นายกฯ แจงลงพื้นที่คลองโอ่งอ่างเมื่อวาน ว่างเมื่อไหร่ก็ลงเมื่อนั้น เพื่อรับฟังความเดือดร้อน ปชช. ไม่เกี่ยวตรงวันรับสมัครผู้ว่าฯ กทม. โยนสื่อวิเคราะห์ไปเอง ฝากใครพูดนโยบายอะไรไว้ ขอให้ทำสำเร็จก็แล้วกัน
วันนี้ (1 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่คลองโอ่งอ่าง เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า นึกอยู่แล้วว่าสื่อมวลชนจะต้องถามเรื่องนี้ นายกฯ คิดว่าวันไหนว่างก็จะไป นึกออกว่าวันนี้อยากจะไปไหนก็จะไป ส่วนจะไปไหนบ้างมันเรื่องของตน ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่การลงพื้นที่เมื่อวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น ถูกมองว่าตรงกับวันรับสมัครผู้ว่าฯ กทม. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แล้วเกี่ยวอะไรกับตน ตนไปเกี่ยวอะไรกับเขา พวกคุณวิเคราะห์กันไปเอง วิเคราะห์แบบนี้ทั้งนั้น ถ้าแบบนี้ตนคงไม่ต้องไปไหนเลย นั่งอยู่แต่ทำเนียบรัฐบาลก็แล้วกัน ความเดือดร้อนมันเกิดขึ้นเฉพาะช่วงนี้เสียที่ไหน มันเกิดขึ้นทุกวัน ตนก็อยากจะไปดูทุกวัน แต่ทีนี้ก็มีติดราชการบ้างอะไรบ้าง บางทีก็ไม่สะดวก ไปแล้วก็เกิดปัญหาวุ่นวายการจราจรติดขัด โอ้ย มันวุ่นวายไปไหนแต่ละที ก็เลยไปเล็กๆ เมื่อถามว่า จากนี้อาจต้องไปแถวปริมณฑลด้วย ไม่เพียงเฉพาะในเขต กทม.ใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ก็มีแผนทำงานอยู่แล้ว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ที่ตนเดินทางไปคลองโอ่งอ่าง ก็เพราะนึกขึ้นมาได้ว่าตนเป็นคนสนับสนุนโครงการนี้ขึ้นมา คลองสวยน้ำใส และคูคลองในกรุงเทพฯจะต้องได้รับการพัฒนา ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล และเป็นหน่วยงานแรกๆ ที่ทำในเรื่องที่เกี่ยวกับคูคลอง และตอนนี้ก็ทำอีกหลายโครงการด้วยกัน ไม่ว่าจะโครงการบ้านริมคลอง คลองเปรมประชากร คลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งกรุงเทพฯมีทั้งหมด 120 กว่าคลอง ต้องดูว่าทำอย่างไรน้ำจะไม่ดำ ซึ่งตนก็ได้ปรึกษา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ระหว่างลงพื้นที่เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่เราทำได้เรื่องน้ำไม่ดำ ก็คือ ปิดรูระบายน้ำที่จะลงคลองนี้ให้หมด และหาทางชักน้ำไปเข้าโรงบำบัดน้ำเสียทางอื่น นั่นแหละคือสิ่งที่ท่านจะทำให้ได้มากที่สุด ดีที่สุด ทุกๆ คนที่พูดมาก็ขอให้ทำสำเร็จก็แล้วกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การลงพบปะชาวบ้านได้สะท้อนปัญหาอะไรโดยตรงกับนายกฯ บ้าง นายกฯ กล่าวว่า ก็สะท้อนว่าเข้าใจรัฐบาล เข้าใจถึงภาระความจำเป็น และเข้าใจสถานการณ์โรคโควิด-19 เข้าใจสถานการณ์โลก เขาเข้าใจ มีใครไม่เข้าใจล่ะ ก็มีแต่พวกเราไม่เข้าใจหรือเปล่า เมื่อเขาเข้าใจนายกฯก็พูดกับเขาดีๆ ว่า เข้าใจใช่ไหมกับสถานการณ์ที่มันเกิด เขาก็บอกว่าเข้าใจ แต่สถานการณ์มันก็แย่ไปทั้งหมด ขอให้อดทนกันนิดนึงก่อน เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น ทำกันอย่างนี้สิจึงจะไปข้างหน้าได้ เข้าใจไหม มันไม่มีอะไรผิดไม่มีอะไรถูกหรอก ไม่มีอะไรผิดทั้งหมด ไม่มีอะไรถูกทั้งหมด ไม่มีอะไรดีทั้งหมด มันไม่ใช่เลย เพราะฉะนั้นตนจึงไม่อยากให้มันย้อนกลับไปที่เดิม ไม่อยากให้บ้านเมืองกลับไปที่เก่า ไม่อยากให้กรุงเทพฯกลับไปที่เดิม ไร้ระเบียบรกรุงรัง ซึ่งมันก็ดีขึ้นมาตั้งเยอะแล้วไม่ใช่หรือ ก็ทำกันต่อไป ใครจะทำก็ทำเถอะ ทำให้ได้จริงก็แล้วกัน