วันนี้ (17 เม.ย.) นายนิกร จำนง ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.(ฉบับที่…) พ.ศ….กล่าวว่า ในวันที่ 20 และวันที่ 21 ที่จะถึงนี้ คณะกรรมาธิการจะได้มีการขยายเวลาการทำงานกันเต็มวันทั้งสองวันเพื่อชดเชยวันหยุดช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา จึงเชื่อว่า จะมีความคืบหน้ามากพอสมควร โดยในวันพุธจะมีการพิจารณาร่างกฎหมายเลือกตั้งในประเด็นการปรับปรุงแก้ไขกฏหมายมาตราต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับการกำหนดให้การเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อใช้เขตประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง จากนั้นก็จะได้มีการพิจารณาต่อเนืองเกี่ยวกับการบริหารจัดการเลือกตั้งในหลายมาตราที่ กกต.เสนอขอแก้ไขให้ดีขึ้น จึงไม่น่าจะมีข้อโต้แย้งกันกันมากนัก จึงเชื่อว่าจะสามารถผ่านไปได้ในหลายมาตราในวันดังกล่าว
สำหรับวันพฤหัสถัดไป ก็จะมีการพิจารณาร่างกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งจะมีการพิจารณาร่างแก้ไขร่างของ นายอนันต์ ผลอำนวย ในประเด็นการเสนอเรื่องคุณสมบัติของการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองให้อ่อนตัวลงไม่เคร่งครัดมากเช่นเดียวกับคุณสมบัติการสมัคร ส.ส.และเป็นรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องนี้คาดว่าได้พิจารณเสร็จในวันนั้น
ประเด็นสำคัญในร่างกฏหมายพรรคการเมือง ที่จะถูกนำเข้าสู่การพิจารณาในสัปดาห์นี้ คือ มาตราที่ขอเสนอแก้ไขเกี่ยวกับตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดที่กำหนดให้ต้องมีทุกเขตเลือกตั้งทีต้องการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบแบ่งเขต จากนั้นก็มีส่วนในการเลือกตั้งเบื้องต้นผู้สมัครเลือกตั้งทั้งสองแบบหรือไพรมารีโหวต ซึ่งในกฎหมายพรรคการเมืองฉบับปัจจุบันยังมีการบังคับใช้อยู่ทั้งๆ ที่มีปัญหาในเชิงปฏิบัติ จนต้องใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 13/2561 ยกเลิกการทำไพรมารีโหวตแบบเดิมที่ให้สาขาพรรคการเมือง หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดดำเนินการหยั่งเสียงหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง และเปลี่ยนให้การหยั่งเสียงประชาชน เป็นแค่การรับฟังความคิดเห็น และให้เหลือเพียแห่งเดียวก็กระทำการแทนได้ทั้งจังหวัด โดยร่างของพรรคร่วมรัฐบาลที่รัฐสภามีมติให้ยึดเป็นร่างหลักก็ได้เสนอแก้ไขปัญหาไปในทำนองเดียวกันกับการเลือกตั้งที้ผ่านมา คือ เสนอแก้ไขให้จังหวัดที่มิได้เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ หรือสาขาพรรคการเมือง ถ้าพรรคการเมืองนั้น มีสมาชิกซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนั้นเกิน100 คน พรรคการเมืองนั้นอาจแต่งตั้งสมาชิก
ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนั้นคนหนึ่งหรือหลายคนเป็นตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดเพื่อดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองในจังหวัดนั้นได้และอาจให้พรรคกำหนดให้ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดมากกว่าหนึ่งเขตก็ได้ตลอดจนให้เป็นผู้ดำเนินกิจกรรมตามกลไกการสรรหาผู้สมัครทั้งสองแบบได้โดยให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรคนั้นๆ
นายนิกร กล่าวอีกว่า ในฐานะเป็นหนึ่งในผู้ลงชื่อเสนอร่างแก้ไขฉบับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นร่างหลักจะใช้โอกาสในการประชุมนี้ให้ประสบการณ์ 20 กว่าปีของตนในการบริหารจัดการพรรคชี้แจงให้กรรมาธิการจากฝ่ายวุฒิสมาชิกได้ทราบปัญหาในเชิงปฏิบัติจริงของพรรคการเมือง ซึ่งตนเห็นว่าปัญหาของกฎหมายฉบับนึ้เกิดจากความตั้งใจของ สนช.ผู้พิจารณากฎหมายเจตนาจะปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น แต่ไม่มีโอกาสได้รับฟังความเห็นจากพรรคการเมืองที่เป็นผู้ใช้กฎหมายนี้ เพราะช่วงที่ออกกฎหมายนี้ไม่มีสภาผู้แทนราษฎรอยู่ ซึ่งตนเชื่อว่า เมื่อได้ทำความเข้าใจกันทุกฝ่าย รวมทั้งพรรคการเมืองด้วยกันที่ยังมีความเห็นต่างกันอยู่ในรายละเอียดบ้างและแม้ว่าน่าจะใช้เวลาในการอภิปรายและพิจารณากันมากพอสมควรเพราะสำคัญและมีหลายประเด็นเกี่ยวเนื่อง ซึ่งคงจบลงด้วยการลงมติกันในสัปดาห์ต่อไป ตนเชื่อว่า ในที่สุดร่างที่เป็นหลักที่รับมาในประเด็นตัวแทนประจำจังหวัดและการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งที่สามารถปฏิบัติได้จริงจะได้รับการเห็นขอบจากคณะกรรมาธิการเสียงข้างมากอย่างแน่นอน