ผู้สมัครผู้ว่าฯ-ส.ก. ที่ถูกตัดสิทธิลงสมัคร เร่งยื่นอุทธรณ์ กกต.มั่นใจคุณสมบัติครบ เด็กก้าวไกล โวยใช้ข้อหาถือหุ้นสื่อเล่นงานอีกแล้ว อ้างยุติกิจการสื่อตั้งแต่ปี 37 ความเป็นเจ้าของขาดไปตั้งแต่ปี 39
วันนี้ (12 เม.ย.) นายอดิเทพ จาวลาห์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตดุสิต หมายเลข 10 เข้ายื่นคำร้องอุทธรณ์ต่อ กกต.กรณีผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร ไม่ประกาศรายชื่อให้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติตามมาตรา 49(3) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตกรุงเทพมหานคร เป็นเวลาติดต่อกันน้อยกว่าหนึ่งปีจนถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง
นายอดิเทพ มั่นใจว่า ตัวเองมีคุณสมบัติครบถ้วนโดยก่อนหน้าลงสมัครมีชื่อในทะเบียนบ้านเช่าในเขตกรุงเทพฯตั้งแต่ปี 60 ต่อมาได้ย้ายไปอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งใน กทม.เช่นกัน แต่ไม่ได้ย้ายชื่อจากทะเบียนบ้านเช่าไปด้วย เพราะเป็นช่วงระบาดของโควิด จึงไม่ได้ดำเนินการ ซึ่งมาพบภายหลังว่าเจ้าของบ้านเช่าเอาชื่อตนเองออกจากทะเบียนบ้านเช่า ไปอยู่ทะเบียนบ้านกลางตั้งแต่ส.ค. 63 ดังนั้น ในการอุทธรณ์ ก็จะแสดงพยานหลักฐานให้ กกต. เห็นว่า มีภูมิลำเนาพักอาศัยอยู่และทำงานในกรุงเทพฯมาโดยตลอด
ด้าน นายพีรพล กนกวลัย ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หมายเลข 7 เขตพญาไท พรรคก้าวไกล ซึ่งมายื่นอุทธรณ์ต่อกกต. กรณีได้รับการประกาศชื่อเนื่องจากมีลักษณะต้องห้าม โดยเป็นเจ้าของหรือถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ท่องธรรมชาติ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นเสมือนว่ากำลังมีการใช้ข้อหาความเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นสื่อ ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาเดิมๆ มาเล่นงานผู้สมัครจากพรรคก้าวไกลอีกครั้ง ยอมรับว่า เคยยื่นจดแจ้งการพิมพ์หนังสือพิมพ์ หรือเป็นเจ้าของกิจการ ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา และบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ “ท่องธรรมชาติ” ตั้งแต่ปี 2537 จริง แต่ได้พิมพ์ออกมาเพียง 6-7 ฉบับ และยุติกิจการในปีเดียวกัน
ซึ่งตาม พ.ร.บ.การพิมพ์ พ.ศ. 2484 มาตรา 45 ระบุว่า หนังสือพิมพ์รายวัน ถ้ามิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลา 38 วัน หรือหนังสือพิมพ์รายคาบ ถ้ามิได้ออกโฆษณาต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาสี่คราวหรือเกินกว่า 2 ปี การเป็นผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา บรรณาธิการและเจ้าของหนังสือพิมพ์นั้นเป็นอันสิ้นสุดลง ดังนั้น ความเป็นเจ้าของสื่อของตนจึงได้สิ้นสุดลงไปแล้วตั้งแต่ปี 2539 เป็นอย่างน้อย และจากนั้น ก็ไม่เคยมีการไปขอจดแจ้งใหม่
“เรื่องนี้เป็นการต่อสู้ทางข้อกฎหมายซึ่งผมได้หมดสภาพความเป็นเจ้าของสื่ออย่างเด็ดขาดไปนานแล้ว จึงไม่ได้กังวลอะไร ขณะนี้กำลังขอหลักฐานจากกองจดแจ้งกระทรวงวัฒนธรรมเพื่อยืนยันว่าไม่เคยมีการจดแจ้งเพิ่มและความเป็นเจ้าของได้ขาดไปตั้งแต่ปี 2539 เพื่อมายื่นอุทธรณ์ต่อ กกต.”
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายไกรเดช บุนนาค ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหมายเลข 19 ที่ไม่ได้รับการประกาศชื่อให้เป็นผู้สมัครเนื่องจากมีลักษณะต้องห้ามโดยเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ไฮไลท์บันเทิงก็ได้เดินทางมาขอข้อมูลกับทาง กกต. ประจำกรุงเทพมหานคร
ด้าน นายสำราญ ตันพานิชย์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ผู้ที่กรุงเทพฯไม่ประกาศรายชื่อให้เป็นผู้สมัครว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เนื่องจากขาดคุณสมบัติสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อ กกต.ได้ภายใน 3 วัน จากนั้นคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติจะทำการไต่สวนตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนสรุปเสนอต่อ กกต.พิจารณาวินิจฉัยโดยเร็ว หาก กกต.เห็นว่า ผู้ร้องมีคุณสมบัติครบถ้วนก็จะแจ้งให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานครประกาศรายชื่อให้เป็นผู้สมัคร ครั้งนี้มั่นใจว่า การพิจารณาวินิจฉัยคุณสมบัติผู้สมัครของ กกต.จะเสร็จสิ้นก่อนการหย่อนบัตรแน่นอน
