วันที่ 31 มีค. พรรครวมไทยยูไนเต็ดต้อนรับวันแรกของการรับสมัครผู้ลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. และ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร
ด้วยนโยบายสีชมพูเพื่อดูแลหญิงตั้งครรภ์และบุตร ตั้งแต่ตั้งท้องจนถึงอายุ 2 ขวบ ช่วงเวลาที่ช่องว่างระหว่างการได้รับการดูแลอย่างมีระบบ ก่อนที่เด็กอายุ 2 ขวบขึ้นไปจะมีศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนในพื้นที่ชุมชนใกล้เคียง นโยบายสำคัญเช่นนี้ถูกชูเป็นประเด็นสำคัญ และเร่งด่วน
ผ่าน 3 สก.หญิงแกร่งแห่งรวมไทยยูไนเต็ด คุณพิมพ์ญาดา (จักษุรักษ์) เอี่ยมประไพ หรือ เนย นางงามหัวใจสังคมอดีต ผู้สมัคร ส.ก.เขตพระโขนง ร่วมกับ คุณแคลร์ วีรานันท์ สดากรวงศ์วัชร์ นักธุรกิจสาวสายInfluencer ผู้สมัคร ส.ก.เขตวัฒนา และ คุณหทัยรัตน์ (วิทยพูม) ธนากิจอำนวย หรือ แอนนา นักขับเคลื่อนกิจกรรมทางสังคม ผู้สมัคร ส.ก.เขตสวนหลวง
“ในสถานการณ์ปัจจุบันจะพบว่าศักยภาพของผู้หญิงในยุคนี้ไม่เป็นสองรองใคร ทั้งในด้านการศึกษา สังคม และ งานบริหารธุรกิจ แต่เมื่อผู้หญิงตั้งครรภ์ และ มีลูกน้อย หน้าที่และความรับผิดชอบของพวกเธอก็เพิ่มมากขึ้น พวกเราเลยคิดว่า กทม. ควรมีการจัดการบริการที่ส่งเสริมและดูแล แม่ๆเหล่านี้ ผ่าน 3 นโยบายที่จะดูแลแม่และลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์จนถึง 2 ขวบ ได้แก่ BMA Nursery, Value 1,000วัน และ Mommy’s Friend”
น.ส.พิมพ์ญาดา ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับภาพรวมของนโยบายสีชมพูนี้ โดยทางหัวหน้าพรรคฯ อย่างคุณโก้ วรนัยน์ วาณิชกะ ได้เสริมว่า “ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งที่ กทม. ต้องมีหน้าที่บริการสิ่งเหล่านี้แก่ผู้หญิงที่รับหน้าที่สำคัญในการตั้งครรภ์และดูแลสิ่งมหัศจรรย์อย่างเด็กน้อย ที่จะเติบโตมาเป็นทรัพยากรที่สำคัญในการพัฒนาสังคม และ เติมแต่งความสวยงามที่หลากหลายให้แก่สังคมและชีวิตของเด็กน้อยเหล่านั้นเอง คุณจะคาดหวังให้เกิดการพลิกโฉมกรุงเทพมหานครได้อย่างไร หากคุณภาพของคนในเมืองยังไม่ได้รับการดูแลอย่างดีตั้งแต่แรกเริ่ม”
นส.พิมพ์ญาดา ผู้สมัครสก.เขตพระโขนง ได้กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าวว่า “การลาคลอดของแม่เด็กตามกฎหมายมีเวลาเพียง 3 เดือน ก่อนที่พวกเขาต้องกลับไปทำงานและห่างจากลูกน้อยที่ยังไม่หย่านมและยังควานหาความอบอุ่นจากอกแม่ นั่นจึงเป็นสาเหตุให้แม่หลายคนต้องลาออกจากงานเพื่อเลี้ยงลูก หรือ ฝากลูกน้อยไว้ให้พี่เลี้ยงดูแลตามลำพัง ดังนั้น BMA Nursery จะเป็นการบริการดูแลเด็กอ่อนตั้งแต่ 3 เดือนจนถึง 2 ขวบ ทั้งในด้านโภชนาการ ด้านการพัฒนาการตามวัย รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง คุณพ่อ คุณแม่ และ ลูกน้อย เพื่อสร้างเกราะทางใจให้แก่ลูกน้อยในการเติบโตต่อไป โดย BMA Nursery จะกระจายอยู่ทุกเขตของกทม. โดยบุคลากรจะเป็นคนในพื้นที่ที่ต้องผ่านการเรียนรู้หลักสูตรการเลี้ยงดูเด็กเล็ก และ ได้รับการประเมินทุก ๆ 3 เดือน จากคุณหมอเด็ก นักโภชนาการเด็ก รวมถึงนักสังคมสงเคราะห์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แม่ๆในการฝากลูกน้อยได้อย่างสบายใจ”
ในส่วน น.ส.วีรานันท์ influencer สาวก็เสนอเสริมว่า “นอกจากเราจะดูแลเด็กเล็กหลังคลอดออกมาแล้ว ก่อนคลอดก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องได้รับการดูแล นโยบาย Value 1,000 วัน ก็เป็นอีกหนึ่งการบริการที่ทาง กทม. ต้องให้คำนึงถึง การส่งเสริมโภชนาการของคุณแม่ตั้งแต่ตั้งครรภ์ การดูแลสุขภาพของคุณแม่หลีกเลี่ยงการมีภาวะโลหิตจาง
ไม่ขาดไอโอดีน เมื่อลูกน้อยคลอดออกมา 3 เดือนแรกที่แม่ต้องเลี้ยงลูกน้อยที่บ้าน จะมีการบริการตามบ้านผ่าน อสม. ในการเสริมความมั่นใจในภาคปฏิบัติแก่คุณบ้าน เสริมพลังด้านโภชนาการแก่เด็กเล็ก และ การสังเกตุพัฒนาเพิ่มเติมจากที่ต้องนัดพบคุณหมอ”
“และสิ่งที่เราจะลืมไม่ได้คือ การให้กำลังใจคุณแม่ตลอดการเดินทางที่แสนสำคัญนี้ผ่านนโยบาย Mommy’s Friends” คุณแอนได้เสนอความคิดเห็นเพิ่มเติมพร้อมกล่าวต่อว่า “Mommy’s Friends ต้องสร้างพื้นที่ ๆ ปลอดภัยแก่คุณแม่ ตั้งแต่การออกแบบการเดินทางทั้งทางเท้า ทางถนน ทางน้ำ และทางรางที่เป็นมิตรกับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์
“เข็มกลัดเพื่อนคุณแม่” จะเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่จะทำให้คุณแม่ได้รับการอำนวยความสะดวกมากขึ้นและได้รับการดูแลในการเดินทาง โดย mommy’s friends จะเป็นเหมือนเพื่อนคุณแม่ตลอดการเดินทางจนคลอดน้องออกมา คุณแม่จะได้รับการประเมินสภาพจิตใจ และ สภาพร่างกายอย่างเป็นระบบ เพื่อให้คุณแม่ได้รับการฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ในการกลับไปดำเนินชีวิตต่อไป”
การให้บริหารเหล่านี้จะเป็นการช่วยหนุนเสริมให้ชาว กทม. ทั้งหญิงและชายไม่ต้องกังวลในการมีบุตร และ สร้างความมั่นใจได้ว่า พรรครวมไทยยูไนเต็ดต้องการเข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการพลิกโฉมกรุงเทพด้วยการเสริมความแข็งแกร่งในทุกภาคส่วนของสังคมอย่างจริงจังและเป็นระบบ