีความสุขกับลูกหลาน เป็นครอบครัวที่ใส่ใจกัน โดยไม่จำเป็นต้องมองว่าใครเป็นภาระให้ใคร หรือมีชุมชนที่ดูแลกันและกันได้"นายธันย์ชนน กล่าว
นายธันย์ชนน กล่าวต่ออีกว่า เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ปัจจุบันอยู่ที่ราว 20 บาทต่อวัน เป็นจำนวนที่มองข้ามคุณค่าผู้สูงวัยมากเกินไป กรุงเทพที่จะต้องกันงบก้อนหนึ่งไปเติมให้ผู้สูงอายุให้สามารถใช้ชีวิตในแต่ละวันได้โดยไม่ลำบาก ทั้งยังจะเป็นการวางหมุดหมายเพื่อให้สภาผลักดันนโยบายบำนาญ 3,000 บาทถ้วนหน้าให้สำเร็จ เป็นหลักประกันสวัสดิการชีวิตถ้วนหน้าที่มีให้แก่ผู้สูงอายุทุกคนในประเทศนี้ สำหรับเด็กๆลูกหลานของชุมชน เมื่อได้พูดคุยกันมากขึ้น ทำให้ต้องทึ่ง เพราะคำตอบจากหลายคนทำให้รู้ว่า การเมืองเป็นเรื่องที่เขารู้สึกและสัมผัสได้ว่าใกล้ตัวเขามากเกินกว่าจะไม่ใส่ใจ ทำให้ที่ต้องเตือนตัวเองให้มากว่า จะทำให้ผิดหวังไม่ได้ เพราะเด็กๆก็มองพวกพวกเราเป็นตัวแทนความหวังที่เขาเองก็อยากเห็นเหล่านั้นเช่นกัน
"สำหรับเด็กตัวเล็กๆ แม้วันนี้เขาอาจจะยังไม่รับรู้เรื่องการเมือง แต่ความสดใสและแววตาของพวกเขาทำให้บอกตัวเองได้ชัดเจนว่าสิ่งที่ผมและพรรคก้าวไกลกำลังทำเพื่ออะไร ผมอยากเห็นเด็กๆลูกหลาน มีอนาคตที่พวกเราฝันถึงและเป็นจริงได้ ผมอยากเห็นคนคนรุ่นคุณพ่อ คุณแม่ คุณลุง คุณน้า คุณตา คุณยายมีช่วงชีวิตบั้นปลายที่ไม่ตัดพ้อ แต่คือความสุขสถาพร เรายินดีทำงานหนัก เรายินดีที่จะชนทุกปัญหาที่กั้นขวาง เพราะนี่คือเส้นทางที่จะไปถึงความหมายของ 'กรุงเทพเมืองที่คนเท่ากัน' ได้จริงๆ"นายธันย์ชนน กล่าว