“อิทธิพร” แนะผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.- ส.ก.ศึกษาคำวินิจฉัย กกต.ปมหาเสียงผิด กม.เพื่อเป็นบรรทัดฐานทางปฏิบัติ ชี้คุณสมบัติ “สราวุธ” เป็นอำนาจวินิจฉัย ผอ.กกต.ท้องถิ่น กทม.
วันนี้ (5 เม.ย.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผว.กทม.) และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ว่า จะเห็นผู้สมัครเยอะกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยมีผู้สมัคร ผว.กทม. 31 คน และผู้สมัคร ส.ก. 382 คน ข้างหนึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีผู้สนใจรับอาสาเข้ามาบริหาร กทม. ส่วนการจดจำผู้สมัคร ปกติจะมีการจัดทำเอกสารแจ้งเจ้าบ้านถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งจะมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้สมัครเลือกตั้ง โดยเอกสารดังกล่าวจะส่งถึงครัวเรือนผู้มีสิทธิเลือกตั้งภายใน 15 วัน ก่อนวันเลือกตั้ง ซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผู้สมัคร หน่วยเลือกตั้งที่ตนเองมีสิทธิให้ครบถ้วนก่อนไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค.นี้
ส่วนหลังปิดรับสมัครแล้ว ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน คือ วันที่ 11 เม.ย.ก่อนประกาศรายชื่อผู้สมัคร หากผู้สมัครคนใดไม่ได้รับการประกาศชื่อสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อ กกต.ได้ ส่วนกรณี นายสราวุธ เบญจกุล มีปัญหาถูกร้องเรียนวินัยและทุจริต ทำให้มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ เป็นหน้าที่ของผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร จะเป็นผู้พิจารณา
นายอิทธิพร ยังกล่าวด้วยว่า ตั้งแต่มีประกาศเลือกตั้ง ผว.กทม. จนขณะนี้ยังไม่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา ส่วนปัญหาการติดป้ายหาเสียงปฏิบัติตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด หากมีการฝ่าฝืนก็ทำผิดกฎหมาย ซึ่งตามระเบียบฯแล้ว หากผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พบว่า มีการติดป้ายไม่เป็นไปตามกฎหมายกำหนด สามารถสั่งสมัครรื้อถอน หากไม่ดำเนินการทางเจ้าหน้าที่สามารถรื้อถอนเองได้โดยผู้สมัครต้องเสียค่าดำเนินการ ผู้สมัครในเรื่องการติดป้ายหาเสียงก็จะมีโทษทางอาญาด้วย อันนั้นจึงอยากให้ผู้สมัครและทีมงานศึกษาคำวินิจฉัยของ กกต.เกี่ยวกับการไม่ปฏิบัติตามระเบียบการหาเสียงจะได้ทราบว่าสิ่งใดควรทำ และไม่ควรทำ เพื่อจะได้เป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติ
